พลตำรวจโท กรไชย คล้ายคลึง ผู้บัญชาการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (ผบช.สอท.) หรือ ตำรวจไซเบอร์ แถลงผลการจับกุม น.ส.นฤมล ชำนาญ อายุ 18 ปี และ น.ส.น้ำผึ้ง ชนะมาร อายุ 19 ปี ผู้ต้องหาที่เกี่ยวข้องกับการหลอกขายโทรศัพท์มือถือให้กับ น้องก้อง อายุ 14 ปี นักเรียนชั้นมัธยมศึกษา ปีที่ 2 โรงเรียนแห่งหนึ่ง ในจังหวัดเชียงใหม่
ผู้ต้องหาทั้ง 2 มีความเชื่อมโยง เป็นชื่อเจ้าของบัญชีที่มีการโอนเงินจากผู้เสียหาย ซึ่งผู้ต้องหาอ้างว่ารับจ้างมาเปิดบัญชีให้กับตัวการสำคัญคือ น.ส.พิยดา ทองคำพันธ์ อายุ 19 ปี เจ้าหน้าที่ จึงได้ขออนุมัติจากศาล ออกหมายจับทันที จากการสืบสวนสอบสวน พบ น.ส.พิยดา เปิดร้านค้าออนไลน์ ผ่านทางอินสตาแกรม ใช้ชื่อ phonebymint ซึ่งมีผู้ติดตามมากกว่า 60,000 คน ซึ่ง น้องก้อง ได้ติดต่อซื้อโทรศัพท์มือถือ ไอโฟน 7 ขนาด 32 กิกะไบต์ ในราคา 5,000 บาท เพื่อนำไปใช้เรียนออนไลน์ เมื่อตัดสินใจซื้อและโอนเงินไป แต่ผู้ต้องหากลับไม่ส่งของให้ ทำให้ น้องก้อง เกิดความเครียด จนเส้นเลือดในสมองแตก และเสียชีวิตในเวลาต่อมา
พลตำรวจโท กรไชย เปิดเผยว่า หลังจากเกิดเรื่อง เจ้าหน้าที่ ก็ได้รวบรวมพยานหลักฐาน ขอศาลจังหวัดเชียงใหม่ อนุมัติออกหมายจับผู้ต้องหาทั้ง 2 คน ในข้อหาฉ้อโกงประชาชน และผิด พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ นำข้อมูลบิดเบือน หรือ ปลอมรุ่น ก่อให้เกิดความเสียหายแก่ประชาชน จึงสืบสวนติดตาม จนสามารถจับกุมผู้ต้องหาได้ที่ เคหะบางบอน กทม. และ จ.ปทุมธานี ซึ่งจากการสืบสวนขยายผล ทราบว่า น.ส.พิยดา เป็นตัวการสำคัญในการก่อเหตุ จึงไปตรวจค้นที่บ้านพักของแฟนหนุ่ม ย่านราชพฤกษ์ อ.เมืองนนทบุรี พบของกลางเป็นจำนวนมาก อาทิ แท็บเลต , คอมพิวเตอร์ Pc , โน๊ตบุ๊ค , ตู้เซฟนิรภัย , กระเป๋าแบรนด์เนม , ซิมการ์ดโทรศัพท์มือถือ และ รถยนต์ BMW จึงทำการยึดทรัพย์นำมาตรวจสอบอีกครั้ง โดย น.ส.พิยดา มีพฤติกรรม ชอบใช้ของแบรนด์เนม ใช้ชีวิตหรูหรา ซึ่งเงินส่วนใหญ่ได้มาจากการฉ้อโกงผู้อื่น
นอกจากนี้ ยังพบว่า น.ส.พิยดา เคยต้องคดีความผิดในลักษณะเดียวกัน พื้นที่ สภ.คลองหลวง มีหมายจับของศาลเยาวชนและครอบครัว จังหวัดปทุมธานี ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างสืบสวนขยายผลว่า มีผู้ร่วมขบวนการหรือไม่ หากมีก็จะติดตามนำตัวมาดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป อีกทั้ง พนักงานสอบสวน จะมีบันทึกสำนวน ไปยัง เลขาธิการ ปปง. ให้พิจารณาตาม พ.ร.บ.ป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน เพื่อติดตามยึดทรัพย์ของกลุ่มผู้ต้องหารายนี้ต่อไป
ด้าน น้องพลอย อายุ 18 ปี ผู้เสียหายที่ถูกหลอกรายนี้ เปิดเผยว่า ตนกำลังศึกษา ระดับชั้น ปีที่ 1 มหาวิทยาลัยหนึ่ง ซึ่งมีความจำเป็นจะต้องใช้โทรศัพท์มือถือในการเรียนออนไลน์ช่วงนี้ จึงหาข้อมูลในอินสตาแกรม และพบว่า ร้านของผู้ต้องหาในอินสตาแกรม มีผู้ติดตามจำนวนมากดูน่าเชื่อถือ เมื่อเปรียบเทียบราคาจากช็อปก็ใกล้เคียงกัน จึงตัดสินใจติดต่อ ซื้อโทรศัพท์ ไอโฟน 11 ในราคา 11,000 บาท หลังจากโอนเงินไปก็ไม่ได้ของ และติดต่อไม่ได้ ตนคิดว่า โดนหลอกแน่นอน ก็จึงติดต่อเจ้าหน้าที่ตำรวจ ให้ติดตามตัวมาดำเนินคดี ซึ่งตอนนี้รู้สึกดีใจที่เจ้าหน้าที่ สามารถจับกุมผู้ร่วมขบวนการมาได้ และหวังว่า จะได้เงินคืน เพื่อนำไปซื้อโทรศัพท์มือถือใช้ในการศึกษาต่อไป
ส่วนอีกคดี เป็นการจับกุม น.ส.สุภาพ วงศ์จันทร์ อายุ 45 ปี ฐานฉ้อโกงประชาชน ตอนก่อเหตุอ้างเป็นพนักงานไปรษณีย์ หลอกลวงจำหน่ายเครื่องใช้ไฟฟ้าให้ในราคาถูก ผ่านทาง facebook ชื่อ “ตู้เย็นราคาถูก อนุมัติไว ส่งฟรีทั่วไทย” โดยจัดโปรโมชั่น ซื้อ 2 แถม 1 และหากซื้อสินค้าครบ 30,000 บาท จะได้รับเครื่องปรับอากาศติดตั้งฟรี เมื่อผู้เสียหายหลงเชื่อ โอนเงินให้ จำนวน 30,244 บาท แต่ถูกหลอกลวง จนต้องร้องเรียนผ่านสื่อมวลชนให้ช่วยเหลือ เหตุการณ์ดังกล่าว เกิดขึ้นในพื้นที่อำเภอเมือง จังหวัดเพชรบูรณ์
จากการสอบสวน ผู้ต้องหา รับสารภาพว่า เมื่อช่วงเดือนสิงหาคมที่ผ่านมา ได้รับการว่าจ้าง จากหญิงไทยไม่ทราบชื่อรายหนึ่ง ให้เปิดบัญชีธนาคาร 2,500 บาท โดยปฏิเสธไม่ใช่เป็นผู้เปิด Facebook หลอกลวง เป็นเพียงคนเปิดรับโอนบัญชีเท่านั้น
พนักงานสอบสวน จึงดำเนินคดี ในข้อหาฉ้อโกงประชาชน และโดยทุจริตหลอกลวง นำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ที่บิดเบือน
