จบด้วยดี!! ปัญหาเงินทอดกฐินกว่า 1 ล้านบาท ”วัดหนองนกเมืองคอน” จบชื่นมื่น

ปัญหาเงินทอดกฐินกว่า 1 ล้านบาท”วัดหนองนกเมืองคอน”จบชื่นมื่นหลังเจ้าคณะจังหวัด,ผอ.สำนักพุทธรุดเคลียร์แนะนำเปิดบัญชี เฉพาะกิจก่อสร้างพระเจดีย์พุทธชยันตีธรรมรัตโภาส พร้อมแต่งตั้งคณะกรรมการ ตรวจสอบการใช้จ่าย อย่างละเอียด

(5 พ.ย.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่าเมื่อวานนี้ (4 พ.ย.)พระเมธีวชิราภิรัต ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดพระมหาธาตุวรมหาวิหาร เจ้าคณะจังหวัดนครศรีธรรมราช (ธรรมยุติ) พร้อมคณะสงฆ์และนางพัทยา ทองเสภี ผู้อำนวยการสำนักงานพระพุทธศาสนา จังหวัดนครศรีธรรมราช เดินทางไปยังวัดหนองนกหมู่ 10 ตำบลบางจาก อำเภอเมืองจังหวัดนครศรีธรรมราช เพื่อ ตรวจสอบและแก้ไขปัญหากรณีที่เมื่อวานนี้ ( 3 พ.ย.)พระครูอุทัยธรรมโศภิต หรือ พระอาจารย์สายัณห์ เจ้าอาวาส วัดหนองนก ได้เดินทาง ไปแจ้งความ กับพนักงานสอบสวน สภ.เมืองนครศรีธรรมราช เพื่อแจ้งความดำเนินคดีกับผู้ใหญ่บ้าน หมู่ 10 ตำบลบางจากอำเภอเมืองจังหวัดนครศรีธรรมราช และนางกมลพร เคนเวิร์ทธีย์ เจ้าภาพทอดกฐินสามัคคีวัดหนองนกประจำปี 2567 เมื่อวันที่ 1 พ.ย.2567 ที่ผ่านมาเพราะไม่ยอมนำเงินที่ได้จากการทอดกฐินกว่า 1 ล้านบาทฝากเงินในบัญชีวัดหนองนกแต่กลับนำไปเปิดบัญชีใหม่และนำเงินจำนวนดังกล่าวไว้ อ้างว่าที่ผ่านมาเงินที่เข้าบัญชีวัดมีการเบิกจ่ายไม่โปร่งใส ไม่สามารถตรวจสอบการใช้จ่ายได้
ซึ่งก่อนหน้านี้ได้มีการเจรจาตกลงกันว่าก่อนถึงวันทอดกฐินว่าให้ทางเจ้าอาวาสวัดหนองนก ไปปรับปรุงแก้ไขและเพิ่มเติมรายชื่อผู้มีอำนาจในการเบิกจ่ายเงินจากบัญชีของวัดให้ถูกต้องครบถ้วนจำนวน 3 คนเพราะในปัจจุบันเหลือเพียง 2 คน และ 1 คนยังมีปัญหาด้านสุขภาพที่ไม่สามารถเดินทางมาทำกิจกรรมที่วัดได้และมีการตกลงให้เพิ่มชื่อผู้ ใหญ่บ้านเข้าไปด้วย แต่เมื่อถึงวันทอดกฐินเจ้าอาวาสกลับไม่ได้ดำเนินการใด ๆ ทางเจ้าภาพผู้จัดการทอดกฐิน จึงไม่มั่นใจที่จะนำเงินทอดกฐินกว่า 1 ล้านบาทไปฝากในบัญชีของวัด หากทางเจ้าอาวาสดำเนินการเกี่ยวกับบัญชีของวัดเสร็จสิ้นเรียบร้อยก็จะโอนเงินทั้งหมดเข้าบัญชีวัดทันที ทางพนักงานสอบสวน จึงลงบันทึกประจำวันไว้เป็นหลักฐาน ไม่ได้รับแจ้งความเพื่อดำเนินคดีกับผู้ใหญ่บ้านและ เจ้าภาพโทษกฐินตามที่เป็นข่าวแต่อย่างใด

