No data was found

บุคลากรทางการแพทย์ เผยเรื่องราวสุดเศร้า หลังต้องเห็นผู้ป่วยโควิดจากไปต่อหน้าต่อตา พ้อถ้าอยากบ่นขอให้คิดถึงพวกเราที่ รพ.

กดติดตาม TOP NEWS

บุคลากรทางการแพทย์ เผยเรื่องราวสุดเศร้า หลังต้องเห็นผู้ป่วยโควิดจากไปต่อหน้าต่อตา พ้อถ้าอยากบ่นขอให้คิดถึงพวกเราที่ รพ.

กลายเป็นเรื่องราวในโลกออนไลน์ที่บรรดาชาวเน็ตต่างแชร์ข้อความของเฟซบุ๊ก “Jedsada Wangchakorn” ที่เปิดเผยเรื่องราวสุดเศร้า โดยได้ระบุว่า #โปรดอ่านให้จบนะครับทุกท่าน พี่บุคลากรทางการแพทย์ท่านนึงโพสต์ไว้ Covid19 ขออนุญาตแชร์ สุดท้ายทีมก็ทำอะไรไม่ได้ เพราะทางออกเดียวคือใส่ท่อช่วยหายใจ ถ้าคนไข้บอกไว้ก่อนแล้วว่าไม่ต้องการใส่ท่อหรือปั๊มหัวใจ เราก็ได้แต่ให้ยามอร์ฟีนเพื่อให้คนไข้ไม่ทรมาน Process of dying นี่แหละคือความน่ากลัว ไม่มียาฆ่าไวรัส ไม่มียารักษา รักษาตามอาการ ยาที่ใช้อยู่ตอนนี้ก็เหมือนเสี่ยงดวง ทุกอย่างขึ้นอยู่กับดวง!!

คือทั้งทีมได้แต่ยืนมองคนไข้นอนทุรนทุรายกระเสือกกระสนต่อสู้เพื่อลมหายใจแต่ละเฮือก แต่ละเฮือกนั่นเป็นสิ่งที่แสนทารุณ ญาติพี่น้อง ลูก หลาน ผัว เมีย ก็ไม่ได้ร่ำลา เป็นการตายที่โดดเดี่ยวและทรมาน บางทีก็อดคิดไม่ได้ว่าคนไข้เหล่านี้จะกลัวและโดดเดี่ยว ขนาดไหนในช่วงเวลาสุดท้ายและลมหายใจสุดท้ายของชีวิต คนรักษาก็ได้แต่ยืนมองแล้วก็ได้แต่คิดว่าวันนี้เราจะดวงดีเหมือนเมื่อวานไหม แล้วพรุ่งนี้ล่ะ เรายืนมองคนไข้ที่รู้หละว่าอาจจะอยู่ได้ไม่ถึงเวลาที่เราจะออกกะคือ 12 ชั่วโมง แต่ทำอะไรไม่ได้นอกจากให้ยากดประสาทเพื่อคนไข้จะได้ทรมานน้อยลงและหวังว่าจะจากไปอย่างสงบ เหมือนเราไร้ค่าและไม่มีประโยชน์อะไรเลย ที่ร่ำเรียน ฝึกฝนมาไม่ได้ช่วยใครได้เลย

คุณลองคิดดูว่าถ้าพ่อ แม่ พี่น้องหรือคนที่คุณรัก ต้องตกอยู่ในสภาพเดียวกับคนใข้ของเราล่ะ ไปส่งกันที่โรงพยาบาล ลูบหน้าลูบหลังลากัน แล้วนั่นคือสัมผัสสุดท้าย กอดสุดท้าย การลาครั้งสุดท้าย คุณยังไม่ได้สั่งเสีย ไม่ได้ขอโทษ ไม่ได้บอกรักกัน ไม่ได้บอกว่าคุณโชคดีที่ได้รู้จักและได้ใช้ชีวิตร่วมกัน เป็นพ่อ แม่ ลูกกัน เป็นคนรักกัน เป็นเพื่อนกัน นี่แหละคือความทรมาน และปวดร้าวใจ

