“คิดก่อนคลิก” ระวังมิจฉาชีพ แฝงจ่ายเยียวยา ม.33

พ.ต.อ.กฤษณะ เตือน “คิดก่อนคลิก” อย่าตกเป็นเหยื่อมิจฉาชีพ แฝงจ่ายเงินเยียวยา ม.33 ขอตรวจสอบข้อมูลให้ชัดเจน

พ.ต.อ.กฤษณะ พัฒนเจริญ รองโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ กล่าวเตือนภัย “คิดก่อนคลิก” กรณีที่อาจจะมีเหล่ามิจฉาชีพ ฉวยโอกาสแอบแฝงตัวมากับการจ่ายเงินให้กับผู้ประกันตน มาตรา 33 ว่า ปัจจุบันที่ยังอยู่ในช่วงการแพร่ระบาดของเชื้อโควิด ส่งผลกระทบต่อชีวิตความเป็นอยู่ของประชาชนและองค์กรต่างๆ รัฐบาลจึงมีโครงการจ่ายเงินเยียวยาให้กับผู้ประกันตน มาตรา 33 เป็นเงิน 2,500 บาทต่อคนต่อเดือน ครั้งที่ 2 จะเริ่มโอนเข้าบัญชี ในวันที่ 27-28 ก.ย. จึงอาจมีเหล่ามิจฉาชีพ ที่อาศัยช่องว่างดังกล่าวกระทำความผิด อาจจะมาในหลายรูปแบบ ไม่ว่าจะเป็นการสร้างเว็บไซต์ปลอม หรือการส่ง SMS ทางมือถือ หรือลิงก์ต่างๆ ที่มีลักษณะให้กรอกข้อมูลส่วนบุคคล เลขบัตรประจำตัวประชาชน เลขบัตรเครดิต หรือ ให้ใส่รหัส OTP เป็นต้น  เมื่อได้ใส่ข้อมูลลักษณะดังกล่าวไปแล้ว เหล่ามิจฉาชีพก็อาจจะนำข้อมูลที่ได้ไปหาประโยชน์ในทางมิชอบและทำให้ได้รับความเสียหายในอนาคต จึงขอให้ผู้ที่มีคุณสมบัติครบถ้วน ตรวจสอบสิทธิของตนเองให้ชัดเจน และปฏิบัติตามขั้นตอนที่หน่วยงานภาครัฐที่เกี่ยวข้องได้กำหนด เพื่อหลีกเลี่ยงการตกเป็นเหยื่อของเหล่ามิจฉาชีพ

 

ทั้งนี้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี มีความห่วงใยในเรื่องอาชญากรรมทางเทคโนโลยี ที่ส่งผลกระทบต่อความเป็นอยู่และซ้ำเติมความเดือดร้อนของประชาชน จึงสั่งการให้ พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผบ.ตร. ขับเคลื่อนนโยบาย โดยการสั่งการไปยังหน่วยงานในสังกัดทุกหน่วย ให้สืบสวนสอบสวนปราบปรามจับกุมผู้กระทำความผิดอย่างจริงจังและต่อเนื่อง ให้เกิดผลอย่างเป็นรูปธรรม และเพื่อสร้างความเชื่อมั่นให้กับประชาชน โดยการกระทำในลักษณะดังกล่าวเข้าข่ายความผิด ฐานนำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ ซึ่งข้อมูลอันเป็นเท็จ ในประการที่น่าจะก่อให้เกิดความเสียหายแก่ประชาชนตาม พ.ร.บ.การกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ. 2560 มีโทษจำคุกไม่เกิน 5 ปี ปรับไม่เกิน 100,000 บาท และความผิดฐานฉ้อโกง มีโทษจำคุกไม่เกิน 3 ปี ปรับไม่เกิน 60,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ หรือกฎหมายอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง

 

อย่างไรก็ตาม ฝากเตือนภัยและประชาสัมพันธ์แนวทางการป้องกันหลีกเลี่ยงเพื่อไม่ให้ตกเป็นเหยื่อ  อย่าหลงเชื่อข้อมูลการโพสต์ หรือลิงก์ที่แนบมาพร้อมกับเอสเอ็มเอสที่ไม่ทราบแหล่งที่มาที่ไป ห้ามเปิดลิงก์ดังกล่าวอย่างเด็ดขาด และห้ามเปิดเผยข้อมูลส่วนตัว ผ่านระบบออนไลน์ หากยังไม่ได้ตรวจสอบให้ดีเสียก่อน กรณีพบข้อความที่น่าสงสัย ให้สอบถามกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องให้ชัดเจน ส่วนกรณีหลงเชื่อไปแล้ว ให้รีบเปลี่ยนรหัสผ่านทันที และรีบแจ้งตำรวจ หรือติดต่อหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เช่น ธนาคาร สถาบันทางการเงิน เป็นต้น อีกทั้ง หากพบเห็นเบาะแสการกระทำความผิด สามารถแจ้งไปยัง 191 หรือ 1599 ตลอด 24 ชั่วโมง

 

 

ข่าวที่น่าสนใจ

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ข่าวล่าสุด

"เอกสิทธิ์" เผยมาตรฐาน-คุณภาพภาคอสังหาริมทรัพย์ ปัจจัยสำคัญสร้างเชื่อมั่นความปลอดภัย รองรับพิบัติภัยในอนาคต
"รมว.ท่องเที่ยว" ระดมภาครัฐ-เอกชน ถกปัญหาความปลอดภัย ฟื้นภาพลักษณ์เที่ยวไทย หลังเจอกระแสข่าวด้านลบ
นาทีชีวิต! ส่งเฮลิคอปเตอร์ EC-725 ช่วยผู้ป่วยวิกฤต ส่งถึงมือแพทย์ได้ทันเวลา
วธ. จัดพิธีเจริญพระพุทธมนต์ถวายพระกุศล "เจ้าฟ้าทีปังกรรัศมีโชติ" วันคล้ายวันประสูติ
"สก.นภาพล" ซัดกระทู้ถาม "กทม." เมื่อไหร่จะจ่ายคืนหนี้ BTS ย้ำดอกเบี้ยเพิ่มวันละ 4.5 ล้าน แฉฟาดรายได้ค่าโดยสาร 3 เดือน กว่า 2 พันล้าน แต่ให้เอกชนแบกภาระวิ่งรถไฟฟ้า
จีนสั่งยกเว้นภาษีสินค้านำเข้าบางประเภทจากสหรัฐ
"รองผอ." คดีฮั้วประมูล เผย "3 วิศวกร" รับลงชื่อตรวจงานสร้างตึกสตง.จริง เร่งสอบลายมืออีก 7 ราย ยังปฏิเสธ
"นายกฯ" รับมอบเงิน 5 ล้าน มูลนิธิเรนวูด ช่วยผู้ได้รับผลกระทบแผ่นดินไหว
"อดีตผู้พิพากษา" ชี้ตรง ป.ป.ช.-อสส.ไม่ทำหน้าที่โจทก์ เหตุศาลฎีกาฯ ต้องออกโรงไต่สวนเอง "ทักษิณ"ไม่ติดคุกจริงตามคำพิพากษา
ไฟไหม้โรงแรมกลางเมืองที่อินเดียดับ 15 คน

ดู LIVE รายการ

X

เราใช้ คุ้กกี้ เพื่อให้ทุกคนได้ประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น