โดยในที่ประชุมนางกมลพร เคนเวิร์ทธีย์ เจ้าภาพทอดกฐินสามัคคีวัดหนองนกได้ชี้แจงว่าตามปกติ การจัดงานทอดกฐินผ้าป่า วัดหนองนกในแต่ละปี จะรวมยอดปัจจัยได้ครั้งละ 2-3 แสนบาท แต่ในครั้งนี้ทางเจ้าภาพกฐินมีวัตถุประสงค์ เพื่อก่อสร้าง “พระเจดีย์พุทธชยันตีธรรมรัตโนภาส”ที่ค้างคามากกว่า 10 ปีให้แล้วเสร็จ จึงได้ปรึกษากับช่างก่อสร้างว่าจะต้องใช้เงินอีกประมาณ 800,000 บาทถึง 1 ล้านบาทจึงจะเสร็จสมบูรณ์ ก่อนการทอดกฐิน 1-2 เดือนทางคณะเจ้าภาพโทษกฐินได้เจรจาตกลงกับเจ้าอาวาสวัดหนองนก เพื่อให้มีการเพิ่มรายชื่อ ผู้ใหญ่บ้าน หมู่ 10 เข้าไปเป็นหนึ่งในผู้มีอำนาจในการเบิกจ่ายเงินในบัญชีของวัด ที่เดิมมีผู้อำนาจ 3 คนประกอบด้วย เจ้าอาวาส ไวยาวัจกร และผู้ทรงคุณวุฒิอีก 1 คน ในปัจจุบันผู้มีอำนาจเซ็นเบิกเงินเสียชีวิตไป 1 คน อีกหนึ่งคนมีปัญหาด้านสุขภาพจนไม่สามารถเดินทางไปไหนมาไหนได้สะดวก โดยในการเบิกเงินแต่ละครั้งเจ้าอาวาสจะให้คนไปที่บ้านและเซ็นมอบอำนาจให้บุคคลอื่นพร้อมกับเจ้าอาวาสทำการเบิกเงินจากบัญชีของวัดมาใช้จ่าย และเจ้าอาวาส ไม่สามารถชี้แจงรายละเอียดการใช้จ่ายได้ ซึ่งเจ้าอาวาสก็ตกลงและสัญญาว่าจะดำเนินการเพิ่มรายชื่อผู้ใหญ่บ้าน เป็นผู้มีอำนาจเบิกจ่ายเงินในบัญชีวัดด้วย ทางเจ้าภาพทอดกฐิน จึงได้ระดมเงินทอดกฐิน จนได้ยอดจำนวน1,045,747 บาท หักค่าใช้จ่ายในการ ดำเนินการวันทอดกฐิน37,970 บาท เหลือยอดเงินสุทธิ 1 ,009,747 บาท
“ตนได้ขอสมุดบัญชีของวัดหนองนกเพื่อที่จะนำเงินจำนวนดังกล่าวฝากเข้าบัญชีวัดแต่พบว่า ทางเจ้าอาวาสยังไม่ได้ดำเนินการแก้ไขให้บัญชีถูกต้องตามที่ตกลงกันไว้ ตนจึงไม่มั่นใจในการที่จะนำเงินเข้าบัญชีวัด จึง ปรึกษากับอดีตเจ้าคณะจังหวัดนครศรีธรรมราชแนะนำให้ไปเปิดบัญชีฝากเงินจำนวนดังกล่าวเอาไว้ก่อน เพื่อรอให้ทางเจ้าอาวาสวัดหนองนกดำเนินการเกี่ยวกับบัญชีวัดให้ถูกต้องตามที่ตกลงกันไว้และจะดอนเงินไปบัญชีวัดหนองนกต่อไป แต่เจ้าอาวาสกลับเดินทางไปแจ้งความดำเนินคดีกับตนและผู้ใหญ่บ้าน อย่างไรก็ตามเมื่อพนักงานสอบสวนเชิญตนและผู้ใหญ่บ้านไปพบและได้ชี้แจงข้อเท็จจริงกับพนักงานสอบสวน ทางพนักงานสอบสวนจึงแค่ลงบันทึกประจำวันไว้เป็นหลักฐานและให้ทั้งสองฝ่ายกลับมาเจรจาเพื่อดำเนินการเกี่ยวกับบัญชีวัดให้ถูกต้องตามที่ตกลงกันไว้ จนเกิดเป็นข่าวดังโซเชี่ยล อย่างกว้างขวาง”
ในขณะที่พระเมธีวชิราภิรัต เจ้าคณะจังหวัดนครศรีธรรมราช พร้อมนางพัทยา ทองเสภี ผู้อำนวยการสำนักงานพระพุทธศาสนาจังหวัดนครศรีธรรมราช ได้ร่วมกันชี้แจงถึงระเบียบตามพระราชบัญญัติคณะสงฆ์ ที่ในทางปฏิบัติหลังจากการทอดกฐินจะต้องนำเงินฝากธนาคารบัญชีของวัด ซึ่งในการเบิกจ่ายทางเจ้าอาวาสจะต้องจัดทำบัญชีรายละเอียดชี้แจงการใช้จ่ายอย่างละเอียด ซึ่งเท่าที่รับฟังเรื่องราวทั้งหมดพบว่าทุกฝ่ายก็มีเจตนาที่ดีกับวัดและพุธศาสนา อาตมาขอให้ทุกฝ่ายตั้งสติและร่วมกันดูแลทำนุบำรุงพระพุทธศาสนา และพัฒนาวัดหนองนกต่อไป โดยแนวทางการแก้ไขปัญหา 1. ขอให้เจ้าอาวาสวัดหนองนกไปดำเนินการ เพิ่มรายชื่อผู้ใหญ่บ้านหรือบุคคลอื่นที่เหมาะสม ในบัญชีของวัดให้ครบ 3 คนหรือจะเพิ่ม 5 คนก็ได้ เพื่อให้ทุกฝ่ายมั่นใจในการเบิกจ่ายเงินจากบัญชีของวัดมาใช้จ่ายและการใช้จ่ายทางเจ้าอาวาสจะต้องทำบัญชีชี้แจงรายละเอียดให้คณะสงฆ์ทราบอย่างละเอียดตามที่กำหนดไว้ใน พ.ร.บ.สงฆ์ 2. หากยังไม่มั่นใจที่จะโอนเงินเข้าบัญชีวัดก็สามารถเปิดบัญชีใหม่ขึ้นเป็นการเฉพาะชื่อบัญชี”สร้างพระเจดีย์พุทธชยันตีทำรัตโนภาส” โดย 1 ในผู้มีอำนาจเบิกจ่ายเงินจะ 3 คนหรือ 5 คนก็ได้ แต่จะต้องมีเจ้าอาวาสรวมอยู่ด้วย 1 ท่าน และ 3.ให้มีการแต่งตั้งคณะกรรมการวัดหรือคณะกรรมการเฉพาะกิจในการตรวจสอบการใช้จ่ายเงินวัดหรือเฉพาะเงินบัญชีสร้างพระเจดีย์พุทธชยันตีทำรัตโนภาส ให้แล้วเสร็จตามวัตถุประสงค์ของเจ้าภาพและพุทธบริษัทที่ร่วมกันทอดกฐินในปีนี้

