“ตู่-ป้อม” ลงพื้นที่วัดพลัง สะท้อนเสถียรภาพรัฐบาลง่อนแง่น

ประวิตรไม่ควรไป ธรรมนัสไม่ควรจัด มีแต่จะร้าวไปหน้า เป้าหมายยังไปต่อ ยังมีภารกิจใหญ่หลวงรอให้ลุงตู่จัดการอีกมาก ทั้งเป็นเจ้าภาพเอเปค 2022 กระทบไหล่ "ไบเดน-สีจิ้นผิง-ปูติน" ประชุมผู้นำ 21 ประเทศ พ.ย.2565 ขณะที่เร็วๆนี้ก็ต้องวางแผนจัดคนลงเลือกตั้งท้องถิ่น สู้ศึกอบต.28 พ.ย. ต่อด้วยพัทยา ผู้ว่าฯกทม. ปล่อยไหลบัตร 2 ใบ แก้กฎหมายลูกอีก 6 เดือน แต่ก็มีไพ่เด็ดพร้อมยุบสภา หากพี่ป้อมงอแงธรรมนัสกวนใจหรือเกิดอุบัติเหตุทางการเมือง

กรณีการลงพื้นที่ 2 จังหวัดของ 2 คีย์แมทนคนสำคัญของรัฐบาล ประกอบด้วย “บิ๊กตู่” พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯและรมว.กลาโหม เพื่อติดตามสถานการณ์น้ำ การบริหารจัดการน้ำและแผนแก้ไขปัญหาน้ำท่วมลุ่มน้ำเพชรบุรี และเตรียมความพร้อมการเปิดประเทศเพื่อการท่องเที่ยว (Sandbox) จ.เพชรบุรี ขณะที่ “บิ๊กป้อม” พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯ ในฐานะหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ ลงพื้นที่โครงการส่งน้ำและบำรุงรักษาบางบาล อ.พระนครศรีอยุธยา จ.พระนครศรีอยุธยา แน่นอนว่าทั้งพล.อ.ประยุทธ์และพล.อ.ประวิตรปฏิเสธว่าไม่ได้เกาเหลาไม่ได้วัดพลังกันแต่อย่างใด แต่การลงพื้นที่วันเดียวกันเวลาใกล้เคียงกัน หนำซ้ำยังมีการระดมส.ส.ไปให้กำลังใจทั้งคู่เหมือนกัน ยังไงก็ต้องถูกมองว่าไม่ปกติ เหมือนที่สื่อทุกสำนักหนังสือพิม์ทุกแขนงพาดหัวตัวไม้ 2 ป.พี่น้องบูรพาพยัคฆ์ลงพื้นที่วัดพลังกันเห็นๆ

คนที่ออกตัวเรื่องนี้ชัดพูดแก้เกี้ยวเรื่องนี้ด้วยตัวเองก็คือพล.อ.ประวิตรที่ให้สัมภาษณ์เปิดใจสื่อเรื่องการลงพื้นที่ว่าไม่ได้วัดพลังกัน แต่ที่ไม่ไปกับพล.อ.ประยุทธ์เพราะตนเดินช้าก้าวไม่ทันนายกฯ ก็เลยขอฉีกไปตรวจน้ำท่วมพื้นที่อื่น และทำให้ได้เนื้องานมากกว่าไปพื้่นที่เดียวกันเสียอีก แก้ต่างไปขุ่นๆแก้ตัวไปดื้อๆ แต่คอการเมืองคนตามเรื่องนี้มาตลอด อ่านเกมส์ออกมองทะลุขบเหลี่ยมปีนเกลียวกันเห็นๆ ถ้าพี่ป้อมรักน้องตู่จริงเรื่องทำนองแบบนี้ต้องไม่เกิด จะไปกินกุ้งเผาอยุธยาดูน้ำท่วมบางบาลแย่งหน้าสื่อชิงจังหวะขายข่าวตัดหน้าน้องรักกันทำไม อย่าบอกว่าไม่มีอะไรใครเป็นพล.อ.ประยุทธ์ก็ต้องน้อยใจ ไปทำไม? ไปแล้วได้อะไร? สุดท้ายก็ตกเป็นขี้ปากชาวบ้านเขาเปล่าๆ ตอนนี้พวกฝ่านค้านเห็นต่างก็จับตามองว่า 2 ป. ซดเกาเหลามองหน้ากันไม่ติดอยู่แล้ว ไม่เห็นต้องสร้างประเด็นใหม่หาเรื่องให้คนมายุงแยงตะแคงรั่วกันอีกเลย

