สธ. สั่งปิด “ศูนย์บำบัดผู้ติดยาเสพติด” วัดท่าพุราษฎร์บำรุง หลังไม่ปฏิบัติตามหลักเกณฑ์!

สธ. สั่งปิด "ศูนย์บำบัดผู้ติดยาเสพติด" วัดท่าพุราษฎร์บำรุง หลังไม่ปฏิบัติตามหลักเกณฑ์!

นายแพทย์ณรงค์ สายวงศ์ รองปลัดกระทรวงสาธารณสุขและโฆษกกระทรวงสาธารณสุข ให้สัมภาษณ์เกี่ยวกับกรณีมีผู้ร้องเรียน ศูนย์สงเคราะห์บำบัดฟื้นฟูสมรรถภาพผู้ติดยาเสพติด วัดท่าพุราษฎร์บำรุง อำเภอด่านมะขามเตี้ย จังหวัดกาญจนบุรี มีการทำร้ายร่างกายผู้เข้ารับการบำบัด เมื่อวันที่ 21 กันยายน 2564 นั้น กระทรวงสาธารณสุข ได้มอบหมายให้ กรมการแพทย์ สถาบันบำบัดรักษาและฟื้นฟูผู้ติดยาเสพติดแห่งชาติบรมราชชนนี (สบยช.) สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด กระทรวงสาธารณสุข (ปปส.) ลงพื้นที่ตรวจสอบ ร่วมกับ นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดกาญจนบุรี โรงพยาบาลสมเด็จเจ้าพระยา สำนักพุทธศาสนา และผู้เกี่ยวข้องในพื้นที่ พบว่า ไม่ปฏิบัติตามหลักเกณฑ์การขอจัดตั้งสถานพยาบาลตามพระบัญญัติยาเสพติดให้โทษ พ.ศ.2522 ประกอบกับ เจ้าอาวาสวัดท่าพุราษฎร์บำรุง ผู้ยื่นขอจัดตั้งสถานฟื้นฟูสมรรถภาพได้มรณภาพลง เพื่อเป็นการระงับเหตุและป้องกันความเสียหายอันจำเป็นอย่างเร่งด่วน กรมการแพทย์ จึงได้ทำหนังสือแจ้งไปทางวัดท่าพุราษฎร์บำรุง ให้หยุดดำเนินการฟื้นฟูสมรรถภาพและหยุดรับผู้ป่วยเข้าบำบัดฟื้นฟูสมรรถภาพทันที เมื่อวันที่ 23 กันยายน 2564 ที่ผ่านมา

นายแพทย์ณรงค์ กล่าวต่อว่า ได้เน้นย้ำให้ นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดทุกจังหวัด และหน่วยงานที่รับผิดชอบ ร่วมกับภาคีเครือข่ายในพื้นที่ กวดขันติดตามกำกับคุณภาพสถานบำบัดและศูนย์ฟื้นฟูยาเสพติดในเขตพื้นที่รับผิดชอบให้เป็นไปตามมาตรฐานของกระทรวงสาธารณสุข และเตรียมความพร้อมในการยกระดับคุณภาพมาตรฐาน การควบคุมเฝ้าระวังให้เป็นไปตามร่างประมวลกฎหมายใหม่ และอนุบัญญัติที่เกี่ยวข้อง ซึ่งจะส่งผลให้เกิดการยกระดับมาตรฐานคุณภาพ และการควบคุมกำกับติดตาม ครอบคลุมทุกพื้นที่อย่างเป็นระบบทั่วประเทศ ลดขั้นตอนการทำงานเกิดความสะดวกต่อผู้ป่วยและเจ้าหน้าที่ นอกจากนี้ยังสามารถเฝ้าระวังความเสี่ยงที่จะเกิดขึ้นได้อย่างทั่วถึงมากขึ้น