ซึ่งปรากฏว่าทางเจ้าอาวาสวัดหนองนก และทุกคนที่ร่วมในการเจรจาเห็นด้วยกับแนวทางการแก้ปัญหาดังกล่าว โดยเจ้าอาวาส ผู้ใหญ่บ้านและนางกมลพร เจ้าภาพ ฯจะเร่งดำเนินการตามพระเมธีวชิราภิรัต เจ้าคณะจังหวัดนครศรีธรรมราช แนะนำให้แล้วเสร็จภายใน 1 สัปดาห์ เรื่องราวปัญหาเงินทอดกฐินวัดหนองนกกว่า 1 ล้านบาทจึงยุติและต่างแยกย้ายกันกลับไปอย่างชื่นมื่น
ทางด้านนายอิทธิพล สารมาศ ผู้ใหญ่บ้าน กล่าวว่า ถือว่าเรื่องราวยุติลงด้วยดีโดยข้อเสนอทั้งหมด ตนและทางเจ้าภาพทอดกฐินได้เคยเจรจาตกลงกับเจ้าอาวาสมาก่อนหน้านี้ แต่เจ้าอาวาสกลับไม่ดำเนินการตามที่ตกลงกันไว้ และยังเดินทางไปยัง สภ.เมืองนครศรีธรรมราช เพื่อแจ้งความดำเนินคดีกับตนและนางกมลพร จนกลายเป็นเรื่องฉาวโฉ่ แต่เมื่อทางคณะสงฆ์ชั้นผู้ใหญ่ มาร่วมประชุมเจรจาเจ้าอาวาสวัดหนองนก กับโยมรับตามที่เจ้าคณะจังหวัดเสนอทุกอย่างจึงยุติลงได้ดังกล่าว หากท่านดำเนินการตามที่ตกลงกันไว้ทุกอย่างก็ไม่มีปัญหา ที่สำคัญท่าน คิดและมีความประสงค์ใดจึงเดินทางไปแจ้งความกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ จนชาวโลกโซเชี่ยลมองตนและนางกมลพรในทางที่เป็นลบ แต่เมื่อเรื่องยุติลงด้วยดีตนก็ไม่ติดใจใด ๆ อีก ซึ่งในความจริงชาวบ้าน หมู่ 10 บ้านหนองนกทุกคนก็รักและเข้าใจเจ้าอาวาส แต่ทางเจ้าอาวาสอาจจะไม่เข้าใจชาวบ้าน

