“กกพ.” เปิดรับฟังความเห็น 3 เงื่อนไข สูตรคำนวณ ค่าเอฟที งวด ม.ค.-เม.ย. 68

ดับฝัน!! ลดค่าไฟ ม.ค.-เม.ย.68 กกพ.เปิดฟัง 3 ทางเลือก ต่ำสุดเท่าเดิม

“กกพ.” เปิดรับฟังความเห็น 3 เงื่อนไข สูตรคำนวณ ค่าเอฟที งวด ม.ค.-เม.ย. 68 – Top News รายงาน

กกพ.

เมื่อวันที่ 8 พฤศจิกายน 2567 นายพูลพัฒน์ ลีสมบัติไพบูลย์ เลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน หรือ กกพ. ในฐานะโฆษก กกพ. เปิดเผยว่า จากการประชุม กกพ. ครั้งที่ 49/2567เมื่อวันพุธที่ 6 พฤศจิกายน 2567 ที่ผ่านมา กกพ. มีมติให้สำนักงาน กกพ. ดำเนินการเปิดรับฟังความคิดเห็นค่าไฟฟ้าผันแปร หรือ ค่าเอฟทีสำหรับการเรียกเก็บค่าไฟฟ้าในงวดเดือน ม.ค. – เม.ย. 2568 แบ่งเป็น 3 กรณี ตามเงื่อนไข ดังนี้

 

 

 

ข่าวที่น่าสนใจ

กรณีที่ 1: ผลการคำนวณตามสูตรการปรับค่า Ft เพื่อจ่ายคืนภาระต้นทุนคงค้าง กฟผ. ทั้งหมด ได้แก่ ต้นทุนการจัดหาไฟฟ้าคงค้างของ กฟผ. จำนวน 85,236 ล้านบาท และค่าภาระต้นทุนการจัดหาก๊าซคงค้างของ กฟผ.และปตท.เดือนกันยายน – ธันวาคม 2566 จำนวน 15,083.79 ล้านบาท โดยสูตรนี้ค่า Ft ขายปลีกจะเท่ากับ 170.71 สตางค์ต่อหน่วย เมื่อรวมค่า Ft ขายปลีกที่คำนวณได้กับค่าไฟฟ้าฐานที่ 3.78 บาทต่อหน่วย ส่งผลให้ค่าไฟฟ้าเฉลี่ย ปรับเพิ่มขึ้นเป็น 5.49 บาทต่อหน่วย จากระดับ 4.18 บาทต่อหน่วยในงวดปัจจุบัน โดย กฟผ. จะได้รับเงินที่รับภาระต้นทุนค่าเชื้อเพลิงและค่าซื้อไฟฟ้าแทนประชาชนตั้งแต่เดือนกันยายน 2564 – สิงหาคม 2567 ในช่วงสภาวะวิกฤตของราคาพลังงานที่ผ่านมา คืนทั้งหมดภายในเดือนเมษายน 2568 เพื่อนำไปชำระหนี้เงินกู้ เพื่อเสริมสภาพคล่องให้มีสถานะทางการเงินคืนสู่สภาวะปกติโดยเร็ว และรัฐวิสาหกิจที่ประกอบกิจการก๊าซธรรมชาติ จะได้รับเงินคืนส่วนต่างราคาก๊าซธรรมชาติสำหรับภาคไฟฟ้าคืนทั้งหมด

 

กรณีที่ 2: ผลการคำนวณตามสูตรการปรับค่า Ft จ่ายคืนเฉพาะภาระต้นทุนคงค้าง กฟผ. ทั้งหมดจำนวน 85,236 ล้านบาท โดนค่า Ft ขายปลีกจะเท่ากับ 147.53 สตางค์ต่อหน่วย เมื่อรวมค่า Ft ขายปลีกที่คำนวณได้กับค่าไฟฟ้าฐานที่ 3.78 บาทต่อหน่วย ส่งผลให้ค่าไฟฟ้าเฉลี่ย ปรับเพิ่มขึ้นเป็น 5.26 บาทต่อหน่วย ซึ่งสูตรนี้จะยังมีภาระต้นทุนการจัดหาก๊าซคงค้างของ กฟผ.และปตท.จำนวน 15,083.79 ล้านบาท

