หัวใจมีจุก!!ชาวนกกรงหัวจุกภาคใต้รวมตัวยื่นหนังสือ ถึง รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ผลักดันปลดล็อคนกกรงหัวจุกออกจากสัตว์ป่าคุ้มครอง

หัวใจมีจุก!!ชาวนกกรงหัวจุก ภาคใต้รวมตัวยื่นหนังสือ ถึง รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ผลักดันปลดล็อคนกกรงหัวจุกออกจากสัตว์ป่าคุ้มครอง-รองหัวหน้าพรรค ปชป.ชี้เชื่อมีคน”รักนกกรงหัวจุกยิ่งกว่าเมีย” ขอเวลา 3 เดือน-ส่วนคนรักนกกรงหัวจุกย้ำ วันนี้หัวใจมีจุกไปเรียบร้อยแล้ว

(13 ต.ค.) ที่บ้านพักอำเภอร่อนพิบูลย์ จังหวัดนครศรีธรรมราช นายเกียรติศักดิ์ ขาวทอง แกนนำกลุ่มผู้เลี้ยงนกกรงหัวจุกจังหวัดนครศรีธรรมราช พร้อมสมาชิกชมรมคน รักนกกรงหัวจุก จากอำเภอต่าง ๆในจังหวัดนครศรีธรรมราช และนายฮิบรอฮีม ฉันบุตร ประธานชมรมนกกรงหัวจุกจังหวัดสงขลา ตัวแทน ชมรมคนรักนกกรงหัวจุก 5 จังหวัดชายแดนภาคใต้ รวมกว่า 100 คนได้เดินทางเข้าพบนายชัยชนะ เดชเดโช รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ เพื่อยื่นหนังสือเรียกร้องให้มีการแก้กฎหมายปลดล็อคการเลี้ยงและครอบครองนกกรงหัวจุก ซึ่งการเลี้ยงและครอบครองนกกรงหัวจุก เป็นวิถีชีวิตของประชาชนชาวภาคใต้ มาตั้งแต่โบราณ แต่เมื่อกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมออกกฎกระทรวงเกี่ยวกับการ กำหนดให้นกกรงหัวจุก อยู่ในบัญชีสัตว์ป่าคุ้มครอง ทำไงผู้เรียนทุกกลุ่มหัวจุกถูกจับกุมดำเนินคดีฐานมีไว้ในครอบครองซึ่งสัตว์ป่าคุ้มครองโดยไม่ได้รับอนุญาตตามมาตรา 19 พ.ร.บ.สงวนและคุ้มครองสัตว์ป่าพ.ศ 2535 สร้างความเดือดร้อน ให้กับประชาชนเป็นจำนวนมาก กระทบต่อวิถีการดำรงชีวิตและเศรษฐกิจหลายจังหวัดในภาคใต้เป็นอย่างมาก
ในขณะที่นายชัยชนะ เดชเดโช กล่าวว่า การดำเนินการในเรื่องนี้ คืบหน้าไปมากแล้วโดยอยู่ในขั้นตอนของการประชุม ของคณะกรรมการคุ้มครองสัตว์ป่า ซึ่งคณะกรรมการชุดนี้มีผู้ทรงคุณวุฒิอยู่ 5 คนแต่ในขณะนี้คณะกรรมการชุดดังกล่าวได้หมดวาระ จึงต้องรอให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมพิจารณาแต่งตั้งคณะกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิใหม่ หลังจากนั้นจะมีการบรรจุเรื่องนี้เข้าหารือในที่ประชุม เพื่อจะได้หารือและมีมติออกมาว่าจะมีความคิดเห็นเป็นอย่างไรคาดว่าน่าจะใช้ระยะเวลา 2-3 เดือน ซึ่งผมจะ ติดตามเรื่องนี้ด้วยตนเองอย่างใกล้ชิด หากมติคณะกรรมการสรุปว่าเห็นด้วยกับการปลดล็อคนกกรงหัวจุกออกจาก บัญชีสัตว์ป่าคุ้มครอง ก็จะนำไปสู่การแก้ไขข้อกฎหมายเพื่อปลดล็อคต่อไป โดยส่วนตัวเชื่อว่าเรื่องนี้เป็นไปในทิศทางที่ดี