… ตอนนี้ถึงเข้าใจว่าทำไมเราต้องให้อภัยกัน กอดกัน และบอกรักกันทุกวัน
คุณโชคดีที่ได้นอนอยู่บ้าน มีinternet มีหนังดู มีขนมกิน ได้อยู่กับครอบครัว ถ้าคุณอยากจะบ่น ก็ขอให้คิดถึงพวกเราที่โรงพยาบาล เราก็กลัว เราก็เหนื่อย เราก็ล้าและเราก็มีคนที่รักเรา รอเรากลับบ้านเหมือนคุณ เราก็แค่คนธรรมดาคนหนึ่ง ไม่ได้กล้าหาญอะไร ออกจะกลัวจนขี้ขึ้นสมองด้วยซ้ำ ถ้าเลือกได้เราก็ขอนอนดูหนังอยู่ที่บ้านเหมือนพวกคุณ เราก็ไม่อยากมาทำงานที่นอกจากจะต้อง พก PPE แล้วยังต้องมีพระเครื่องพวงใหญ่ที่พ่อแก้วแม่แก้วให้มาคุ้มครองปกป้องลูกที่ตอนนี้ก็ปาเข้าไป 40กว่า
อยู่บ้านเถอะคุณ ถ้าคิดว่าตัวเองติดเชื้อก็อย่าโกหก กักตัวเองเถอะ อย่าเห็นแก่ตัว คุณอาจจะไม่เป็นอะไร คุณอาจจะไม่มีใครรักหรือห่วงคุณ

คุณอาจจะเห็นแก่ตัวไม่รักและไม่ห่วงใคร แต่คนที่คุณเอาโรคไปติดเขานั้น เขาก็มีครอบครัวมีคนที่รักเขา เขาอาจจะเป็นพ่อ เป็นแม่ เป็นพี่ เป็นน้อง เป็นลูก เป็นเพื่อน ใครจะรู้เขาอาจจะเป็น คนเดียวที่หาเลี้ยงทั้งครอบครัว เขาอาจจะเป็นความหวังเดียวของพ่อแม่ที่แสนชรา หรือเป็นพ่อ หรือ แม่ เลี้ยงเดี่ยวของลูกพิการที่รออยู่ที่บ้าน เขาอาจจะมีกันแค่สองคนพี่น้อง อยากจะขอร้องให้ทุกคนร่วมมือกัน ถ้าไม่คิดว่าทำเพื่อตัวเอง ก็ทำเพื่อคนอื่น หรือเพื่อชาติก็แล้วกัน

 

 

ข่าวที่น่าสนใจ

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ข่าวล่าสุด

หัวเหว่ย ดอดสนับสนุนงานวิจัยสหรัฐ
รัสเซีย ปชช.ตบเท้ากลับประเทศหนุนเศรษฐกิจ
เนปาล ไฟป่ากระหน่ำ
ยูเออี- ดูไบผวา ฝนตกหนักซ้ำ
"นักธุรกิจดัง" ชักปืนปลิดชีวิตตัวเองดับคารถ ตร.เร่งสอบสาเหตุ
หอการค้าไทย Kick Off โครงการรวมพลังคนไทย บริจาคโลหิต ปี 2567 ต่อยอดโครงการ 9 แสนซีซี 90 ปี หอการค้าไทย เชิญชวนสมาชิกร่วมบริจาคโลหิต เพื่อใช้สำรองยามขาดแคลน
ไทยเนื้อหอม "โฆษกฯ" เผย "นักลงทุนต่างชาติ" ปักหมุดตั้งสำนักงานในไทยเพิ่ม
ข่าวดี กรมการจัดหางาน ขยายเวลาแรงงานอิสระกู้เงินกองทุนฯ ถึง 31 พ.ค. 67
สุดงง หนุ่มนั่งแท็กซี่ จากบางแคไปสุวรรณภูมิ มิเตอร์พุ่ง เกือบ 2 พัน
แทบช็อก ถางป่าหลังบ้าน เจอกะโหลก-กระดูกมนุษย์ กระจายเกลื่อน รีบแจ้งตร.เข้าตรวจสอบ

ดู LIVE รายการ

X

เราใช้ คุ้กกี้ เพื่อให้ทุกคนได้ประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น