ถ้าพี่ป้อมรักน้องตู่หวานชื่นจริงเหมือนเดิม ข่าวใหญ่วันนี้ต้องมีแต่เรื่องพล.อ.ประยุทธ์ไปกินผัดไทที่ท่ายางซัดขนมเมืองเพชรอย่างเดียว ต้องไม่มีข่าวพี่ป้อมผู้กองธรรมนัสมาแย่งซีน  รอบนี้พล.อ.ประวิตรไม่ควรไป ร.อ.ธรรมนัสไม่ควรจัด  หากรักกันจริงไม่มีแตกหักสิ่งที่พี่ป้อมต้องทำเมื่อวานนี้ 1.ไม่ลงพื้นที่ไปตัดหน้าน้องเลิฟแย่งซีนกันเอง ถ้าอยากไปตรวจงานจริงๆก็เลื่อนวันออกไปก่อน 2.ต้องไม่มีการเกณฑ์ส.ส.สั่งผู้แทนมาวัดพลังกันอย่างที่เป็นข่าว แถมใส่เสื้อแจ็กเก็ต ตราไก่ปีระกาเอาใจลุงป้อมกันสุดๆ คิดถึงหัวอกลุงตู่กันบ้างไหม นายกฯไม่ใช่พระอิฐพระปูนจะให้ไม่รู้สึกรู้สาอะไรเลยก็คงแปลก  เรื่องแบบนี้คนรักกันปกติเขาไม่ทำกันเขาไม่สร้างเรื่องให้แตกแยกกัน งวดนี้ไม่รู้พล.อ.ประวิตรอยากไปเองหรือมีบ่างช่างยุ หากเป็นไปตามข่าวว่าร.อ.ธรรมนัสสั่งคนโทรไปตามส.ส.ทุกภาค เหนือ อีสาน กลาง ออก ตก ใต้ ให้มาคาราวะลุงป้อม เป็นกำแพงมนุษย์ไม่ให้สะดุดล้มตอนลงพื้นที่ มากันอุ่นหนาฝาคั่งถึง 55 คน เป็นชายหญิงชุดดำเดินห้อมล้อมกันให้ปวดหัว เรื่องแบบนี้ไม่ดีไม่ควรเกิด จะมางัดจะมาหักกันทำไม ฝ่ายพล.อ.ประยุทธ์แม้ลงพื้นที่ตรวจลุ่มน้ำเพชรโดยชอบธรรม แต่ “เสี่ยเฮ้ง” นายสุชาติ ชมกลิ่น จับกัง 1 ก็ไม่ควรให้สัมภาษณ์โหนนายกฯจนเอิกเกริก แผลยังสดหนองยังไหลไม่ควรเปิดศึกเล่นเกมส์เปิดหน้าชนกันทุกยก ทำแบบนี้ไม่ดีทั้งสองฝ่าย พล.อ.ประยุทธ์ก็ช้ำ รัฐบาลก็กระเพื่อม พลังประชารัฐก็ยิ่งแตก

ก๊กที่เขี้ยวที่แหลมคมสุดชั่วโมงนี้ไม่มีใครเกิน ก๊กสามมิตรของ 3 ว. คือ “สุริยะ-สมศักดิ์-อนุชา” ตอนนี้แค่นั่งอยู่บนภูดูเสือกัดกัน ไม่ต้องเจ็บไม่ต้องเปลืองตัวรอดูฉากสุดท้ายว่าฝ่ายไหนจะชนะแล้วค่อยโดดเกาะ ชั่วโมงบินสูงกว่ามันสมองมากกว่าการเมืองเก๋ากว่า เมื่อวานเลยไม่เห็นเงาก๊กสามมิตรไปสวามิภักดิ์เชคชื่อกับใคร เพราะประกาศตัวเป็นเอกเทศน์เป็นรัฐอิสระอยู่แล้ว ถ้าตู่ป้อมไปต่อกันได้ก็ไปกัน แต่ถ้าแตกหักฟันกันยับ ก๊วนสามมิตรก็ยังมีออปชั่นทางการเมืองให้เลือกไปต่อได้อีกมาก ตั้งพรรคใหม่เอง กลับไปคืนดีกับ 4 กุมาร แม้แต่หวนคืนสู่เย้ากลับไปตายรังเดิมซบอกนายทักษิณก็มีความเป็นไปได้หมด อย่าลืมว่าการเมืองไม่มีมิตรแท้ศัตรูถาวร