“การเลี้ยงนกกรงหัวจุกมันมีสืบทอดกันมาอย่างยาวนาน และไม่ใช่ สร้างรายได้เฉพาะกุลเลี้ยงนกกรงอย่างเดียว เมื่อมีการเลี้ยงนกกรงหัวจุกคนเลี้ยงขายนก คนทำกรงนกขายกรงนก ชาวบ้านสามารถขายกล้วยได้ ขายตัวหนอนได้ คนจัดประกวดหรือแข่งขันนกกรงหัวจุกก็มีรายได้ กรรมการมีรายได้ สามารถสร้างรายได้กระตุ้นเศรษฐกิจของประเทศไทยได้อย่างชัดเจน ซึ่งตนถือว่าสอดคล้องกับนโยบายของรัฐบาล และนายกรัฐมนตรีแพทองธาร ชินวัตร เกี่ยวกับเรื่องซอฟเพาเวอร์ ซึ่งนกกรงหัวจุกถือเป็นซอฟเพาเวอร์ได้เหมือนกัน เป็นสัตว์เศรษฐกิจที่มีอยู่ในภาคใต้และทั่วประเทศ ซึ่งมีการเลี้ยงการละเล่นซึ่งเป็นเอกลักษณ์อัตลักษณ์ของภาคใต้ เรามีการแข่งขันกีฬาวัวชน ไก่ชน แต่การแข่งขันกีฬานกกรงหัวจุก ผู้เข้าแข่งจะต้องนำนกกรงหัวจุกไปตั้งแต่ช่วงเช้า หากเข้ารอบก็จะต้องรอจนถึงเย็น เพราะมีแข่งขันเป็นยกเป็นยกต่อเนื่องไปซึ่งผมมองว่าเป็นเอกลักษณ์อัตลักษณ์ของคนภาคใต้
รองหัวหนาพรรคประธิปัตย์ กล่าวอีกว่า ตั้งแต่ในอดีตต้องยอมรับว่า คนนครศรีธรรมราชและปักษ์ใต้เมื่อไปนั่งตามร้านน้ำชากาแฟก็จะต้องหิ้วกรงนกกรงหัวจุกไปแขวนด้วยและนั่งฟังเสียงว่านกตัวไหนร้องดีหรือไม่ดีถือเป็นการฝึกซ้อมการร้องของนกกรงหัวจุกไปในตัวด้วย มันเป็นวิถีชีวิตของคนใต้ จนมีการแต่งเพลง นกกรงหัวจุก ที่ว่า”ริก ไม่ริก ไม่ดุกไม่ดิกไม่ริกสักยก”…
“พวกกับผมที่เป็น สส.ถือว่าเป็นตัวแทนของพี่น้องประชาชน และวันนี้พรรคประชาธิปัตย์เรามีโอกาส เข้าร่วมรัฐบาลและเฉลิมชัย ศรีอ่อนหัวหน้าพรรคดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม การขับเคลื่อนเพื่อติดตามแก้ปัญหาและการเสนอเพื่อปลดล็อคข้อกฎหมายนกกรงหัวจุกจึงทำได้ง่ายขึ้น ขอกราบเรียนว่า สส.