กรณีที่ 3: กรณีตรึงค่า Ft เท่ากับงวดปัจจุบัน 39.72 สตางค์ต่อหน่วย และค่าไฟฟ้าคงที่4.18 บาทต่อหน่วย ตามข้อเสนอ กฟผ. ซึ่งสูตรนี้จะทยอยชำระคืนภาระต้นทุนการจัดหาไฟฟ้าของ กฟผ.ได้จำนวน 15,094 ล้านบาท โดยคาดว่า ณ สิ้นเดือนเมษายน 2568 จะมีภาระต้นทุนคงค้างที่ กฟผ. และ ปตท. รับภาระแทนประชาชนคงเหลืออยู่ที่ 85,226 ล้านบาท

 

ทั้งนี้ กกพ. เปิดรับฟังความคิดเห็นผ่านทางเว็บไซต์สำนักงาน กกพ. ตั้งแต่วันที่ 8 – 22 พฤศจิกายน 2567 ก่อนที่จะสรุปและประกาศอย่างเป็นทางการต่อไป

 

นายพูลพัฒน์ กล่าวเพิ่มเติมว่า จากสาเหตุหลักซึ่งเป็นปัจจัยที่อยู่นอกเหนือการควบคุม ส่งผลให้ต้นทุนค่าเชื้อเพลิงในการผลิตไฟฟ้าปรับตัวลดลง แต่เมื่อรวมกับการทยอยคืนหนี้ค่าเชื้อเพลิงค้างชำระในงวดก่อนหน้าที่ยังคงสูงอยู่ ส่งผลให้ค่าไฟในช่วงต้นปี 2568 นี้ อาจจะต้องปรับเพิ่มค่า ค่าFT ขึ้นสู่ระดับ 147.53 – 170.71 สตางค์ต่อหน่วย เพื่อคืนหนี้คงค้างให้กับ กฟผ. และ ปตท. ซึ่งทำให้เมื่อรวมกับค่าไฟฟ้าฐาน ที่ 3.7833 บาทต่อหน่วย ส่งผลให้ค่าไฟฟ้าเรียกเก็บในงวดมกราคม – เมษายน 2568 เพิ่มขึ้นเป็น 5.26 – 5.49 บาทต่อหน่วย หรือหากตรึงค่าเอฟทีไว้ที่ 39.72 สตางค์ต่อหน่วย โดยทยอยคืนหนี้คงค้างควบคู่ไปกับการลดผลกระทบต่อการปรับค่าไฟฟ้าอย่างก้าวกระโดด เพื่อลดภาระของประชาชน ค่าไฟฟ้าจะอยู่ที่ 4.18 บาทต่อหน่วย เท่ากับปัจจุบัน

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ข่าวล่าสุด

ตร.วิสามัญมือยิง "ประธานสภา อบต." หลังคนร้ายพยายามขัดขืนยิงใส่เจ้าหน้าที่
"ธนกร" ขอโซเชียลลดดราม่าน้ำท่วมใต้ ยันรบ.ช่วยเต็มที่ แนะฝ่ายค้านอย่าโจมตีแต่การเมือง
เมืองนนท์ ค่าฝุ่นพิษกลับมาแล้ว เกินมาตรฐานทุกพื้นที่-กระทบสุขภาพ
ตร.ลุยค้นสำนักงาน "หมอบุญ" ย่านพระราม 9 เตรียมออกหมายจับเพิ่มอีก 2 ราย
"ทนายบอสพอล" นำบันทึกถอดเสียง "เจ๊พัช กฤษอนงค์" เจรจาผู้เสียหายเรียกรับผลประโยชน์ มอบกองปราบ
จีนจับภาพ ‘จิ้งจอกคอร์แซก’ กลางทุ่งหิมะขาว
ไบเดนสั่งระดมส่งอาวุธครั้งใหญ่ให้ยูเครน
"ชาวหน้าถ้ำ-ยะลา" ระทม น้ำท่วมพ่นพิษ ทำรถยนต์-จยย.จมน้ำพังเสียหายกว่า 200 คัน
นายก อิ๋ง ใจดี เพิ่มเงินรางวัล นร. แข่งขันวาดภาพชิงเงินรางวัล "สันติภาพ ไร้ขีดจำกัด" Peace without Limits ของไลออนส์ 310 C
จีนประณามลิธัวเนียหลังสั่งขับนักการทูต

ดู LIVE รายการ

X

เราใช้ คุ้กกี้ เพื่อให้ทุกคนได้ประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น