“อัยการ” เรียก “เจ๊อ้อย-เลขาฯ” สอบเพิ่มคดี “ทนายตั้ม” ปมฉ้อโกง-ร่วมกันฟอกเงิน

อัยการเรียก "เจ๊อ้อย" เเละเลขาฯ เพื่อสอบสวนเพิ่มเติม ในคดี "ทนายตั้ม" กับพวก ในความผิดฐาน ฉ้อโกง ร่วมกันฟอกเงิน และความผิดอื่นที่เกี่ยวข้อง

“อัยการ” เรียก “เจ๊อ้อย-เลขาฯ” สอบเพิ่มคดี “ทนายตั้ม” ปมฉ้อโกง-ร่วมกันฟอกเงิน – Top News รายงาน

 

เจ๊อ้อย

เมื่อวันที่ 7 มกราคม 2568 เวลา 09.15 น. วั สำนักงานการสอบสวน สำนักงานอัยการสูงสุด อาคารถนนบรมราชชนนี นางจตุพร อุบลเลิศ หรือเจ๊อ้อย พร้อมด้วย น.ส.ปัทมพร แสงฤทธิ์ หรือคุณน้อย เลขานุการส่วนตัวเดินทางมาด้วยรถเอสยูวี ยี่ห้อฟอร์ด รุ่นแพลตตินั่ม ทะเบียนป้ายแดง ม 9398 กรุงเทพมหานคร เพื่อเข้าพบคณะทำงานร่วมสอบสวนคดี โดย นายวัชรินทร์ ภาณุรัตน์ รองอธิบดีอัยการ สำนักงานการสอบสวน หัวหน้าคณะทำงาน คดีนอกราชอาณาจักร เพื่อสอบสวนเพิ่มเติมกรณีนางจตุพรดำเนินคดีกับนายษิทรา เบี้ยบังเกิด กับพวก ในความผิดฐาน ฉ้อโกง ร่วมกันฟอกเงิน และความผิดอื่นที่เกี่ยวข้อง

นายวัชรินทร์ ภาณุรัตน์ รองอธิบดีอัยการสำนักงานการสอบสวน ในฐานะหัวหน้าคณะทำงานกล่าวก่อนทำการสอบสวนว่า คดีนี้เป็นไปตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญามาตรา 20 เป็นคดีนอกราชอาณาจักรที่เป็นอำนาจของท่านอัยการสูงสุด คดีนี้อัยการสูงสุดได้มอบหมายให้พนักงานอัยการสำนักงานการสอบสวน เข้ามาร่วมสอบสวนคดี ซึ่งการร่วมสอบสวนอัยการจากสำนักงานการสอบสวนจะมีอำนาจหน้าที่ ออกคำสั่งหรือให้คำแนะนำในการรวบรวมพยานหลักฐานทั้งหมด ซึ่งทางคณะพนักงานอัยการได้มีการร่วมประชุมกับพนักงานสอบสวนกองบังคับการปราบปรามแล้ว เมื่อได้ดูสำนวนแล้วก็ยังมีประเด็นที่จะต้องสอบถามนางจตุพร ซึ่งเป็นประธานของคดีในการเป็นผู้เสียหายและเป็นผู้เริ่มคดี

 

 

ข่าวที่น่าสนใจ

นายวัชรินทร์ กล่าวว่า คดีนี้มีกรอบระยะเวลาในการพิจารณาเนื่องจากคดีนี้เป็นคดีนอกราชอาณาจักรอำนาจการสั่งคดีเป็นของอัยการสูงสุดแต่เพียงผู้เดียว เรื่องนี้เราจะกราบเรียนเสนอส่งถึงอัยการสูงสุดภายในวันที่ 15 ม.ค. ซึ่งจะทันในช่วงระยะเวลาฝากขังครั้งสุดท้าย ให้คณะทีมงานกลั่นกรองของท่านอัยการสูงสุดได้มีเวลาการกรองสำนวนก่อนส่งให้ท่านอัยการสูงสุดพิจารณาอย่างถี่ถ้วนให้ยังพอมีเวลาเผื่อหากท่านอัยการสูงสุดมีประเด็นที่อาจจะสั่งสอบสวนเพิ่มเติมอีก

