ควันหลงลงพื้นที่เพชรบุรี -อยุธยา วัดพลังระหว่างก๊ก “ลุงตู่” พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯ กับ ก๊วน “ลุงป้อม” พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ ฝั่งนายกฯที่ไปตรวจพื้นที่แม่ร้ำเพชรบุรีมีส.ส.มีผู้แทนตามไปให้กำลังใจหรอมแหรมแค่ 9 คน ตั้งแถวกันแล้วสั้นยิ่งกว่าหางจิ้งจกขนาดมียศฐาบันดาศักดิ์เป็นถึงผู้นำประเทศแท้ๆ ส่วนเสนาบดีที่ตามไปให้กำลังใจกันจริงมีแค่ “ลุงป๊อก” พล.อ.อนุงพษ์ เผ่าจินดา รมว.มหาดไทย พี่กลาง 3 ป. ที่ตอนนี้ลงเรือลำเดียวกันมีศัตรูทางการเมืองคนเดียวกันคือ “ผู้กองแป้ง” ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า เลขาธิการพรรคพลังประชารัฐ เพราะขบเหลี่ยมเฉือนคมเล็งเลื่อยขาเก้าอี้มท.1 เช่นกัน ลงพื้นที่รอบนี้ ถ้ามองอย่างเป็นธรรมแลอย่างเป็นกลางก็เห็นชัด ฝั่งพล.อ.ประยุทธ์แม้ส.ส.มีน้อยแต่ได้กำลังใจชาวบ้านล้นหลาม ดอกกุหลาบ ขนมฝาก ของกิน รอยยิ้ม สร.1ได้กำลังใจกลับมาจากเมืองเพชรแบบเต็มๆ ไม่ต้องจัดตั้งไม่ต้องจัดฉาก ผิดกับฟากลุงป้อมฝั่งผู้กองธรรมนัส แม้จะมีส.ส.โทรตามมาล้อมหน้าล้อมหลังยาวเหยียดเป็นหางว่าวกว่าครึ่งร้อยถึง 55 คน มีรัฐมนตรีและแกนนำพรรคไปรอรับบานตะเกียง ทั้งร.อ.ธรรมนัส นางนฤมล ภิญโญสินวัฒน์ เหรัญญิกพรรคพลังประชารัฐ นายสันติ พร้อมพัฒน์ รมช.คลัง นายอธิรัฐ รัตนเศรษฐ รมช.คมนาคม นายชัยวุฒิ ธนาคมานุสรณ์ รมว.ดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม แต่บรรยากาศทั่วไปก็ดูอึนๆ เพราะมีแต่รัฐมนตรี ส.ส. ทหาร ตำรวจ ส่วนราชการ มาร่วมงานกันแบบแกนๆ ตรงตามกระแสข่าวที่ออกมาก่อนหน้าว่าถูกเกณฑ์มา ร.อ.ธรรมนัสให้คนยกหูเชคชื่อส.ส.ทุกภาคให้มาแสดงพลังรับลุงป้อมเย้ยลุงตู่เอาคืนที่ถูกปลด