อย่าคิดว่าพล.อ.ประวิตรกับพล.อ.ประยุทธ์จะหักกันไม่ได้จะแตกกันไม่เป็น รักกันกว่านี้ในอดีตก็แยกทางกันมาเยอะแล้ว เรือแป๊ะมีรูรั่วมีรอยร้าวใหญ่โตขนาดนี้โอกาสแตกมีได้ทุกเมื่อ อย่าคิดว่ายุบสภาไม่มีโอกาสเกิดขึ้น หากบีบพล.อ.ประยุทธ์เข้ามากๆมีปัญหาวุ่นวายกันเยอะๆ ระวังลุงตู่จะแก้เผ็ดยุบสภาเอาดื้อๆ ตัดจบกันง่ายๆ แล้วจะหาว่าตู่ไม่เตือน สอบตกแพ้เลือกตั้งไม่ได้กลับมาสภาตอนนั้นจะคิดถึงบุญคุณของลุงตู่

อย่างไรก็ตามบวกลบคูณหาร เรื่องยุบสภาคงไม่ง่ายและไม่ไวในเร็วๆนี้ อย่าลืมว่ารัฐสภาเพิ่งผ่านความเห็นชอบแก้รัฐธรรมนูญ เลือกตั้งบัตร 2 ใบ ถ้าเอาตามพลังประชารัฐเดินตามสูตรลุงป้อมรอบนี้พล.อ.ประยุทธ์อาจต้องปล่อยไหลไปก่อน แม้หลายคนเป็นห่วงขอให้ใช้แบบเดิมเอาบัตรเดียว เพราะกลัว 2 ใบจะเข้าทางตีนโทนี่เพื่อไทยมาแน่ ครั้นจะไปยื่นศาลรัฐธรรมนูญ ตาม ม.148 เพื่อบล็อคบัตร 2 ใบ เอื้อประโยชน์ให้พรรคใหญ่ ก็ดูจะเป็นการขวางกันเห็นๆเปิดศึกกับพรรคใหญ่แบบเต็มๆ รอบนี้จะไม่ได้มีแค่ส.ส.พลังประชารัฐเท่านั้นที่ไม่ชอบลุงตู่ ผู้แทนพรรคใหญ่อื่นๆก็จะพลอยไม่เอาลุงตู่ไปด้วยไม่ใช่เรื่องที่ควรทำ สู้ไปเสี่ยงวัดดวงกับเพื่อไทยวัดพลังกับโทนี่น่าจะดีกว่า แม้อาจจะต้องเสียวถูกโทนี่เอฟเฟกต์เจอชนะเลือกตั้งถล่มทลายแบบแลนด์สไลด์เหมือนในอดีตแต่ก็ต้องจำทน ถ้าไฟเขียวเลือกบัตร 2 ใบ อย่างน้อยต้องมีอีก 5-6 เดือนในการทำกฎหมายลูก

