กรมอุตุฯ ฟ้องจริง พร้อมใช้พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ เอาผิดพวกปล่อยเฟกนิวส์สภาพอากาศ โทษคุกหนัก

กรมอุตุฯ ฟ้องจริง! พร้อมใช้พ.ร.บ.คอมฯ เอาผิดผู้สร้างเฟคนิวส์เกี่ยวกับสภาพอากาศ โทษจำคุกไม่เกิน 5 ปี ปรับไม่เกิน 1 แสนบาท พร้อมแจงข่าวลือพายุหมุนเขตร้อนฟิลิปปินส์ ไม่กระทบไทย

กรมอุตุฯ ฟ้องจริง พร้อมใช้พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ เอาผิดพวกปล่อยเฟกนิวส์สภาพอากาศ โทษคุกหนัก

 

 

ข่าวที่น่าสนใจ

เมื่อวันที่ 19 ต.ค.2567 กรมอุตุนิยมวิทยา เปิดเผยว่า เนื่องด้วยในปัจจุบันมีการเผยแพร่และส่งต่อข้อมูลการแจ้งเตือนภัยทางด้านอุตุนิยมวิทยาอันเป็นเท็จ จากผู้ที่ไม่มีหน้าที่และความรับผิดชอบโดยตรง บนสื่อสังคมออนไลน์เป็นจำนวนมาก ส่งผลให้เกิดความเข้าใจผิดและความเข้าใจคลาดเคลื่อนไปจากข้อมูลจริง เกิดความตื่นตระหนก สับสนกับสถานการณ์ และเกิดความปั่นป่วนในสังคมเป็นวงกว้าง

กรมอุตุนิยมวิทยาขอเตือนให้ท่านหยุดการกระทำอันเป็นการนำข้อมูลเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จ ข่าวลือ ข่าวปลอม ข่าวบิดเบือน ปลอมแปลง ดังกล่าว มิฉะนั้น อาจเข้าข่ายกระทำความผิดพระราชบัญญัติ ว่าด้วยการกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ (ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2560 มาตรา 14 (1) – (4) ซึ่งมีโทษจำคุกไม่เกิน 5 ปี ปรับไม่เกิน 1 แสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ ในช่วงที่เกิดสถานการณ์วิกฤตหรือมีภัยพิบัติ ต้องงดการส่งต่อข้อมูลที่เป็นเท็จ หรือหากมีข้อสงสัยควรตรวจสอบข้อมูลที่มาจากแหล่งอ้างอิงของทางราชการหรือหน่วยงานที่รับผิดชอบโดยตรง มิฉะนั้นอาจเข้าข่ายกระทำความผิด พ.ร.บ. ว่าด้วยการกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ (ฉบับที่ 2) พ.ศ.2560 มาตรา 14 (5)

 

กรมอุตุนิยมวิทยา ยังชี้แจงข่าวลือ “หย่อมความกดอากาศต่ำกำลังแรงเลขหมาย 94w บริเวณด้านตะวันออก ของประเทศฟิลิปปินส์ คาดว่าจะทวีกำลังแรงเป็นพายุหมุนเขตร้อนบริเวณด้านทิศตะวันออกของฟิลิปปินส์” โดยยืนยันว่าข่าวนี้ไม่ใช่ข้อมูลจากกรมอุตุนิยมวิทยา และเป็นข้อความที่มาจากบุคคลที่ไม่มีหน้าที่รับผิดชอบ หรือหน่วยงานที่แจ้งเตือนภัยธรรมชาติโดยตรง อาจทำให้เกิดความเข้าใจคลาดเคลื่อน

จากการติดตามและคาดการณ์ของกรมอุตุนิยมวิทยา ในขณะนี้มีหย่อมความกดอากาศต่ำอยู่ทางด้านตะวันออกของประเทศฟิลิปปินส์จริง และมีแนวโน้มจะทวีกำลังแรงขึ้นเป็นพายุหมุนเขตร้อน คาดว่าจะเคลื่อนไปยังตอนบนของประเทศฟิลิปินส์ ไปยังไต้หวัน ลงสู่ทะเลจีนใต้ในช่วงวันที่ 25-26 ตุลาคม 2567 ในขณะที่ความกดอากาศสูงหรือมวลอากาศเย็นจากประเทศจีนแผ่ลงมาปกคลุมประเทศไทย ลาว และเวียดนาม ตั้งแต่วันที่วันที่ 19 ตุลาคม 2567 และยังคงแผ่ลงปกคลุมอย่างต่อเนื่อง ลักษณะเช่นนี้ ทำให้ประเทศไทยมีฝนฟ้าคะนองในระยะแรก หลังจากนั้นอากาศจะเย็นลงและมีลมแรง พายุนี้จึงไม่มีผลกระทบต่อประเทศไทยโดยตรง จึงขอให้ประชาชนติดตามข้อมูลการพยากรณ์อากาศในระยะนี้อย่างใกล้ชิด ในกรณีที่มีการเปลี่ยนแปลงของสภาพอากาศร้ายแรงเกิดขึ้น กรมอุตุนิยมวิทยาจะออกประกาศเตือนอย่างเป็นทางการต่อไป

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ข่าวล่าสุด

ผู้ประกอบการตราดกระทบหนัก จี้ ภาครัฐเยียวยา ช่วยเหลือทั้งให้สินเชื่อและชะลอจ่ายสินเชื่อ เพิ่มมาตรการภาษีและขาดแรงงาน
"หมอมิ้ง" ยัน "นายกฯอิ๊งค์" ไม่ลาออก ย้ำเจตนารมย์คุย "ฮุน เซน" ทำเพื่อชาติ มั่นใจปท.ผ่านพ้น 2 วิกฤต
ไม่รอด ! ฉวยโอกาส ขณะกำลังฝ่ายความมั่นคงเฝ้าชายแดน 2 ผู้ต้องหาลอบขนบุหรี่เถื่อนจากกัมพูชา
จันทบุรี จับสายลับกัมพูชาพร้อมโดรนและอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ ชี้เป้า กองบิน 5 จ.ประจวบคีรีขันธ์
"โฆษกกต." เผยไทยเชิญองค์การระหว่างประเทศ เข้าพบ “18 เชลยกัมพูชา” พรุ่งนี้ รับทราบข้อเท็จจริง ไล่บี้เขมรชดใช้ปมยิงถล่มรพ.-บ้านพลเรือน
ฉะเชิงเทรา ผบ.พล.ร.11 รับมอบสิ่งของธารน้ำใจ ปชช. ส่งถึงทหารแนวหน้า

ดู LIVE รายการ

เราใช้ คุ้กกี้ เพื่อให้ทุกคนได้ประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น​