งานนี้ต้องบอกว่าผู้กองทำสำเร็จแบบเต็มๆ รวมพลังส.ส.ถึงเป้าหมายได้ใจนายป้อมแบบสุดลิ่มทิ่มประตู แต่ภาพรวมภาพใหญ่คนไทยมองแล้วสมเพชอนาจใจแท้ วัดพลังแข่งกันเอง คนข้างนอกมองไปแล้วหดหู่ขนาดเพิ่งโดนปลดเพราะก่อเรื่องมาแท้ๆ แทนที่จะสำนึกแทนที่จะทำงานเงียบๆแทนที่จะกลับตัวกลับใจใหม่ แต่สุดท้ายก็อีหรอบเดิม ยังคิดแค้นยังไม่หยุดยังเล่นการเมืองแบบเดิมๆ วางโปรแกรมลงพื้นที่เกณฑ์ส.ส.มาให้กำลังใจใส่แจกเก็ตไก่ปีระกาเอาใจให้นายเคลิ้ม ทั้งหมดนี้คือการเมืองแบบเก่า นักการเมืองยุคใหม่ผู้แทนหัวก้าวหน้าเขาไม่คิดเขาไม่ทำกันแบบนี้ แค่แนวคิดแค่วิธีการก็ห่างกันลิบลับวัดกันได้ชัดว่าใครของจริงใครของปลอมทำเลียนแบบ ดูประชาชนชาวบ้านที่ไปรับลุงตู่ที่เพชรบุรีสิ อุ่นหนาฝาคั่งใบหน้ามีแต่รอยยิ้ม ส่วนฝากอยุธยาแต่ละทั้งเสนาบดีเจ้าใหญ่นายโตแต่ละคนหน้าดำคร่ำเครียด ประชุมเสร็จดูงานจบก็รีบบึ่งกลับบ้านเพราะจัดฉากดูไม่เนียน นานไปเดี๋ยวคนจับได้ว่าเล่นลิเกตบตาคนไทย
ร.อ.ธรรมนัสผู้จัดการพลังประชารัฐ แก้ต่างไม่คิดวัดพลังจนคนเย้ยนายกฯ แต่ที่ชวนส.ส.ภาคเหนือ ภาคอีสาน ลงพื้นที่ อ.บางบาล จ.พระนครศรีอยุธยา ให้กำลังใจพล.อ.ประวิตร เพราะทุกคนต้องมารอประชุมส.ส.พรรค 23 ก.ย.ที่รัฐสภา ประจวบเหมาะเลยขอหัวหน้าและประธานยุทธศาสตร์พรรค ใช้พื้นที่อยุธยาพบปะหารือกันเป็นธรรมดา ไม่มีอะไรในก่อไผ่ไม่ใช่เรื่องประลองกำลังงัดกันแต่อย่างใด ผู้กองแก้ต่างกับนักข่าวเข้าทำนองสุภาษิตไทย “พูดไปสองไพเบี้ยนิ่งเสียตำลึงทอง” เอิกเกริกกันขนาดนั้น ภาพข่าวทุกช่องก็ชัด ปัดยังไงก็ไม่พ้นตัว
ความฮอตของร.อ.ธรรมนัสยังไม่หมด หลังเป็นต้นเหตุก่อเรื่องราวสร้างประเด็นสารพัด ล่าสุดวานนี้ควงลูกพี่อย่าง “บิ๊กน้อย” พล.อ.วิชญ์ เทพหัสดิน ณ อยุธยา ประธานยุทธศาสตร์พรรค นายวิรัช รัตนเศรษฐ นายไพบูลย์ นิติตะวัน รองหัวหน้าพรรค ร่วมการประชุมกับส.ส.พรรค ชั้น 6 อาคารรัฐสภา มีวาระเตรียมความพร้อมเพื่อพิจารณาเลือกตั้งท้องถิ่น อบต. ที่จะเกิดขึ้นในวันที่ 28 พ.ย. งานนี้พล.อ.ประวิตร หลีกทางไม่ได้เข้าร่วมประชุม ผู้กองเลยนั่งหัวโต๊ะเป็นประธานแบบจัดเต็ม เปิดหัวก็ขอร้องให้ส.ส.