ยุบสภาถ้าจำเป็นพล.อ.ประยุทธ์เอามาใช้แน่ถ้าเข้าตาจน แต่ตอนนี้ยังไงก็ขอบริหารประเทศนำพารัฐบาลเรือแป๊ะต่อไป ถึงเรือจะรั่วก็ต้องอุดปะผุกันไปก่อน เพราะยังมีภารกิจสำคัญสารพัดเรื่องรออยู่บานเบอะในอนาคต ไล่เรียงตั้งแต่จัดการเลือกตั้งท้องถิ่นอบต.ต้องวางฐานอำนาจ ต่อด้วยเมืองพัทยาหัวใจหลักเศรษฐกิจ ปิดท้ายที่ผู้ว่าฯกทม. สนามเมืองหลวงก็ต้องเก็บให้หมด ถ้าลุงตู่หวังจะอยู่ยาว เบื้องต้นกกต.ปักหมุดเริ่มนับหนึ่งเลือกตั้งอบต.วันที่ 28 พ.ย.นี้ จากนั้นในเดือนธ.ค.ปลายปีนี้ก็เริ่มวาระการเป็นเจ้าภาพจัดการประชุมยักษ์ใหญ่ระดับโลกในเวทีความร่วมมือทางเศรษฐกิจในเอเชียแปซิฟิก (APEC) “เอเปค 2022” วนกลับมาอีกครั้งจากที่เราเคยเป็นเจ้าภาพในปี พ.ศ.2546 ยุคนายทักษิณ โดยจะมีประชุมเล็กใหญ่รวมกันตลอดทั้งปี 15 การประชุม ตั้งแต่ธ.ค.2564-พ.ย.2565 โดยระดับเจ้าหน้าที่จะเริ่มในปลายปีนี้ ก่อนไปถึงระดับรัฐมนตรี และระดับผู้นำประเทศ ในเดือนพ.ย. พ.ศ.2565 ที่ตอนนั้นระดับผู้นำโลก 21 ประเทศหรือตัวแทนจะมาเยือนไทยกันหมด พล.อ.ประยุทธ์อาจมีโอกาสชักภาพคู่กับนายโจ ไบเดน ผู้นำหมายเลข 1 ของโลก ยืนเคียงข้างกับนายสีจิ้นผิง ประธานาธิบดีจีน เซลฟี่กับนายวลาดิเมียร์ ปูติน ผู้นำรัสเซีย ฯลฯ ประกาศศักดาไทยไม่น้อยหน้าใครในเวทีโลก

ที่สำคัญพล.อ.ประยุทธ์จะขออยู่ใช้เงินบริหารงบประมาณก้อนโตเพิ่มบารมีทางการเมืองสะสมความนิยมในตัวผ่านนโยบายไปอีกระยะ หลังจากที่ล่าสุด ครม.เพิ่งมีมติสดๆร้อนๆ เมื่อ 21 ก.ย.64 ปรับเพดานหนี้สาธารณะจากเดิม 60 % เป็น 70% เพื่อเปิดช่องให้รัฐบาลมีโอกาสออกฎหมายกู้เงินสำหรับรับมือวิกฤติโควิด-19 และกระตุ้นเศรษฐกิจเพิ่มเติมได้อีกประมาณ 1 ล้านล้านบาท ยังไม่นับร่วมเงินกู้ 5 แสนล้านบาทก่อนหน้านี้ ที่ยังเหลืออีก 4.2 แสนล้านบาทอีกเป็นกระบุง จะรีบยุบรีบตัดจบในช่วงนี้ไปทำไมเพราะมีโอกาสสะสมแต้มต่อทางการเมืองได้อีกหลายยก แม้ตอนนี้รัฐบาลจะมีเสถียรภาพง่อนแง่น ลุงป้อมงอแงธรรมนัสกวนใจ แต่ยังไงเป้าหมายใหญ่ก็ต้องเดินไปต่อ อย่างไรเสียถ้าพี่ป้อมเปรี้ยวธรรมนัสแหกคอกหนักข้ออีก ก็พร้อมยุบสภาวงแตกแยกทางกันได้ทุกเวลา  เพราะคนอย่างพล.อ.ประยุทธ์ไม่เคยมีทางตัน
/////////////////////

ข่าวที่น่าสนใจ

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ข่าวล่าสุด

คุณแนนนี่ นำทีมชมรมโฮปฯ เข้าเยี่ยม ป้าจุ๋ม พร้อมเตรียมซ่อมสะพานทางเข้าบ้านให้ใหม่
ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิทำการฝึกซ้อมแผนความต่อเนื่องกรณีแผ่นดินไหว
รองแม่ทัพภาคที่ 2 เดินทางเป็นวิทยากร บรรยายเรื่อง “นักรบพบ รด. เล่าสู่กันฟัง“ เรื่องจริงจากชายแดน ในงานปฐมนิเทศนักศึกษาวิชาการทหารใหม่
ยกทัพเสริมเกาะป้องกันการเจ็บป่วย ข้าราชการ ประชาชน
มหกรรมเด็กและเยาวชนจังหวัดชลบุรี เปิดพื้นที่สร้างสรรค์ร่วมแบ่งปันกิจกรรมสร้างสุข
รองผู้ว่าราชการจังหวัดฉะเชิงเทรา เป็นประธานในพิธีเจริญพระพุทธมนต์ ถวายพระพรชัยมงคล แด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และ พระบรมวงศานุวงศ์ ประจำปี พ.ศ. 2568

ดู LIVE รายการ

เราใช้ คุ้กกี้ เพื่อให้ทุกคนได้ประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น​