“บิ๊กเต่า” พบเส้นเงินใหม่จากบัญชีแม่ ถึงนาย ส.เสือ อีก 10 ล้าน หากดำเนินคดีไม่ได้เตรียมทำรายงานสืบสวนให้กรมสอบสวนคดีพิเศษ ทำคดี “ฟอกเงิน” ส่วนคดี“ฟิล์ม รัฐภูมิ และกฤษอนงค์” ขอเวลา 10 วัน มีความชัดเจน

“บิ๊กเต่า” พบเส้นเงินใหม่จากบัญชีแม่ ถึงนาย ส.อีก 10 ล้าน จ่อส่งให้ DSI ทำคดีฟอกเงิน – Top News รายงาน

เมื่อวันที่ 18 พฤศจิกายน 2567เวลา 11.30 น. ที่ผ่านมา พลตำรวจตรี จรูญเกียรติ ปานแก้ว รองผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (รอง ผบช.ก.) พร้อมด้วย พันตำรวจเอก เอนก เตาสุภาพ รองผู้บังคับการปราบปราม (รอง ผบก.ป.) และเจ้าหน้าที่ผู้เกี่ยวข้อง เข้าประชุมติดตามคดีสำคัญ 6 เรื่อง ที่กองบังคับการปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบ (บก.ปปป.)

พลตำรวจตรี จรูญเกียรติ เปิดเผยว่า วันนี้มีการประชุม 6 เรื่อง ประกอบด้วยเรื่องของนางสาว กฤษอนงค์ สุวรรณวงศ์ 4 เรื่อง มีเรื่องของการเรียกรับ 3 แสนบาท กับ 450,000 บาท จนถูกออกหมายจับไปแล้ว

เรื่องที่ 2 เป็นเรื่องของนายภูดิท กำเนิดพลอย หรือหนุ่ม กรรชัย ที่แจ้งความเรื่องหมิ่นประมาท ทั้งกับตัวนางสาวกฤษอนงค์ และนายรัฐภูมิ โตคงทรัพย์ หรือฟิล์ม

เรื่องที่ 3 เป็นเรื่องของนางสาวจิราพร สินธุไพร รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ที่แจ้งความเอาผิดนางสาวกฤษอนงค์ ในเรื่อง “หมิ่นประมาท”

เรื่องที่ 4 เป็นเรื่องที่นางสาวกฤษอนงค์ และฟิล์ม รัฐภูมิ มีการเรียกรับเงินจำนวน 20 ล้านบาท จากนายวรัตน์พล วรัทย์วรกุล หรือบอสพอล กับนางสาวปัญจรัศม์ กนกรักษ์ธนพร หรือบอสปัน ซึ่งในคดีนี้ผู้เสียหายจะมอบอำนาจให้ทนายความเดินทางมาแจ้งความในวันพรุ่งนี้

ข่าวที่น่าสนใจ

“สรวงศ์” ลุยแก้ปัญหา “เกาะกูด” ดึงนทท.ต่างชาติ ระดับไฮเอนด์ กระตุ้นการท่องเที่ยวในพื้นที่

“พิชัย” นำทีมเจรจา Google ขยายลงทุน คุย Walmart เปิดโอกาสสินค้าไทยวางขายเพิ่ม

เรื่องที่ 5 เป็นเรื่องของนายเอกภพ เหลืองประเสริฐ หรือ เอก สายไหมต้องรอด ในเรื่องนี้มีความคืบหน้าไปแล้วประมาณแล้ว 80-90% ถ้าไม่ติดปัญหาอะไร จะมีความชัดเจนภายในสัปดาห์นี้ ขอให้ทางพนักงานสอบสวนเป็นผู้พิจารณาทุกอย่าง ส่วนตัวพยานจะโดนด้วยหรือไม่ และจะเข้าข่ายในเรื่องอะไรบ้างนั้น ก็ให้ทางพนักงานสอบสวนเป็นผู้พิจารณาเช่นกัน อย่างไรก็ตาม จะต้องมีการหารือร่วมกับพลตำรวจตรี สุวัฒน์ แสงนุ่ม รอง ผบช.ก. ก่อนว่า เนื้อหาในสำนวนมีอะไรขาดตกบกพร่องบ้างหรือไม่ แต่ยืนยันว่า จะดำเนินการตามขั้นตอนของกฎหมายอย่างแน่นอน เนื่องจากสร้างความตื่นตระหนกให้แก่สังคม

เรื่องที่ 6 เรื่องของนาย ส.เสือ ซึ่งได้ข้อมูลใหม่ เป็นการโอนเงินจากบัญชีแม่ของนาย ส.เสือ ไปถึงตัวของนาย ส.เสือ กว่า 10 ล้านบาท ตั้งแต่ปี 64-67 ตอนนี้กำลังอยู่ระหว่างตรวจสอบ หากไม่มีผู้ร้องทุกข์แจ้งความ ก็อาจจะดำเนินการได้ในฐานะที่นาย ส.เสือ เป็นเจ้าหน้าที่รัฐในช่วงระยะเวลาหนึ่ง ก็จะเข้าข่ายความผิดคดีอาญาทุจริต อย่างไรก็ตาม จะต้องนำไทม์ไลน์ของการโอนเงิน และระยะเวลาในการรับตำแหน่งมาตรวจสอบอีกครั้ง จึงต้องขอเวลาให้ตำรวจได้ทำงานในส่วนนี้ หากผลสรุปแล้วไม่สามารถดำเนินคดีได้ ก็จะเขียนเป็นรายงานสืบสวน ส่งให้ทางกรมสอบสวนคดีพิเศษ หรือดีเอสไอ ดำเนินคดีข้อหา “ฟอกเงิน”

ทั้งนี้ พันตำรวจเอก เอนก กล่าวว่า ในส่วนคดีขอ ฟิล์ม รัฐภูมิ กับนางสาวกฤษอนงค์ กับเคสอื่นของนางสาวกฤษอนงค์ ขอเวลาทำงาน 10 วัน เพราะต้องเก็บหลักฐาน และสอบปากคำพยานบุคคลที่เกี่ยวข้องเพิ่มเติมอีกหลายปาก ซึ่งในส่วนที่เป็นคดีของบอส ดิ ไอคอน นั้น หากมีใบมอบอำนาจมาแจ้งความ ก็สามารถดำเนินการได้เลย ซึ่งในส่วนนี้หากแจ้งความ อาจจะเป็นในส่วนของนิติบุคคล ในนามบริษัท ดิ ไอคอน กรุ๊ป ซึ่งต้องมาถอดคลิปเสียง แล้วก็ต้องมาพิจารณา หากพบว่า เป็นการหลอกให้โอนเงิน 20 ล้านบาท ก็จะเข้าข่ายข้อหา “พยายามฉ้อโกง” แต่หากพบว่ามีการพูดข่มขู่ ก็จะเข้าข่ายข้อหา “กรรโชกทรัพย์” ส่วนจะเป็นหมายเรียก หรือหมายจับ ต้องอยู่ในดุลพินิจ และพิจารณากันอีกครั้ง

กฤษอนงค์, DSI, ฟิล์ม รัฐภูมิ, บิ๊กเต่า, นาย ส.

ข่าวที่เกี่ยวข้อง