ใช้เวลาว่างสร้างงาน หลังเกี่ยวข้าวเสร็จ รวมกลุ่มทอผ้าไหมย้อมด้วยสีธรรมชาติ และหมักโคลนแบบดั่งเดิม สืบทอดภูมิปัญญาโบราณ การันตีด้วยรางวัลระดับประเทศ

สุรินทร์ - ใช้เวลาว่างสร้างงาน หลังเกี่ยวข้าวเสร็จ รวมกลุ่มทอผ้าไหมย้อมด้วยสีธรรมชาติ และหมักโคลนแบบดั่งเดิม สืบทอดภูมิปัญญาโบราณ การันตีด้วยรางวัลระดับประเทศ

วันที่ 30 พฤศจิกายน 2567 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่ศาลากลางหมู่บ้าน บ้านสุขสบาย หมู่ที่ 20 ตำบลกระเทียม อำเภอสังขะ จังหวัดสุรินทร์ ชาวบ้านได้รวมตัวกันหลังจากที่เก็บเกี่ยวข้าวเสร็จเรียบร้อยแล้ว ได้มาช่วยมัดหมี่และจัดเตรียมอุปกรณ์ต่างๆที่ใช้สำหรับการย้อมสีผ้าไหม ซึ่งของที่ใช้ในการย้อมสีผ้าไหมนั้นเป็นวัสดุจากธรรมชาติล้วนๆ และเป็นของที่หาได้ในป่าชุมชนใกล้หมู่บ้าน อาทิเช่น แก่นขนุน ใบยูคา เปลือกสมอ ขมิ้น รากยอ เปลือกต้นมะพูด หมากสง เปลือกไม้นมแมว รากและใบของต้นคราม ลูกสมอ เป็นต้น

นางสุจิตรา โนนคำ หัวหน้ากลุ่มทอผ้าไหมบ้านสุขสบาย ให้สัมภาษณ์กับผู้สื่อข่าวว่า ชาวบ้านสุขสบายมีอาชีพทำนาและเมื่อเสร็จจากการเก็บเกี่ยวข้าวแล้ว ก็จะมารวมกลุ่มกันเพื่อทอผ้าไหม ตอนนี้มีสมาชิกจำนวน 32 คน ทุกวันประมาณ9โมงเช้าสมาชิกก็จะมารวมกลุ่มกัน และแบ่งหน้าที่กันทำ ใครจะออกไปหาเก็บวัสดุธรรมชาติในป่าชุมชน ใครจะเป็นคนมัดหมี่ ใครจะเป็นคนย้อมคราม และทำการหมักโคลน มีการแบ่งหน้าที่กันอย่างชัดเจน

 

 

 

 

 

ข่าวที่น่าสนใจ

นางสุจิตรา อธิบายว่าผ้าไหมของกลุ่มมีลวดลายเฉพาะตัวก็คือ ลายเกล็ดพยานาค ซึ่งมีลวดลายและสีสันสวยงาม อีกทั้งเคยได้รับชนะเลิศ ประเภทกลุ่มผลิตภัณฑ์ผ้าดีเด่น จากกรมกิจการสตรีและสถาบันครอบครัว และรางวัลรองชนะเลิศอันดับ1 ประเภทผลิตภัณฑ์เด่นสาขาผ้าไหม จากกระทรวงพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ รางวัลรองชนะเลิศอันดับ2 จากจังหวัดสุรินทร์ และรางวัลต่างๆอีกหลายรางวัล ซึ่งเป็นการการันตีว่า ผ้าไหมทอมือย้อมสีธรรมชาติของชาวบ้านสุขสบาย กลายเป็นที่ยอมรับของกลุ่มคนสวมใส่ผ้าไหมและกลายเป็นที่ต้องการของตลาดผ้าไหมเพิ่มมากขึ้น

 

 

