ตร.เปิดข้อมูล “หนุ่มจีน” ตัวกลางซื้อขายเงินดิจิทัล เชิดคริปโตคนชาติเดียวกัน 13 ล้าน พบหนีออกนอกประเทศไปมาเก๊าแล้ว

ตำรวจเผย "นายเฉิน" หนุ่มจีน ตัวกลางซื้อขายเงินดิจิทัล ก่อนเชิดคริปโตผู้เสียหายชาติเดียวกันไปมูลค่า 13 ล้านบาท ล่าสุด พบข้อมูลหนีออกนอกประเทศไปมาเก๊าแล้ว

ตร.เปิดข้อมูล “หนุ่มจีน” ตัวกลางซื้อขายเงินดิจิทัล เชิดคริปโตคนชาติเดียวกัน 13 ล้าน พบหนีออกนอกประเทศไปมาเก๊าแล้ว – Top News รายงาน

หนุ่มจีน

ความคืบหน้ากรณี ที่คนจีนหักซื้อขายเงินดิจิทัลกับคนจีนกันเอง โดย โบรกเกอร์ซึ่งเป็นคนกลางการซื้อขายเชิดคริปโตไป ทำให้ผู้ซื้อและผู้ขายมีปัญหากันเองถึง 3 ราย เหตุเกิดเมื่อวานในท้องที่ สน.ห้วยขวาง 2 คดี ความเสียหาย 13 ล้านบาท และในท้องที่ สน.มักกะสัน อีก 1 คดี ความเสียหาย 4.5 ล้านบาท รวมความเสียหายทั้งหมดเป็นเงิน 17.5 ล้านบาทนั้น

 

 

ข่าวที่น่าสนใจ

ล่าสุดวันนี้ 10 ม.ค.68 พันตำรวจเอก ประสพโชค เอี่ยมพินิจ ผู้กำกับการ สน.ห้วยขวาง เปิดเผยความคืบหน้าว่า ในส่วนของคดีที่ สน.ห้วยขวางทั้ง 2 คดีนั้น ตำรวจยึดเงินของกลางกลับคืนมาได้ทั้งหมด คือ 13 ล้านบาท และเก็บไว้เป็นของกลาง จนกว่าการทำสำนวนคดีแล้วเสร็จ จึงคืนให้แก่ผู้เสียหาย

โดยสรุปทั้ง 2 เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นนั้น นายเฉินซึ่งเป็นโบรกเกอร์ในการซื้อขายแลกเปลี่ยน เป็นต้นเหตุของความขัดแย้ง โดยก่อนหน้านี้นายเฉินจะเป็นตัวกลางในการซื้อขายแลกเปลี่ยนเงินดิจิทัลระหว่างผู้ซื้อและผู้ขาย ซึ่งที่ผ่านมาก็มีการซื้อขายกันได้จริง โดยผู้ขายจะต้องโอนเงินดิจิทัลเข้าบัญชีนายเฉินก่อน เนื่องจากให้ราคาถูกกว่า ซึ่งทำให้ผู้ซื้อสามารถนำไปขายทำกำไรต่อได้ โดยแผนประทุษกรรมก่อนหน้านี้ มีการซื้อขายกันได้จริงโดยเริ่มต้นจากการซื้อขายหลักแสนบาท ทำให้ผู้ซื้อและผู้ขายที่เคยให้นายเฉินเป็นโบรกเกอร์เกิดความไว้เนื้อเชื่อใจ ครั้งต่อมาจึงซื้อในจำนวนที่มากขึ้นๆ จนกระทั่งครั้งล่าสุดเมื่อวาน หลังจากที่ผู้ขายได้โอนเงินเข้าบัญชีนายเฉิน แต่นายเฉินกลับไม่โอนเงินดิจิทัลให้กับผู้ซื้อ จึงทำให้เกิดปัญหาระหว่างผู้ซื้อและผู้ขายที่ไม่เป็นไปตามข้อตกลง เงินดิจิทัลจึงไปตกอยู่ในมือนายเฉิน