พรรคประชาธิปัตย์ ในภาคใต้ทุกคน ไม่ได้นิ่งนอนใจในเรื่องนี้ โดยล่าสุดตนได้สอบถามทางอธิบดี ฯ ว่าใช้เวลาในการปลดล็อคข้อกฎหมายกี่วันก็ได้รับคำตอบว่า เมื่อรัฐมนตรีแต่งตั้งผู้ทรงคุณวุฒิซึ่งเป็นคณะกรรมการในการพิจารณาเรื่องนี้เสร็จ ก็ใช้ระยะเวลา 2-3 เดือนเท่านั้นซึ่งถือว่าการดำเนินการเป็นไปในทิศทางที่ดี เพราะภาคการเมืองและภาคและราชการต่างให้ความสำคัญกับการแก้ไขปัญหาให้กับประชาชน
นายชัยชนะ เดชเดโช กล่าวต่อไปว่า หากไม่มีการแก้ไขปัญหาเพื่อปลดล็อคกฎหมายนกกรงหัวจุกเท่ากับว่าทุกคน ที่เลี้ยงนกกรงหัวจุกหิ้วกรงนกกรงหัวจุกไปตามร้านน้ำชากาแฟต่าง ๆ ก็จะต้องมีความผิดกันไปหมดและจะต้องถูก จับกุมทั้งหมด ปัญหามันจะเกิดขึ้นตามมามากมาย เพราะฉะนั้นเราจะไปฝืนวิถีการดำรงชีวิตวิถีความเป็นอยู่ของชาวบ้านของประชาชนไม่ได้ ในทุกวันนี้นกกรงหัวจุกมีเลี้ยงเกือบทุกบ้าน ยกตัวอย่างในภาคใต้หากมีบ้านเรือนพี่น้องประชาชนรวม 10 ล้านหลังอย่างน้อย 5 ล้านหลังจะต้องมีการเลี้ยงนกกรงหัวจุก ซึ่งตนมองว่าการออกกฎหมายคุ้มครอง นกกรงหัวจุกก่อนหน้านี้มันมีที่มาที่ไปเพราะ เพราะนกกรงหัวจุก ที่มีอยู่ในธรรมชาติ หากถูกจับมาเลี้ยง จะทำให้นกกรงหัวจุกลดน้อยลงเรื่อย ๆ และสูญพันธุ์ได้ แต่ในปัจจุบันมีการพัฒนามีวิวัฒนาการในการที่ชาวบ้านสามารถนำมาผสมพันธุ์เองได้ และยังสามารถขยายสายพันธุ์นกกรงหัวจุกได้ และไม่ได้มีนกกรงหัวจุกสีตามธรรมชาติเดิม ๆเพียงอย่างเดียวแล้ว แต่สามารถผสมพันธุ์ขยายพันธุ์ปรับปรุงสายพันธุ์ เป็นนกสีโอวัลติน นกเผือก นกกรงหัวจุกบางตัวมีมูลค่าสูงตัวละนับแสนบาท และตนทราบว่านกกรงหัวจุกตัวละล้านก็มี

