“ดีอี” เร่งแก้กฎหมายปราบ “แก๊งคอลเซ็นเตอร์” หลอกโอนเงิน เอาผิดแบงก์-ค่ายมือถือ

กระทรวงดีอี แก้กฎหมายเอาผิดแบงก์-ค่ายมือถือ ปล่อยปละละเลยให้เกิดความเสียหายกับประชาชน พร้อมสร้างความตระหนักรู้ให้ประชาชน ป้องกันการตกเป็นเหยื่อแก๊งมิจฉาชีพ อยู่ระหว่างการเสนอคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจร่าง เพิ่มโทษจำคุกจาก

“ดีอี” เร่งแก้กฎหมายปราบ “แก๊งคอลเซ็นเตอร์” หลอกโอนเงิน เอาผิดแบงก์-ค่ายมือถือ – Top News รายงาน

 

ดีอี

เมื่อวันที่ 19 ธันวาคม 2567  นายประเสริฐ จันทรรวงทอง รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอี) เปิดเผยว่า ขณะนี้ พรก.มาตรการป้องกันและปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยี พ.ศ. 2566 ได้มีการแก้ไขเพิ่มเติมแล้วเพื่อให้ผู้ให้บริการโทรศัพท์ และธนาคาร มีส่วนรับผิดชอบความเสียหายกับประชาชนด้วย หากมีส่วนปล่อยปะละเลยให้เกิดความเสียหายกับประชาชน ซึ่งขั้นตอนอยู่ระหว่างการเสนอคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจร่าง หากไม่ขัดต่อกฎหมายอื่นๆ ก็จะส่งกลับมาให้คณะรัฐมนตรี (ครม.) เห็นชอบ และบังคับใช้เร็วที่สุด

 

 

 

ข่าวที่น่าสนใจ

สำหรับกฎหมายดังกล่าวเป็นการแก้ไข เพื่อให้การแก้ปัญหาอาชญากรรมออนไลน์มีประสิทธิภาพมากขึ้น นอกจากนี้จะมีเนื้อหาในเรื่องการเร่งรัดคืนเงินให้ผู้เสียหาย โดยเฉพาะกรณีที่มีการระงับหรืออายัดบัญชีม้าที่มีเงินในธนาคาร และการเพิ่มโทษ การซื้อขายข้อมูลส่วนบุคคล โดยถือว่า เป็นการกระทำที่ส่งผลกระทบร้ายแรงต่อประชาชน เศรษฐกิจ และสังคม โดยจะเพิ่มอัตราโทษจำคุกจาก 1 ปี เป็น 5 ปี ด้วย

อย่างไรก็ตาม ในช่วงที่ผ่านมากระทรวงดีอี ได้บูรณาการการทำงานร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อเร่งแก้ปัญญาอาชญากรรมออนไลน์ที่ส่งผลกระทบต่อประชาชน สามารถลดปัญหาลงได้กว่า 40% จากการศึกษาเคสที่ตกเป็นเหยื่อหลังๆ พบว่า ผู้เสียหายจะมีการคุยกับมิจฉาชีพก่อนโอนเงิน จึงจำเป็นต้องเร่งสร้างความตระหนักรู้ให้กับประชาชนมากยิ่งขึ้นว่า เทคนิคหรือวิธีการของมิจฉาชีพที่เข้ามาหลอกลวงมีวีธีการอย่างไรบ้าง จะช่วยเป็นเครื่องมือที่สร้างภูมิคุ้มกันให้กับประชาชนมากยิ่งขึ้น

นายประเสริฐ กล่าวเพิ่มเติมว่า การทำงานที่ผ่านมา ได้พยายามปิดทุกช่องทาง ทั้งบัญชีม้า ที่เปิดได้ยากขึ้น ซิมม้า ที่มีการกวาดล้างและใช้ AI จับว่ามีการโทรศัพท์มากกว่าร้อยครั้งต่อวันหรือไม่ ,การให้มีการจดแจ้งถือครองซิมที่มากกว่า 5 ซิมการ์ด รวมถึงการตรวจจับผู้ที่ลักลอบขายซิมม้า นอกจากนี้ ยังมีมาตรการเกี่ยวกับการตรวจสอบสินค้าก่อนรับ จากกรณีเก็บเงินปลายทางรวมถึงยังมีมาตรการที่จะออกมาในช่วงปีใหม่นี้ เกี่ยวกับลิงค์แอปดูดเงิน ต้องทำการเปลี่ยนระบบ ใครที่จะส่งเอสเอ็มเอสที่มีลิงค์ ต้องไปขึ้นทะเบียนกับผู้ให้บริการมือถือก่อนว่าใครเป็นผู้ส่ง และหากเป็นเอสเอ็มเอสที่ส่งไปแล้วทำให้เกิดความเสียหาย จะต้องมีส่วนร่วมรับผิดชอบด้วย

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ข่าวล่าสุด

"ปธน.สี จิ้นผิง" ถวายอาลัย "พระบรมราชชนนีพันปีหลวง" เสด็จสวรรคต หารือ "นายกฯอนุทิน" หนุนไทยทุกมิติ รับปากปราบภัยไซเบอร์ เห็นด้วยไม่มีนโยบายสร้างกาสิโน
กระทรวงยุติธรรม จัดงาน "2 ทศวรรษกําลังใจ ก้าวสู่โอกาสใหม่ด้วยนวัตกรรม" เฉลิมพระเกียรติ สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าพัชรกิติยาภา พร้อมเปิดตัว "หลักสูตรปัญญาบําบัด"
ผู้ต้องขังสงขลา ประดิษฐ์ริบบิ้นแสดงความอาลัยแด่สมเด็จพระพันปีหลวง
ท่าอากาศยานเชียงใหม่ ปรับเวลาให้บริการช่วงยี่เป็ง เพิ่มมาตรการเข้มป้องกันโคมลอย พร้อมอำนวยความสะดวกผู้โดยสารเต็มที่
กอ.รมน.บูรณาการมูลนิธิฯ หน่วยงาน ส่งธารน้ำใจช่วยผู้ประสบภัยน้ำท่วมอ่างทอง ถวายเป็นพระราชกุศลฯ
ป.ป.ช.รับหนังสือ ร้องสอบคดีสินบน 40 ล้าน ไอ้โม่งเสนอจ่าย "ไชยชนก" ละเว้นปราบพนันออนไลน์

ดู LIVE รายการ

เราใช้ คุ้กกี้ เพื่อให้ทุกคนได้ประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น​