สามัคคีเป็นหนึ่งเดียว ไม่มีมุ้ง ผนึกกำลังอย่าไปทะเลาะกันตามกระแสของสื่อ ก่อนสั่งให้ทุกคนเตรียมความพร้อมรับเลือกตั้งทุกขณะ ” ขอให้ทุกคนเตรียมพร้อมเลือกตั้ง เพราะเวลารัฐบาลอยู่อีกไม่นาน ต้องเอาความจริงมาพูดกัน พรรคพลังประชารัฐตอนนี้ถือว่าตกต่ำ คะแนนเสียงเราไม่ดีเลยถ้าเทียบกับเมื่อ 5 เดือนก่อนหน้านี้กระแสพรรคดีกว่าในปัจจุบัน” ร.อ.ธรรมนัสระบุ ก่อนร่ายยาวต่ออีกว่า ” ถ้าเราไม่กระตือรือร้น ไม่ลงพื้นที่ และในช่วงนี้รัฐบาลเจอวิกฤติพรรครัฐบาลก็ย่ำแย่ไปตามกัน ถ้าเรายังทำอยู่เท่านี้ ไปสำรวจคะแนนความนิยมชมชอบเราอาจอยู่รั้งท้าย หรืออาจแพ้พรรคก้าวไกลก็ได้ และเราไม่รู้นายกฯจะกำหนดวันเลือกตั้งเมื่อไหร่ ดังนั้น ให้ทุกคนทุ่มเท ทำการบ้านให้มากยิ่งขึ้น อย่าประมาท” สื่อมวลชนทุกสำนักอ้างเลขาธิการพรรคพลังประชารัฐระบุระหว่างคุยกับส.ส.
ถ้าเป็นจริงตามที่สื่อทุกแขนงเสนอข่าวตามนี้ ต้องบอกว่าร.อ.ธรรมนัสยังไม่หยุด พูดแบบนี้เหมือนไม่เข้าใจปัญหา เหมือนไม่รู้ว่าต้นตอความตกต่ำดำดิ่งของพรรคมาจากไหน ทวนความจำกันให้ชัด ย้อนอดีตไป 18 มิ.ย.2564 พรรคพลังประชารัฐมีมติตั้งร.อ.ธรรมนัสเป็นเลขาธิการพรรคที่จ.ขอนแก่น 3 เดือนเศษเท่านั้นที่มานั่งเป็นเม่บ้านพรรค ลองย้อนกลับไปดูได้เลยว่ามีแต่เรื่อง เกิดสารพัดปัญหาความวุ่นวายไม่หยุดหย่อนภายในพรรคพลังประชารัฐ ทำรัฐบาลกระเพื่อมไม่หยุด เป็นใหญ่ปุ๊บก็พามุ้ง 4 ช. “ธรรมนัส-นฤมล-อธิรัฐ-สันติ” ลบเหลี่ยมกระชากอำนาจมาจากกลุ่มสามมิตร 4 ว. ส่งผลให้ “สุริยะ-สมศักดิ์-อนุชา-สุชาติ” ต้องถอยออกไปเลียแผลแบบเงียบๆ หลีกทางให้แบบจำยอม เพราะเล่นใหญ่มีครบ เจ้านายก็รัก เงินก็ถึง ส.ส.ผู้แทนก็วิ่งเข้าหา ถัดมาก็เปิดศึกทะเลาะกันเองจนสันติต้องถอนตัวถอยห่างออกมาจากกลุ่ม 4 ช. ต่อด้วยการเดินเกมส์ฟาดงวงฟาดงาขอปรับตำแหน่งขยับเก้าอี้รัฐมนตรีใหม่ ร.อ.ธรรมนัสจะไปอยู่แรงงานนั่งแท่น “ไตรเทพ 1” ส่วนคู่หูตาโตปล่อยข่าว อยากผงาดเป็น “เสมา1” เป็นเบอร์ใหญ่กระทรวงศึกษาธิการ ราชดำเนิน แต่ความอยากกับความจริงมักเดินสวนทางกัน เรื่องถึงหูลุงตู่พล.อ.ประยุทธ์ไม่ปรับครม.