วันที่ 1 พฤษภาคม 2564 ศาสตราจารย์ ดร.สมเด็จพระเจ้าน้องนางเธอ เจ้าฟ้าจุฬาภรณวลัยลักษณ์ อัครราชกุมารี กรมพระศรีสวางควัฒน วรขัตติยราชนารี องค์ประธานราชวิทยาลัยจุฬาภรณ์ เสด็จออก ณ ตำหนักทิพย์พิมาน อำเภอปากช่อง จังหวัดนครราชสีมา ด้วยทรงมีความห่วงใยต่อสถานการณ์แพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 โดยเฉพาะในเขตกรุงเทพมหานคร จึงโปรดให้ราชวิทยาลัยจุฬาภรณ์ จัดหายาฟาวิพิราเวียร์ (Favipiravir) จำนวน 70,000 เม็ด เพื่อนำไปช่วยเหลือผู้ป่วย
การนี้ พระราชทานพระวโรกาสให้ นายแพทย์เกียรติภูมิ วงศ์รจิต ปลัดกระทรวงสาธารณสุข เข้าเฝ้าฯ รับพระราชทานยาฟาวิพิราเวียร์ จำนวน 10,000 เม็ด , แพทย์หญิงวันทนีย์ วัฒนะ รองปลัดกรุงเทพมหานคร เข้าเฝ้าฯ รับพระราชทานยาฟาวิพิราเวียร์ จำนวน 50,000 เม็ด และพลโทชาญชัย ติกขะปัญโญ เจ้ากรมแพทย์ทหารบก เข้าเฝ้าฯ รับพระราชทานยาฟาวิพิราเวียร์ จำนวน 10,000 เม็ด เพื่อนำไปแจกจ่ายแก่ผู้ป่วยในสถานการณ์การแพร่ระบาดของ โรคติดเชื้อไวรัสโควิด-19 ในพื้นที่กรุงเทพมหานครต่อไป
การนี้ มีพระดำรัสแก่คณะผู้เข้าเฝ้าฯ พร้อมพระราชทานกำลังใจให้แก่บุคลากรผู้ปฏิบัติงานช่วงวิกฤติโควิด-19 ในทุกภาคส่วน ที่ได้ปฏิบัติหน้าที่ด้วยทุ่มเท เสียสละ และร่วมกันช่วยเหลือผู้ป่วยอย่างน่าชื่นชม ที่ผ่านมาทรงห่วงใยและทรงให้ความสำคัญในการปฏิบัติงานของบุคลากรในทุกภาคส่วน ทั้งทีมแพทย์ พยาบาล บุคลากรทางการแพทย์ ที่ต้องรับภาระและความเสี่ยงสูงในการเป็นแนวหน้าต่อสู้กับสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 รวมทั้ง บุคลากรหน่วยงานทั้งภาครัฐและเอกชน
โดยทรงติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด พร้อมทั้งพระราชทานความช่วยเหลือด้านการแพทย์อย่างต่อเนื่อง อาทิ โปรดเกล้าฯ ให้ราชวิทยาลัยจุฬาภรณ์ ร่วมกับ กองทัพอากาศ จัดตั้งโรงพยาบาลสนามเพื่อรองรับการดูแลผู้ป่วยโควิด-19 ณ อาคารฝึกและทดสอบสมรรถภาพกองทัพอากาศ 2 สนามกีฬาจันทรุเบกษา กองทัพอากาศ ดอนเมือง กรุงเทพมหานคร พร้อมให้การสนับสนุนอุปกรณ์ และเครื่องมือทางการแพทย์ พระราชทานเครื่องช่วยหายใจ เพื่อให้โรงพยาบาลต่าง ๆ ในกรุงเทพมหานคร และปริมณฑล สามารถขอความอนุเคราะห์ และนำไปใช้ในกรณีเครื่องมือไม่เพียงพอ
นอกจากนี้ ยังโปรดเกล้าฯ ให้โรงงานผลิตเภสัชภัณฑ์ในพระดำริ ราชวิทยาลัยจุฬาภรณ์ พัฒนาสูตรเจลแอลกอฮอล์ล้างมือที่ได้มาตรฐาน ควบคุมคุณภาพให้ดียิ่งขึ้น อีกทั้งเพิ่มกำลังการผลิตเพื่อให้บริการแก่ผู้ป่วยและญาติ ณ โรงพยาบาลจุฬาภรณ์ และพระราชทานเจลแอลกอฮอล์ล้างมือแก่โรงพยาบาล หน่วยงาน และมูลนิธิต่างๆ เพื่อสุขอนามัยและเพิ่มประสิทธิภาพในการป้องกันการแพร่ระบาดของโควิด 19 นับเป็นพระกรุณาธิคุณเป็นล้นพ้นหาที่สุดมิได้แก่ปวงชนชาวไทย