“บอสพอล” เซ็นคำให้การความยาว 6 หน้า ทนายเผยเจ้าตัวไม่กังวลพร้อมสู้คดี

"บอสพอล" เซ็นคำให้การความยาว 6 หน้า ทนายเผยเจ้าตัวไม่กังวลพร้อมสู้คดี

Top newsรายงาน เมื่อเวลา 12:00 น. ที่ผ่านมา (2 ธ.ค. 67) นายวิฑูรย์ เก่งงาน ทนายความของนายวรัตน์พล วรัทย์วรกุล หรือบอสพอล ผู้ต้องหาในคดีบริษัทดิไอคอน ได้เข้าเยี่ยมบอสพอลในเรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ นานกว่า 2 ชั่วโมง ก่อนออกมาเปิดเผยหลังเข้าเยี่ยมว่า วันนี้มาคุยเรื่องคำให้การเพิ่มเติมเป็นลายลักษณ์อักษรที่จะต้องยื่นให้กับพนักงานสอบสวน กรมสอบสวนคดีพิเศษ หรือ DSI ซึ่งทีมทนายได้จัดทำคำให้การอย่างละเอียดจำนวน 6 หน้า และได้นำมาให้ “บอสพอล” ลงนามในคำให้การเป็นที่เรียบร้อยแล้ว

 

 

 

 

ข่าวที่น่าสนใจ

ซึ่งในคำให้การดังกล่าว นอกจากจะต่อสู้ในข้อกล่าวหาเดิม ยังได้เพิ่มเติมประเด็นต่อสู้ข้อกล่าวหาที่พนักงานสอบสวนได้แจ้งข้อหาเพิ่มเติมกับกลุ่มผู้ต้องหา ทั้งข้อหา “กู้ยืมอันเป็นการฉ้อโกงประชาชน หรือแชร์ลูกโซ่ // เป็นการทำธุรกิจเพื่อหาลูกข่าย หรือคนลงทุนมากกว่าเป็นการขายของ // และประกอบกิจการขายตรงโดยไม่ได้รับอนุญาต” ซึ่งในประเด็นดังกล่าว บอสพอลไม่ได้มีข้อกังวลใดๆ เนื่องจากได้พูดคุยเรื่องคำให้การเอาไว้ล่วงหน้าแล้ว ตนเอง และทีมทนายความได้อธิบายอย่างชัดเจน พร้อมทั้งจัดทำร่างคำให้การเบื้องต้นเอาไว้ให้กลุ่มผู้ต้องหาได้อ่าน ที่พูดคุยวันนี้จึงไม่มีประเด็นอะไรเพิ่มเติม

สำหรับกรณีที่จะตรวจสอบบรรดาผู้เสียหายว่าเป็นผู้เสียหายจริงหรือไม่ ทนายวิฑูรย์ กล่าวว่า อยู่ระหว่างรอเอกสารจาก DSI เนื่องจาก DSI ระบุว่า ในบรรดากลุ่มผู้เสียหายที่มาแจ้งความข้อหา “ฉ้อโกงประชาชน” ลดลงจากหมื่นกว่ารายเหลือ 9 พันกว่าราย ตนเองจึงทำหนังสือขอทาง DSI ตั้งแต่วันที่ 4 พฤศจิกายน ให้ส่งรายชื่อ และคำให้การกับพฤติการณ์ของผู้เสียหายทั้ง 9 พันกว่าราย อย่างละเอียดมาให้ จากนั้น DSI ได้ทำหนังสือตอบกลับมาเมื่อวันที่ 7 พฤศจิกายน ว่า อยู่ระหว่างการรวบรวมข้อมูล แต่ผ่านมาจนถึงขณะนี้ ตนเองก็ยังไม่ได้เอกสารดังกล่าว แม้จะให้ทีมงานไปขอเป็นรายชื่อมาแทน ก็ยังไม่ได้

 

 

 

ผู้สื่อข่าวเลยสอบถามต่อไปว่า มองว่าเป็นความล่าช้าของทาง DSI หรือไม่ ทนายวิฑูรย์ กล่าวว่า จากที่ตนเองสอบถามล่าสุด DSI ระบุว่ากำลังพิจารณาอยู่ว่าจะให้เอกสารได้หรือไม่ แต่ตนเองมองว่า เป็นสิทธิที่ฝั่งผู้ต้องหาจะต้องต่อสู้คดี DSI ก็ควรที่จะให้เอกสาร อย่างไรก็ตาม ไม่ว่าจะให้วันนี้ หรือจะให้พรุ่งนี้ก็ไม่ทันแล้ว ถือเป็นเรื่องที่ไม่ค่อยยุติธรรมที่ขอเอกสารจาก DSI แล้วยังไม่ได้ เพราะไม่งั้นจะต่อสู้คดีได้อย่างไร

ส่วนจะมีผลต่อการยื่นคำให้การเพิ่มเติมในวันพรุ่งนี้หรือไม่นั้น ทนายวิฑูรย์ ระบุว่า ตนเองก็จะยื่นคำให้การเพิ่มเติมเท่าที่จะยื่นได้ และจะพยายามทำให้ละเอียดที่สุด เนื่องจากฝั่งตนเองได้เตรียมพยานเอกสารมากถึง 1 ลัง รวมทั้งพยานหลักฐานจากราชการ โดยเฉพาะคำวินิจฉัยของ สคบ. ที่ยืนยันว่า ดิ ไอคอน ไม่ใช่ธุรกิจขายตรง แต่เป็นธุรกิจตลาดแบบตรง ส่วนตัวเชื่อมั่นว่าคำให้การ และพยานหลักฐานที่มีอยู่นั้น จะหักล้างข้อกล่าวหาได้เกือบหมด ส่วนการนำพยานฝั่ง ดิ ไอคอน มาให้ปากคำกับพนักงานสอบสวน DSI นั้น ทนายวิฑูรย์ ระบุว่า ก่อนหน้านี้ได้เจรจากับ DSI เพราะทาง DSI ขอให้คัดตัวแทนมาให้ปากคำ ตนเองก็เลยคัดตัวแทนสายบอสละ 5 คนไปให้ปากคำ เบื้องต้นได้ให้ปากคำไปแล้ว 5 ราย และวันนี้มีไปให้ปากคำกับ DSI อีก 12 ราย แล้วพรุ่งนี้จะไปอีกให้ครบ 30 คน