อย่างไรก็ตาม ได้มีการเร่งรัดแผนขับเคลื่อนเพื่อรองรับร่างประมวลกฎหมายใหม่ ซึ่งมีประเด็นสำคัญ 5 เรื่อง คือ 1.ปรับโครงสร้างในกระทรวงสาธารณสุข และเพิ่มอัตรากำลังขยายหอผู้ป่วยในจิตเวชและยาเสพติดให้มีทุกจังหวัด 2.ยกระดับมาตรฐาน สถานบำบัด และศูนย์ฟื้นฟูฯ ของภาครัฐและเอกชนเพิ่มเติม โดยให้ดำเนินการเป็นเครือข่ายอย่างเป็นระบบ 3. เพิ่มกลไกประชารัฐเข้ามาทดแทนคือ การบำบัดโดยใช้ชุมชนมีส่วนร่วม (Community Based Treatment & Rehabilitation ) เพื่อให้ลดการตีตราและครอบคลุมผู้ป่วยยาเสพติด (stigma) ทุกพื้นที่ในประเทศ 4.แผนการใช้เทคโนโลยีและบูรณาการฐานข้อมูลเพื่อลดขั้นตอนการทำงานและติดตามผู้ป่วยให้ต่อเนื่องได้มากขึ้น และ 5.ใช้เทคโนโลยี ยา หรือเวชภัณฑ์ใหม่ ที่มีผลการรับรองทางการแพทย์เพื่อบำบัดยาเสพติดให้ผู้ป่วยมีคุณภาพชีวิตที่ดีมากขึ้น

ทั้งนี้ ข้อมูลจากศูนย์อำนวยการป้องกันและปราบปรามยาเสพติดกระทรวงสาธารณสุข ปี 2562 พบว่า มีผู้ป่วยเกี่ยวข้องกับยาเสพติดประมาณ 3.75 ล้านคน เป็นผู้ป่วยยาเสพติดที่ควรได้รับการบำบัด 1.97 ล้านคน และผู้ป่วยยาเสพติดที่อาจพ้นโทษจากเรือนจำทั่วประเทศตามร่างประมวลกฎหมายใหม่ที่ต้องเตรียมการรองรับ โดยสถานพยาบาลบำบัดยาเสพติดของภาครัฐ ศูนย์ฟื้นฟูยาเสพติดในภาคีเครือข่ายของภาครัฐ สถานพยาบาลบำบัดหรือศูนย์ฟื้นฟูยาเสพติดของภาคเอกชน และมูลนิธิองค์กรการกุศลต่าง ๆ สามารถรองรับได้ 250,000 คน แบ่งเป็นระบบสมัครใจ ระบบบังคับบำบัด และระบบต้องโทษ

ข่าวที่น่าสนใจ

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ข่าวล่าสุด

ตรวจหวย ผลสลากกินแบ่งรัฐบาล งวดประจำวันที่ 2 พฤษภาคม 2568
MEA ผนึกกำลังสมาคมฟุตบอลฯ หนุน "ฟุตซอลไทยลีก 2025" พร้อมเปิดลีกอย่างเป็นทางการ
มุ่งเป้าเจาะชั้นใต้ดิน จุดที่คาดว่าผู้สูญหายติดค้างอยู่ อีกไม่เกิน 2 สัปดาห์ เคลียร์ชั้นใต้ดินได้หมด
กรมส่งเสริมสหกรณ์ แจงพร้อมช่วยเหลือสมาชิกเกษตรกรผู้เลี้ยงโคนมสหกรณ์การเกษตรแม่ทา จำกัด หลังประสบปัญหาขายนมไม่ได้ โต้! ผู้ประกอบการบางรายทำผิด MOU ซื้อขายน้ำนม
ระยอง เชิญเที่ยว เทศกาลผลไม้และของดีจังหวัดระยอง 2568 15-18 พ.ค.นี้ ชู ไฮไลต์ทุเรียนหมอนทอง-เที่ยวสวนเกษตร
"แอ็คมี่ วรวัฒน์" สร้างประวัติศาสตร์คนไทยคนแรก คว้ารางวัลเวทีระดับโลกที่ดูไบ
"ชูศักดิ์"ยัน"ราชทัณฑ์"ส่งตัวนักโทษรักษา ไม่ต้องขออนุญาตศาล เชื่อไต่สวนชั้น 14 ไม่กระทบรัฐบาล
"นฤมล" ย้ำผลงาน 3 หน่วยงาน ร่วมมือวางแผนเปิดกรีดยางช้า ดันราคายางโลกขึ้นไม่หยุด
"ปศุสัตว์นครพนม" สั่งคุมเข้มชายแดน สกัดเชื้อ "แอนแทรกซ์" ระวังการลอบนำเข้า "โค-กระบือ" จากพื้นที่เสี่ยง

ดู LIVE รายการ

X

เราใช้ คุ้กกี้ เพื่อให้ทุกคนได้ประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น