ข่าวที่น่าสนใจ

“ดังนั้นสัตว์เลี้ยงเหล่านี้ไม่ว่าจะเป็นนกกรงหัวจุกวัวชนคนที่เขาควักเงินซื้อ เขาซื้อมาด้วยความรักด้วยความชื่นชอบ ซึ่งการผสมพันธุ์ขยายพันธุ์และปรับปรุงสายพันธุ์ ทำให้ราคานกกรงหัวจุกสูงขึ้นเช่นนกประเภทนี้ มีจำนวน 4-5 ตัว เท่านั้นในโลก ยกตัวอย่างเรื่องฮิปโปแคระ”น้องหมูเด้ง” ซึ่งในวันนี้โด่งดังไปทั่วทั้งโลก และในขณะนี้ทางรัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมประกาศให้ชม ”น้องหมูเด้ง” ฟรีโดยไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายใด ๆ ดังนั้นต่อไปหากเราสามารถผสมพันธุ์ ปรับปรุงสายพันธุ์นกกรงหัวจุก ที่วันนี้กำหนดให้เป็นสีโอวัลตินได้ เป็นนกเผือกได้ และถ้าต่อไปเราทำให้มีจุกเป็นสีทอง ซึ่งต่อไปเราจะต้องคุยกับกรมอุทยาน ฝ่ายวิชาการมหาวิทยาลัยต่าง ๆ เพื่อร่วมกันพิจารณาในการ ขยายพันธุ์ปรับปรุงสายพันธุ์นกกรงหัวจุก หรือสัตว์อื่น ๆ เพื่อให้นกกรงหัวจุกหรือสัตว์อื่น ๆ มีคุณสมบัติหรือลักษณะที่เป็น เอกลักษณ์อัตลักษณ์โดดเด่นหนึ่งเดียวในโลก ผมเชื่อว่าเราสามารถทำได้ดูอย่างเช่นการพัฒนาปรับปรุงสายพันธุ์ปลาคาร์ฟในปัจจุบันสามารถทำให้มีสีในลักษณะต่าง ๆ สดสวยสวยงามเป็นที่ต้องการของตลาดเพิ่มมากขึ้น ซึ่งปลาคาร์ฟบางตัวมีราคาตัวละเป็นแสน ผมยืนยันว่าคนเลี้ยงนกกรงหัวจุกเพราะเขารักเขาชอบและ “บางคนอาจจะรักนกกรงหัวจุกมากกว่าภรรยาที่บ้านเสียอีกก็มี” ผมเองก็ชอบและอยากจะเลี้ยงเหมือนกัน แต่ผมรู้ดีว่าหากผมเลี้ยงนำมาแขวนไว้ที่บ้านไม่เกิน 7 วันท้ายที่สุดก็จะต้องถูกขอแล้วผมก็จะต้องให้เพราะขัดไม่ได้ เพราะฉะนั้นเรื่องการปลดล็อคนกกรงหัวจุกขอให้ชาวนกกรงหัวจุกสบายใจได้เป็นไปในทิศทางที่ดีแน่นอน ในขณะที่แกนนำคนรักนกกรงหัวจุกคนหนึ่งกล่าวยืนยันว่า ผมว่าทุกวันนี้หัวใจของผม ท่ามกลางเสียงหัวเราะของ กลุ่มคนรักนกกรงหัวจุกอย่างสนุกสนานครื้นเครงก่อนพากันเดินทางกลับ อย่างอารมณ์ดี

ไพฑูรย์ อินทศิลา/ นครศรีธรรมราช
13 ต.ค.2567

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ข่าวล่าสุด

“แพทองธาร” สวมชุดผ้าไทยสีม่วง เข้าสักการะ 8 สิ่งศักดิ์สิทธิ์กระทรวงวัฒนธรรม ลั่นพลังล้น พร้อมทำงาน ดันซอฟพาวเวอร์
“ชาญชัย” มั่นใจศาลฎีกาฯ เรียกดูแน่ ใบเสร็จค่ารักษา "ทักษิณ" ถึงวันนี้ยังไม่รู้ผ่าตัดอะไร
เปิดประตู ! ด่านบ้านหาดเล็ก รับผู้ป่วยเข้ารับการรักษาฉุกเฉิน
"ดร.เอ้ สุชัชวีร์ " แถลงการณ์ ยันลาออกปชป. ลั่นไม่ได้ขัดแย้ง แต่ไปเพราะอุดมการณ์
"ฮุน มาเนต" อวยสุด ไม่มีพรรคการเมืองแทนที่ CPP ได้ เชื่อชาวกัมพูชา ยังต้องการ ฮุน เซน เป็นรากฐานมั่นคง
"อดีตผู้พิพากษาอาวุโส” ศาลฏีกา ขยายความ เหตุพยานกลุ่มแพทย์พยาบาล รักษา "ทักษิณ" โดนเรียกไต่สวน วันนี้
"อุตุฯ" เตือน 41 จังหวัด รับมือฝนตกหนักถึงหนักมาก กทม.ก็ไม่รอด
ทีมกรมที่ดินพา "น้อง AI-Din" คว้ารางวัลชนะเลิศสูงสุดในโครงการ Tech for Gov: NextGen GovAI Training Program
"บิ๊กโจ๊ก" ยื่นเรื่อง ขอให้ประธานศาลปกครองสูงสุด ตรวจสอบตุลาการเจ้าของสำนวน
(50 ปีสัมพันธ์ไทย-จีน) บานกระจกนับหมื่นแปลงแสงอาทิตย์เป็นไฟฟ้าในซินเจียง

ดู LIVE รายการ

X

เราใช้ คุ้กกี้ เพื่อให้ทุกคนได้ประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น