ให้ เพราะโควิด-19 ยังระบาดหนักคนติดเป็นหมื่นคนตายหลายร้อย จะมาวุ่นวายกับการเมืองปรับตำแหน่งเอาใจบางคนก็ใช่เรื่อง ที่สุดเรื่องปรับตำแหน่งอัพเกรดรัฐมนตรีก็ถูกพับเก็บไป สุดท้ายความทะเยอทะยานผสมกับความโกรธก็รวมตัวกันทำสิ่งไม่คาดฝัน ต่อสายพรรคเล็กแจกกล้วยให้ลิงวางแผนเลื่อยขานายกฯ คิดการณ์ใหญ่ถึงขั้นคว่ำผู้นำประเทศในสภา เอาให้ตกม้าตายคาศึกซักฟอกหลุดตำแหน่งแบบขายหน้าไปทั้งชาติระหว่างการอภิปรายไม่ไว้วางใจ ถ้าใจไม่เหี้ยมความคิดไม่ระยำพอคงทำเรื่องแบบนี้ไม่ได้ แถมท้ายถึงขั้นปล่อยข่าวเบื้องบนไม่เอาสถาบันไม่รักใส่พล.อ.ประยุทธ์ เป็นใครจะไปทนไหวถูกตะเพิดไล่ออกพ้นครม.ยังนับว่าน้อยไป พล.อ.ประยุทธ์กับร.อ.ธรรมนัสหักกันรอบนี้คงยากที่จะคืนดีกันได้ แม้พล.อ.ประวิตรอาสาจะเป็นโซ่ข้อกลาง แต่คนเจ็บแล้วจำรักศักดิ์ศรียิ่งชีพอย่างพล.อ.ประยุทธ์คงไม่เสียคำพูดกลับไปคืนดีกับผู้กองแป้งแบบง่ายๆ จากนี้ก็อยู่กันไปแบบนี้นั่งเรือลำเดียวแต่อยู่กันคนละฝั่ง พายกันคนละข้างไปกันคนละทางไม่รู้เรือแป๊ะจะไปถึงไหนเข้าฝั่งอย่างไร
ในพลังประชารัฐเองคลื่นใต้น้ำก็ยังไม่สงบ ล่าสุดมีข่าวก๊กภาคกลางของนายสุชาติ เล็งเสนอชื่อ “เสี่ยต้น” นายสรวุฒิ เนื่องจำนงค์ ส.ส.ชลบุรี 3 สมัย ลูกชายของนายประโยชน์ เนื่องจำนงค์ อดีตรมช.อุตสาหกรรมยุคป๋าเปรม กับ นายอัฏฐพล โพธิพิพิธ ส.ส.กาญจนบุรี ลูกชายคนโตของ “กำนันเซี๊ยะ” ประชา โพธิพิพิธ อดีตเจ้าพ่อเมืองกาญจน์พรรคประชาธิปัตย์ ให้พล.อ.ประยุทธ์พิจารณาขึ้นชั้นเป็นรัฐมนตรี 2 ตำแหน่งที่ว่าง ขณะที่ฝากร.อ.ธรรมนัสเตรียมดันน้องรักอย่างนายไผ่ ลิกค์ ส.ส.กำแพงเพชร รองเลขาธิการพรรค ที่เคยตกเป็นข่าวเป็นคนเดิมเกมส์คว่ำนายกฯ กับลูกพี่มาใหม่อย่างพล.อ.วิชญ์ ขึ้นแท่นเป็นเสนาบดีใหม่ใช้โควต้า 2 ตัวของตัวเอง รอบนี้ต้องจับตาดูว่าพล.อ.ประยุทธ์จะว่าอย่างไร กับ 2 เก้าอี้รัฐมนตรีที่ว่างลง จะซื้อใจนายสุชาติที่ยอมเข้ามาเป็นสายตรงของตัวเอง หรือยอมตามร.อ.ธรรมนัสที่เสนอพี่เลิฟน้องรักมาเป็นหูเป็นตาในครม. หรือยึดโควต้ากลับมาให้คนอื่น ปรับครม.รอบนี้น่าสนใจเป็นอย่างยิ่ง
/////////////////////