ผู้สื่อข่าวได้สอบถามกรณี “ฟิล์ม รัฐภูมิ” อดีตนักแสดงที่จะถูกออกหมายเรียกจากพนักงานสอบสวน กองบังคับการปราบปราม ทนายวิฑูรย์ ระบุว่า ส่วนตัวไม่มีความเห็นในเรื่องนี้ เพราะข้อหาที่ ฟิล์ม รัฐภูมิ ถูกออกหมายเรียก คือ พยายามฉ้อโกง ซึ่งก็เป็นไปตามที่ทีมทนายความได้แจ้งข้อหานี้กับทางพนักงานสอบสวนไปตั้งแต่แรก จึงเป็นเรื่องปกติที่พนักงานสอบสวนจะต้องออกหมายเรียกผู้ต้องหา เช่นเดียวกับนางสาวกฤษอนงค์ ซึ่งยังถูกฝากขังในคดีแรกอยู่ขณะนี้

ส่วนกรณีนายสามารถ เจนชัยจิตรวณิช นักการเมือง และผู้ต้องในข้อหา “ร่วมกันฟอกเงิน และสบคบกันฟอกเงิน” เท่าที่ตนเองทราบจากทีมทนายความของนายสามารถ ระบุว่า ในวันนี้อยู่ในระหว่างรอคำสั่งของศาลว่า จะพิจารณารับคำร้องขออุทธรณ์คัดค้านคำสั่งไม่ให้ประกันตัวนายสามารถ ในชั้นฝากขังหรือไม่ แต่ส่วนตัวได้พูดคุยกับทีมทนายของนายสามารถ ว่า ไม่ว่าผลออกมาจะได้ประกันหรือไม่ ก็ขอให้ทีมทนายความกำชับให้นายสามารถ กินข้าว เพราะทำอย่างนี้ไป ก็ไม่มีประโยชน์ และนายสามารถ อาจจะถูกแจ้งข้อกล่าวหาอีกหลายเรื่อง โดยเฉพาะเรื่องแชร์ลูกโซ่ กับบริษัทแห่งหนึ่ง เท่าที่ตนเองทราบ แม้นายสามารถ จะเข้าทัณฑสถานโรงพยาบาลราชทัณฑ์ แต่นายสามารถ ก็ยังคงอดข้าวอยู่ ส่วนจะออกจากโรงพยาบาลแล้วหรือไม่ อันนี้ตนเองยังไม่ทราบ

 

 

ทั้งนี้ ตนเองจะเดินทางไปให้ปากคำเพิ่มเติมกับพนักงานสอบสวน กองบังคับการปราบปราม ในคดีกรรโชกทรัพย์ 7.5 แสนบาท ของนางสาวกฤษอนงค์ หรือเจ๊พัช โดยประเด็นหลักคือ การมอบเอกสารถอดถ้อยคำไฟล์เสียงยาว 6 ชั่วโมง ที่ยืนยันว่า มีถ้อยคำในลักษณะของการทำให้ผู้เสียหายเกิดความหวาดกลัว และยอมจ่ายเงินให้แก่ผู้ต้องหา ในเวลา 16.00 น. วันนี้(2 ธ.ค.67)

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ข่าวล่าสุด

"สันติสุข" เทียบเจ็บ "ฮุน เซน" เหมือนคนคลั่งยา จับสมาชิกครอบครัวเป็นตัวประกัน ปลุกระดมทะเลาะไทย พาคนในชาติเดือดร้อนทั่วหน้า
วธ.เตรียมจัดใหญ่งานมหกรรมวัฒนธรรมแห่งชาติ วิถีถิ่น วิถีไทย กลางใจกรุงเทพฯ มางานเดียวเหมือนได้เที่ยวทั่วไทย
เพื่อไทยกร้าวสุด "สส.อีสาน" เล่นใหญ่ เสนอกลางวงประชุมพรรค ลั่นถึงเวลาทวง "มหาดไทย" คืน
กลาโหมกัมพูชากล่าวหาไทยละเมิด MOU 2543
สถานทูตในอิหร่านเตือนคนไทยออกจากเตหะราน
ครม. เห็นชอบแต่งตั้ง "เกษร" เป็นผู้อำนวยการสำนักงานศิลปวัฒนธรรมร่วมสมัย
อิสราเอลขู่คาเมเนอีระวังมีชะตากรรมเหมือนซัดดัม
ศน. ประกาศผลประกวดบรรยายธรรมระดับประเทศ 24 เยาวชนคนเก่ง รับโล่พระราชทาน "กรมสมเด็จพระเทพฯ"
“ไพบูลย์” ย้ำพปชร.ไม่ร่วมรัฐบาล “นายกฯอิ๊งค์” หาก “ภูมิใจไทย” ถอนตัวจากพรรคร่วม
สร.รฟท. ลงพื้นที่อีสาน ให้กำลังใจทหาร "ตาเมือนธม" คารวะทำหน้าที่ ปกป้องอธิปไตยแผ่นดิน

ดู LIVE รายการ

X

เราใช้ คุ้กกี้ เพื่อให้ทุกคนได้ประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น