ชาวบ้านเดือดร้อนหนักน้ำท่วมเดือดร้อนแสนสาหัส – หลังนายทุนออกโฉนดที่ดินถมลำคลอง”ห้วยพาน” ปิดกั้นทางน้ำสิ้นเชิง นายกเล็กฯ เบื้องต้นระดมกำลังช่วยเหลือ ที่ร้องเรียนเจ้าหน้าที่เร่งตรวจสอบว่าออกจะโดดที่ดินชอบด้วยกฎหมายหรือไม่แต่กลับ ล่าช้า อึดเหมือนเรือเกลือ

(26 พ.ย.) จากกรณีเกิดฝนตกหนักในพื้นที่จังหวัดนครศรีธรรมราชต่อเนื่องมานานกว่า 1 สัปดาห์ ทำให้หลายอำเภอ มีน้ำท่วมขังเป็นบริเวณกว้าง ส่วนในเขตเทศบาลนครนครศรีธรรมราช น้ำระบายไม่ทัน ท่วมขังถนนหลายสายแต่เมื่อฝนหยุดตกน้ำจะลดลงอย่างรวดเร็ว ทั้งนี้เพราะการสร้างโครงเลี่ยงเมือง โครงการบรรเทาอุทกภัยเมืองคอน แม้จะยังไม่แล้วเสร็จสมบูรณ์ แต่ได้ผัน ระบายน้ำที่ไหลบ่ามา จากเทือกเขาหลวงในเขตอำเภอลานสกา ได้ในระดับหนึ่ง ประกอบกับทางเทศบาลนครนครศรีธรรมราชได้มีการขุดลอกคูคลองและท่อระบายน้ำ จึงลดความรุนแรงของสถานการณ์น้ำท่วมในตัวเมืองนครศรีธรรมราช ลงได้ในระดับหนึ่ง

