ประธานาธิบดีปูติน ให้สัมภาษณ์ผู้สื่อข่าวทีวี รอสสิยา ออกอากาศเมื่อวันที่ 28 มกราคม เกี่ยวกับการที่ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ แห่งสหรัฐฯ เพิ่มแรงกดดันให้รัสเซียและยูเครนอย่างต่อเนื่องให้ต้องยุติการสู้รบ นับจากรับตำแหน่งเมื่อ 9 วันก่อน โดยขู่ว่าจะแซงชั่นรัสเซียเพิ่มขึ้นอีก หากอิดออดเจรจาสันติภาพ ขณะอ้างว่า เซเลนสกี้พร้อมจะเจรจาทำความตกลง ซึ่งปูติน ตอบคำถามนี้ว่า หากเซเลนสกี้ต้องการมีส่วนร่วมกับการเจรจา เขาจะจัดคนไปเจรจาแทน เพราะผู้นำยูเครนคนนี้ ขาดความชอบธรรม วาระการดำรงตำแหน่งประธานาธิบดียูเครนสิ้นสุดลงแล้วในระหว่างกฎอัยการศึก เซเลนสกี้จึงไม่มีอำนาจลงนามเอกสารใด ๆ
ปูติน กล่าวว่า หากมีความปรารถนาจะหาทางรอมชอมกันแล้ว ก็ให้ใครสักคนนำการเจรจา ว่ากันตามหลัก รัสเซียจะแสวงหาสิ่งที่เหมาะสมกับตัวเอง อะไรก็ตามที่สอดคล้องกับผลประโยชน์ของเรา
ผู้นำรัสเซีย ยังอ้างว่าการสู้รบจะยุติได้ในเวลาเพียง 2 เดือน หรืออาจจะในหนึ่งเดือนหรือเดือนครึ่งก็ได้ หากตะวันตกตัดการสนับสนุนรัฐบาลเคียฟ
ด้านประธานาธิบดีเซเลนสกี้ ตอบโต้ทันที โดยบอกว่า ปูตินกำลังยืนยันอีกครั้งว่า กลัวการเจรจา กลัวผู้นำที่เข้มแข็ง และกำลังใช้อุบายเชิงดูถูกเหยียดหยาม เพื่อเตะถ่วงสงครามที่ยืดเยื้อมาเกือบ 3 ปี โอกาสบรรลุสันติภาพอย่างแท้จริงนั้นมีอยู่ แต่เป็นประมุขเครมลินเองที่ขัดขวางความพยายามยุติการสู้รบ
ยูเครน ยังเตือนไม่ให้ตัดตัวเองออกไป ในการเจรจาสันติภาพระหว่างรัสเซียกับสหรัฐฯ และกล่าวหาปูติน ว่า ต้องการปั่นหัวทรัมป์
เคียฟ อินดิเพนเดนท์ รายงานว่า รัสเซียชอบใช้คำกล่าวอ้างว่า เซเลนสกี้ไม่มีความชอบธรรม เป็นโฆษณาชวนเชื่อ เพื่อพยายามดิสเครดิตรัฐบาลยูเครน นักกฎหมายและผู้เชี่ยวชาญรัฐธรรมนูญในยูเครน มีความเห็นตรงกันว่า เป็นคำกล่าวอ้างผิด ๆ และไม่มีมูล
การสู้รบระหว่างสองฝ่ายไม่มีทีท่าว่าจะลดลง แม้ทรัมป์สัญญาว่าจะหาทางหยุดยิงให้เร็วที่สุด กองทัพรัสเซีย อ้างในวันเดียวกันว่า ยึดหมู่บ้าน ดโวร์ริชนา ในแคว้นคาร์คิฟ ทางตะวันออกเฉียงเหนือของยูเครน หมู่บ้านแห่งนี้ เป็นหมู่บ้านขนาดใหญ่ เคยมีประชากรก่อนเกิดสงครามกว่า 3 พันคน ตั้งอยู่ฝั่งตรงข้ามของแม่น้ำ ออสคิล รัสเซียเคยบุกยึดในช่วงเริ่มแรกของสงคราม ก่อนยูเครนยึดคืนจากปฏิบัติการจู่โจมหลายเดือนให้หลัง