จากการตรวจสอบล่าสุด พบว่านายเฉินเดินทางออกจากประเทศไทยไปมาเก๊า เมื่อวันที่ 8 มกราคมที่ผ่านมา ทำให้ทราบว่าบงการอยู่ที่มาเก๊า

และเมื่อประสานข้อมูลไปยัง สน.มักกะสัน เพื่อตรวจสอบอีกคดีที่เกิดขึ้นในลักษณะเดียวกัน วันเดียวกัน ซึ่งมีความเสียหายเป็นเงิน 4.5 ล้านบาท ปรากฏว่าโบรกเกอร์ไม่ใช่นายเฉินที่เป็นต้นเหตุในคดีที่เกิดขึ้นใน สน.ห้วยขวาง โบรกเกอร์เป็นคนละคนกัน

สำหรับรถโตโยต้า อัลพาร์ด ที่ใช้ก่อเหตุ ชิงเงิน 5 ล้านบาท ตำรวจได้นำมาจอดเก็บไว้ที่ สน.ห้วยขวาง โดยเมื่อคืนเจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐานได้มาตรวจสอบเก็บหลักฐานภายนอกรถเบื้องต้นแล้ว

ส่วนการสอบปากคำพยาน มีการสอบไปหลายปากแล้ว โดยในวันนี้ได้นัดให้เจ้าของอาคารย่านยานาวา ที่เจ้าของรถโตโยต้า อัลพาร์ด ไปเช่าเปิดออฟฟิศมาให้ปากคำ

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ข่าวล่าสุด

‘ชัยวัฒน์’ โพสต์เดือดถึงปลัดทส. ลั่นเจอกันที่ศาล เหตุหนังสือไล่ออกแชร์ว่อน
เหิมไม่หยุด โซเชียลเขมรเปิดภาพเตรียมพร้อมรบ "ทหารกัมพูชา" แต่งยูนิฟอร์มจัดเต็ม
คนไทยแห่ต่อคิวข้าม "ด่านคลองลึก" ไปทำงานฝั่ง "ปอยเปต" แถวยาวถึงตลาดโรงเกลือ ด้านเขมร ข้ามฝั่งมาบางตา
สมช. เตรียมถกด่วน ประเมินสถานการณ์ รับมือรัฐบาลกัมพูชาหยุดซื้อไฟ-เน็ตไทย
"ชาวบ้านมะมัง" สุดทน ลุกฮือต้าน "พระนักเทศน์ชื่อดัง" กลับวัด หลังไลฟ์สดยุ "ทหารกัมพูชา" ยิงคนสุรินทร์ ให้ตุยทั้งหมด
กต.สรุปผลประชุม JBC ไทย-กัมพูชา ลุล่วงด้วยดี ยกก้าวสำคัญจัดทำเขตแดน ช่วยลดตึงเครียด เตรียมถกอีกรอบกันยายนนี้
"กัมพูชา" ยอมเปิดด่านให้ผลไม้เข้า ตั้งเงื่อนไขตอบโต้ไทย สั่งห้ามนำเข้าผลไม้จาก "จันทบุรี"
“อนุทิน” มั่นใจ "นายกฯอิ๊งค์" ไม่ชิงยุบสภา แจงยังคุยกันปกติ ย้ำยึดประโยชน์ปชช.เป็นแนวทำงาน
สหรัฐจัดพิธีสวนสนามกองทัพยิ่งใหญ่ท่ามกลางเหตุประท้วง
โฆษกทบ. ยืนยันไม่พบทหารกัมพูชาติดอาวุธ ปิดถนนขึ้นสามเหลี่ยมมรกต ขอประชาชนฟังข้อมูลหน่วยงานราชการ

ดู LIVE รายการ

X

เราใช้ คุ้กกี้ เพื่อให้ทุกคนได้ประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น