อย่างไรก็ตามชาวบ้านหลายครัวเรือน ในเขตหมู่ 3 ตำบลโพธิ์เสด็จอำเภอเมืองจังหวัดนครศรีธรรมราช ได้ร้องเรียน ศูนย์ข่าว นคร 24 ชั่วโมงสมาคมสื่อมวลชนจังหวัดนครศรีธรรมราช ขอให้ช่วยตรวจสอบกรณีการที่นายทุนถมคลองห้วยพานที่เคยเป็นลำคลองสาธารณะ ประชาชนใช้ ร่วมกันมานานหลายร้อยปี แต่ในปัจจุบัน ถูกนายทุน ถมลำคลองห้วยพราน ด้าน ทิศตะวันออกของสะพานห้วยพาน ปิดกั้นทางน้ำจนทำให้เกิดน้ำท่วม ถนนสายห้วยพาน และบ้านเรือนพร้อมพื้นที่เกษตรกรของชาวบ้านนับร้อยไร่ แม้ทางเทศบาลตำบลโพธิ์เสด็จ จะทำการขุดทางระบายน้ำขนาดเล็กเพื่อเบี่ยง เลี่ยงการไหลของน้ำ แต่ระบายน้ำไปได้แค่ 10-20% เท่านั้น จากการลงตรวจสอบในพื้นที่พบนายวิฑูรย์หัสภาค นายกเทศมนตรีตำบลโพธิ์เสด็จ นำกำลังเจ้าหน้าที่ฝ่ายบรรเทาสาธารณภัย พร้อมเครื่องจักรกลขนาดเล็ก เข้าไปช่วยเหลือชาวบ้าน โดยไม่ใช้งบประมาณของทางราชการทั้งการถมที่หน้าบ้านของชาวบ้านเล็กขุดลอกกำจัดสิ่งปฏิกูลที่ขวางขั้นทางระบายน้ำ แต่แก้ปัญหา ด้เล็กน้อยเท่านั้น ซึ่งหากเกิดฝนตกหนักมากกว่านี้ จะเกิดน้ำท่วมรุนแรงในพื้นที่ดังกล่าวเป็นบริเวณกว้าง ถึงขั้นที่อาจจะต้องมีการอพยพผู้ประสบภัยไปอยู่ในที่ปลอดภัยก็เป็นได้
นายวิฑูรย์ หัสภาคย์ กล่าวว่า โฉนดที่ดินในบริเวณดังกล่าวทุกแปลง จะระบุชัดเจนว่าฝั่งทิศตะวันออกจุดลำห้วยสาธารณะประโยชน์ ลำคลอง”ห้วยพาน” แต่ในปัจจุบันมีนายทุนเจ้าของที่ดินแปลงหนึ่งได้ถมลำคลองห้วยพานจนไม่เหลือพื้นที่ลำคลองห้วยพานให้เห็นอีกเลย เมื่อตนทักท้วงนายทุนก็นำโฉนดที่ดินมาแสดงเป็นหลักฐานว่าลำคลองห้วยพานเป็นที่ดินของตัวเอง ทั้ง ๆ ที่แต่เดิมเป็นลำคลองสาธารณะประโยชน์มาหลายร้อยปี ซึ่งใกล้กันยังมีถนนและมีการสร้างสะพานข้ามลำคลองดังกล่าวปรากฎชัดเจน จึงไม่รู้ว่าเจ้าพนักงานที่ดินออกโฉนดที่ดินโดยชอบด้วยกฎหมายหรือไม่ ซึ่งในช่วงฤดูฝนน้ำจากด้านทิศตะวันตกที่ไหลมารวมในคลองห้วยพานเพื่อไหลระบายไปยังลำคลองสายต่าง ๆ ในตัวเมืองนครศรีธรรมราช และระบายออกสู่ทะเลที่ ตำบลท่าซักและตำบลปากนครอำเภอเมืองจังหวัดนครศรีธรรมราชต่อไป แต่ไม่สามารถไหลระบายได้อีกทำให้เกิดน้ำท่วมขัง ถนนพื้นที่การเกษตรและบ้านเรือนของพี่น้องประชาชนจำนวนมาก โดยเฉพาะพื้นที่ ปลูกเงาะ ทุเรียนและสวนยางพาราหลาย 10 ไร่ แห้งเหี่ยวเฉายืนต้นตายเกือบทั้งหมดมานานนับปีแล้ว

“เรื่องนี้ทนได้ร้องเรียนไปยังฝ่ายปกครองอำเภอเมืองจังหวัดนครศรีธรรมราชมา 1-2 ปีแล้ว แต่เรื่องก็เงียบหาย จนกระทั่งล่าสุดจนได้สอบถามไปยังนายจักรกฤษณ์ ฝั่งจลจิตร์ นายอำเภอเมืองนครศรีธรรมราชคนใหม่ ทราบว่าผลการสอบสวนสรุปเรียบร้อยแล้วและได้ส่งเรื่องต่อให้สำนักงานที่ดินจังหวัดนครศรีธรรมราช เพื่อดำเนินการตรวจสอบรังวัดที่ดินในจุดดังกล่าวว่ามีออกโฉนดโดยชอบด้วยกฎหมายหรือไม่ แต่จนถึงขณะนี้ทางสำนักงานที่ดินก็ยัง นิ่งเฉยไม่มีความคืบหน้าแต่อย่างใด จึงอยากให้ทางผู้ว่าราชการจังหวัดนครศรีธรรมราช ช่วยประสานและสั่งการ ไปยังสำนักงานที่ดินจังหวัดนครศรีธรรมราช เพื่อให้ เจ้าพนักงานที่ดินจังหวัดนครศรีธรรมราชยิ่งดำเนินการตรวจสอบพื้นที่โดยด่วน”นายวิฑูรย์ กล่าว

ไพฑูรย์ อินทศิลา / นครศรีธรรมราช
26 พ.ย. 2567