 

นายวัชรินทร์ กล่าวว่า โดยหลังจากนี้ที่สำนักงานการสอบสวนจะมีการเรียกพยานในคดีมาสอบสวนเกือบทุกวัน และอาจจะมีพยานบางปากที่อัยการจะต้องไปสอบสวนนอกสถานที่ สำหรับพยานที่ต้องสอบสวนเพิ่มเติมจะมีทุกประเภท ไม่ว่าจะเป็นพยานที่เกี่ยวกับเส้นทางการเงินหรือเกี่ยวกับข้อเท็จจริงต่างๆ ที่จะเป็นประเด็นพิสูจน์ได้ว่าผู้ต้องหามีความผิดหรือความบริสุทธิ์ ยังต้องสอบอีก 15 ปาก ยืนยันว่าจะสอบสวนทันภายในระยะเวลาที่กำหนดไว้

ด้าน น.ส.จตุพรหรือเจ๊อ้อยกล่าวว่า ตนเดินทางกลับมาประเทศไทย เมื่อวันที่ 6 ม.ค.ที่ผ่านมา เพื่อมาให้การสอบสวนเพิ่มเติมตามที่พนักงานอัยการได้แจ้งมา สำหรับการสอบสวนในวันนี้ตนไม่ได้มีหลักฐานมาเพิ่มเติม แต่มาให้ข้อมูลที่ทางพนักงานสอบสวนและพนักงานอัยการเห็นว่า ยังต้องการข้อมูลเพิ่มเติมเท่านั้น ทั้งนี้ตนพร้อมจะให้ความร่วมมือในการสอบสวน เพราะเชื่อมั่นในกระบวนการการสอบสวนที่มีความรัดกุมว่า จะทำให้เอาผิดกับทนายตั้มกับพวกได้ถึงที่สุด และขอยืนยันว่าตนจะดำเนินคดีถึงที่สุด ไม่มีการยอมความ และได้มอบหมายให้ทางคุณสนธิ ลิ้มทองกุล มาช่วยดูแลในคดีนี้อย่างเต็มที่ หากจะมีการเจรจาต้องไปพูดคุยกับทางคุณสนธิเท่านั้น ส่วนตนยืนยันว่าไม่มีการยอมความแน่นอน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ข่าวล่าสุด

"สรรเพชญ" เตือนรัฐบาล อย่ามองข้ามเงื่อนไขแฝง แลกสหรัฐลดภาษีการค้าเหลือ 19 % แนะเร่งวาง 6 ยุทธศาสตร์ รักษามั่นคงทางศก.
กัมพูชาเล็งต่อรองสหรัฐลดภาษีลงต่ำกว่า 19%
“ปณิธาน” แนะ รบ.ติดตามผลพาทูตต่างชาติ ดูจุดประเทศไทยโดนโจมตี เพื่อเรียกร้องเวทีโลก กดดัน "กัมพูชา"
มูลนิธิอาสาเพื่อนพึ่ง (ภาฯ) ยามยาก สภากาชาดไทย จัดพิธีมอบถุงยังชีพพระราชทาน ช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย พื้นที่จังหวัดน่าน
มูลนิธิคีนันแห่งเอเซียขับเคลื่อนนวัตกรรมการศึกษาในภาคตะวันออกของประเทศไทยผ่าน AI และการเรียนรู้แบบใช้โครงงานเป็นฐาน
ครม.นัดพิเศษ ไฟเขียวงบกลางเยียวยา "จนท.-ปชช." เหตุปะทะแนวชายแดนไทย-กัมพูชา เตรียมชงเคาะตัวเลข สัปดาห์หน้า

ดู LIVE รายการ

เราใช้ คุ้กกี้ เพื่อให้ทุกคนได้ประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น​