ส่วนที่ประชาชน และสื่อมวลชนถามหาว่าใครคือ เทวดาตัวจริง หากดูสตอรี่จะพบว่า เบอร์หนึ่งคือ บอสพอล เบอร์สองคือ บอสแซม ซึ่งเป็นอดีตผู้สมัครผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร และผู้สมัคร สส. เขต 14 พรรคเพื่อไทย และหนึ่งในผู้ให้การสนับสนุน บริษัทดิไอคอน ยังเป็นเจ้าของรายการ และเป็นพิธีกรรายการที่เกี่ยวข้องกับคนอายุน้อย ใช้ชื่อว่า “บอสก้อง” เคยนำผู้บริหารของบริษัท ดิไอคอนมาออกรายการ และเชิญชวนให้ประชาชนไปสมัครเป็นสมาชิก อีกทั้ง บอสก้อง ยังเป็นผู้สมัคร สส.พรรคเพื่อไทย และมีความสนิทสนมกับผู้ใหญ่ของพรรคเพื่อไทย มีการลงทุนในบางกิจกรรมร่วมกันด้วย

พล.ต.ท.ปิยะ กล่าวอีกว่า ปี 62-67 พบว่าประธานคณะกรรมาธิการคุ้มครองผู้บริโภค สภาผู้แทนราษฎร อักษรย่อ ม. มาจากพรรคเพื่อไทย จังหวัดชัยภูมิ เลขาคณะกรรมาธิการคุ้มครองผู้บริโภค สภาผู้แทนราษฎร ขณะนี้เป็นรัฐมนตรีช่วยว่าการในรัฐบาลแพทองธาร ไม่ทราบว่า นายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานสภาผู้แทนราษฎร ได้สืบสวนสอบสวนเรื่องนี้อย่างตรงไปตรงมาหรือไม่

สำหรับเทวดาที่เกี่ยวข้อง เป็นบุคคลที่มีชื่อย่อ “ก ธ ส ต อ จ่า” ทั้ง 6 คนนี้มีความใกล้ชิดและเกี่ยวข้องกับนักการเมืองที่ร่วมรัฐบาล และนักการเมืองหรือพรรคเพื่อไทยเกือบทั้งหมด ส่วนอักษรย่อ “ส ฮ ด ต” เทวดาอยู่ข้างหลังเป็นใคร และนายสามารถ ปี 57 เป็นผู้อำนวยการศูนย์ร้องทุกข์ของกลุ่มสามมิตร มี 62 ได้รับการแต่งตั้งเป็นผู้ช่วยรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม ส่วนคลิปต่างๆ ที่บอกว่าสามารถแต่งตั้งดีเอสไอได้ เพราะ นายสามารถ เป็นผู้ช่วยรัฐมนตรี ไม่ใช่เรื่องยากย้อนข้อมูลก็จะรู้ว่าใครเป็นรัฐมนตรีในช่วงเวลานั้น

โฆษกพรรคพลังประชารัฐ ย้ำอีกว่า ตัวแปรสำคัญคดีดิไอคอน คือ ผู้สอบบัญชี บริษัทนี้รอดจากการตรวจสอบของสรรพากรมาได้อย่างไร 6-7 ปี บริษัทไหนเป็นผู้สอบบัญชี และมีความสนิทสนมกับใครในรัฐบาลปัจจุบันหรือไม่