นายสมบัติ เพ็ชรกล้า นายกองค์การบริหารส่วนตำบลกระเทียม กล่าวว่า ตำบลกระเทียมมีประชาชนอยู่3กลุ่มใหญ่ๆ คือ เขมร ลาว กวย ซึ่งแต่ละกลุ่มก็มีเอกลักษณะและวัฒนธรรมการแต่งกายที่คล้ายกัน แต่มีอย่างหนึ่งที่เหมือนกันก็คือ ทั้งผู้ชายและผู้หญิงจะแต่งกายด้วยผ้าไหมที่มีลวดลายและสีสันที่สวยงาม ที่ผ่านมานั้นอบต.กระเทียม ได้ให้การสนับสนุนกลุ่มทอผ้าไหมมาโดยตลอด ทั้งการจัดหาครูมาสอนการออกแบบลายใหม่ๆ การส่งเสริมการจำหน่ายผ่านออนไลน์ และสนับสนุนอุปกรณ์การทอผ้าไหม

 

 

 

 

 

นายสมบัติ กล่าวเพิ่มเติมว่า ผ้าไหมจังหวัดสุรินทร์ เป็นที่รู้จักและเป็นที่ยอมรับของคนที่นิยมสวมใส่ผ้าไหม ซึ่งมีลวดลายสวยงามโดดเด่นและเอกลักษณ์เฉพาะตัว โดยเฉพาะผ้าไหมของพี่น้องชาวตำบลกระเทียม ที่ใช้วัสดุและย้อมสีธรรมชาติ มีลักษณะโดดเด่น สีนุ่มนวล ไม่ฉูดฉาด เป็นที่ต้องการของตลาดผ้าไหม ซึ่งในปัจจุบันนี้การย้อมสีเส้นไหมจากธรรมชาติกำลังเป็นที่นิยมและต้องการ เพราะสีธรรมชาติที่ได้จากเปลือกไม้ชนิดต่างๆ ไม่เป็นอันตรายต่อสุขภาพทั้งต่อผู้ผลิตและผู้บริโภค และน้ำทิ้งจากกระบวนการย้อมสี ไม่เป็นอันตรายต่อสิ่งแวดล้อม ซึ่งถือเป็นมรดกภูมิปัญญาของท้องถิ่นที่ถูกถ่ายทอดมาจากบรรพบุรุษ

 

 

สำหรับท่านใดที่สนใจอยากเข้าไปชมวิธีการทอผ้าไหมด้วยมือ และขั้นตอนการการย้อมสีผ้าไหมด้วยวัสดุธรรมชาติ การหมักโคลน หรืออยากซื้อผ้าไหมสวยๆจากชาวบ้านโดยตรงสามารถติดต่อได้ที่ นายสหภาพ บุญครอง หัวหน้าสำนักปลัด อบต.กระเทียม ซึ่งจะอำนวยความสะดวกและให้ข้อมูลพร้อมทั้งดูแลท่านเป็นอย่างดี.

 

 

 

ภาพ/ข่าว : ชนะชล มูลจันทร์  ผู้สื่อข่าว จ.สุรินทร์

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ข่าวล่าสุด

(50 ปีสัมพันธ์ไทย-จีน) 'สุสานหิน' ยุคราชวงศ์ฮั่น โบราณสถานล้ำค่าในซานตง
วธ. รับมอบพระพุทธรูปปางบำเพ็ญทุกรกิริยาจำลอง จากรัฐบาลสาธารณรัฐอิสลามปากีสถาน
วธ. เดินหน้าจัดตั้ง-รับรองวัดคาทอลิกแห่งใหม่ หนุนศาสนสถานเข้าระบบอย่างถูกต้อง โปร่งใส
วธ.ลุยอีสาน! "ศิลปินสร้างศิลปิน" ขยายผลภูมิปัญญาศิลปินสู่การพัฒนาอาชีพ ระดับภูมิภาค 70 พรรษา สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า พร้อมโชว์ “สานศิลป์ถิ่นอีสาน” ถ่ายทอดศิลป์สู่อาชีพ
ร้องสื่อฯ ที่ดิน รังวัดแนวเขตที่ดิน เนื้อที่ไม่ครบตามคำสั่งศาล จาก 9 ไร่ เหลือ 8 ไร่ 2 งาน
"กฟภ." ยันไม่ได้ขายไฟฟ้าให้กัมพูชาแล้ว 9 จุด ย้ำพร้อมดำเนินการตามสมช.ถ้าเขมรไม่จำเป็นซื้อไฟฟ้าไทย พร้อมยกเลิกสัญญา

ดู LIVE รายการ

เราใช้ คุ้กกี้ เพื่อให้ทุกคนได้ประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น​