ไพฑูรย์ อินทศิลา/นครศรีธรรมราช
5 พ.ย.2567

ข่าวที่น่าสนใจ

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ข่าวล่าสุด

สวธ. จัดประกวด Cosplay World Thailand 2025 หนุนคนรุ่นใหม่ แสดงพลัง Soft Power ผ่านศิลปะไทยประยุกต์ ต่อยอดสู่อาชีพในอนาคต
หลายหน่วยงาน เข้าช่วยเหลือ เด็กออทิสติก หลังแม่ผูกคอหนีปัญหาหนี้สิน ก่อนฟื้นคืนชีพต่อหน้าเจ้าหน้าที่
ด่านผ่านแดนถาวรบ้านเขาดิน อ.คลองหาด จ.สระแก้ว เงียบเหงา คนกัมพูชาทำงานในไทยรอดูสถานการณ์หลังไทยผ่อนปรน
"กรมบังคับคดี" ร่วมงานมหกรรมการเงินหาดใหญ่ MONEY EXPO 2025 เดินหน้าจัดงานไกล่เกลี่ยหนี้ ช่วยประชาชนเข้าถึงความยุติธรรมอย่างเป็นธรรม
"นิพนธ์" สวนเดือดผู้บริหารปชป. ลั่นเลือดแท้รับได้มติพรรค แต่รับไม่ได้พวกใช้อำนาจสั่ง ขู่ไล่คน เพื่อบังคับยัดเยียด ยอมรับมติโจร
RBSO ร่วมกับ สวธ. จัดการแสดงคอนเสิร์ต Royal Concert “A Celebration of Thai Masters” เฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระเจ้าน้องนางเธอ เจ้าฟ้าจุฬาภรณวลัยลักษณ์ อัครราชกุมารี กรมพระศรีสวางควัฒน วรขัตติยราชนารี
"วิโรจน์" หยันสุด "พิชัย" บินเจรจาภาษีการค้าสหรัฐไร้ข้อสรุป หยันเหมือนมวยโดนจระเข้ฟาดหาง จะฟื้นตัวทันเดดไลน์หรือไม่
ปิดประตูตีมาร! หยุดอนุญาตธุรกิจรักษ์โลกจอมปลอม ปูพรม ฟาดรีไซเคิล EEC เถื่อน
ลือ ! เปิดชายแดนหาดเล็ก 7 หรือ 10 กรกฎาคมนี้
"เอกนัฏ" เอาจริง จัดการบริษัทลักลอบนำกากอุตสาหกรรมม ไปฝั่งใต้ดินในพื้นที่โซน EEC

ดู LIVE รายการ

X

เราใช้ คุ้กกี้ เพื่อให้ทุกคนได้ประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น