ตามรอย “ลิซ่า แบล็กพิงก์” ยอดขายลูกชิ้นยืนกิน เมืองบุรีรัมย์ พุ่งวันละ 1 ล้าน!

กระแสตามรอยลูกชิ้นยืนกินของลิซ่า ยังมีต่อเนื่องจากการจัดงาน 7 วัน มียอดขายพุ่งวันละกว่า 1 ล้านบาท ยังผลิตไม่ทัน เพราะมียอดสั่งข้ามประเทศ เตรียมต่อยอดธุรกิจ ทั้งแฟนไชน์ และการควบคุมคุณภาพ

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า บรรยากาศบริเวณบนสถานีรถไฟ ซึ่งเป็นจุดที่จำหน่ายลูกชิ้นยืนกิน สัญลักษณ์ของชาวบุรีรัมย์ ซึ่งมีมานานกว่า 40 ปี ยังคึกคักอย่างต่อเนื่อง หลังจาก ลิซ่า BlackPink ซึ่งมีบ้านเกิดอยู่ที่บุรีรัมย์ และเป็นคนเปิดประเด็นลูกชิ้นยืนกินขึ้นระหว่างการให้สัมภาษณ์สื่อ ว่าอยากกินลูกชิ้นน้ำจิ้มพริกเผาครั้งเป็นเด็ก กระทั่งมีการย่นเวลาการจัดงานเทศกาลลูกชิ้นยืนกินครั้งที่ 4 ขึ้นในวันที่ 17 – 23 ก.ย. โดยแต่ละวันจะมีนักท่องเที่ยวจากหลายจังหวัดทุกภาคของประเทศเดินทางมาอย่างต่อเนื่อง

ขณะที่ภาคเอกชนหลายบริษัทยังมาให้การสนับสนุนงานลูกชิ้นยืนกินให้สมบูรณ์ขึ้น เนื่องจากผู้จัดงานไม่อนุญาตให้ยืนกินภายในงาน จะต้องซื้อกลับอย่างเดียว ตัวแทนจำหน่าย ถ้วยเฟสท์ ได้นำผลิตภัณฑ์ มาแจกให้แม่ค้าลูกชิ้นฯ เพื่อให้นักท่องเที่ยวได้สัมผัสการยืนกิน ด้วยการแบ่งใส่ถ้วย ไปยืนกินอยู่นอกสถานที่จัดงาน เพื่อป้องกันการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 อีกด้วย

น.ส.รัตภชา ธีรภัทรกิจ นายกสมาคมธุรกิจท่องเที่ยวจังหวัดบุรีรัมย์ กล่าวว่า ตอนนี้จะสิ้นสุดงานเทศกาลลูกชิ้นยืนกินแล้ว แต่นักท่องเที่ยว ยังเดินทางมาชมและซื้อลูกชิ้นกลับไปบ้านเป็นจำนวนมาก จากแม่ค้าเคยชายได้ในช่วงโควิด-19 ระบาด เพียง 30 – 40 กก. ตั้งแต่กระแสลิซ่าเข้ามาจนถึงวันนี้ มียอดขายแต่ละรายทะลุ 100,000 บาทต่อวัน เฉพาะลานลูกชิ้นยืนกิน มียอดขายวันละกว่า 1 ล้านบาท ไม่รวมแม่ค้าลูกชิ้นยืนกินที่อยู่ตัวเทศบาลเมือง และต่างอำเภออีกกว่า 200 – 300 เจ้า คาดว่าจะมีเงินสะพัดเฉพาะงานเทศกาลลูกชิ้นยืนกินปีนี้ ไม่น้อยกว่า 40 ล้านบาท

ด้าน นายบดินทร์ เรืองสุขศรีวงศ์ ประธานสภาอุสาหกรรมท่องเที่ยวจังหวัดบุรีรัมย์ กล่าวว่า หลังจากมีปรากฏการกระแสของลิซ่า เกิดขึ้น ตอนนี้ออเดอร์ยอดขายเรียกได้ว่าถล่มทลาย ขายกันไม่ทัน สิ่งที่เราได้คุยกับสภาอุสาหกรรม, สมาคม, การท่องเที่ยวและการกีฬาจังหวัด ถึงการรักษาคุณภาพ หรือพัฒนาต่อยอดให้ดียิ่งขึ้นอย่างไร ใครมีความสามารถทำแฟนไชน์ ใครมีความมารถที่ขยายไปขายที่กรุงเทพฯ เราก็จะสนับสนุน รวมถึงการขยายการปักหมุดสัญลักษณ์ของลูกชิ้นยืนกิน ให้ไปอยู่ในหลายพื้นที่ของประเทศไทย หรือของโลก ถ้าเป็นไปได้ โดยจะมีการไปให้ความรู้ด้านการค้าและการตลาด ต่อไป และเชื่อว่าเป็นจุดเริ่มต้นที่ดีของการท่องเที่ยว ตั้งแต่เราเผชิญกับการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ในช่วงที่ผ่านมา

 

ข่าวที่น่าสนใจ

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ข่าวล่าสุด

“ศุภมาส” นำอว. ร่วมสตม. คุมเข้มมหาวิทยาลัยรับนักศึกษาต่างชาติ เตรียมมาตรการสแกนหลักสูตร Non-Degree สุ่มตรวจไม่ปล่อยเกิดปัญหา
หนุ่มตกงานขับรถพุ่งชนนักเรียนประถมที่ญี่ปุ่น
ไรอันแอร์จะซื้อเครื่องบินจีนถ้าภาษีทรัมป์ดันโบอิ้งแพงขึ้น
"ดร.หนุ่ม" วัย 38 ปี ร้องถูกแก๊งคอลฯ บังคับคุยโทรศัพท์ 7 วัน 7 คืน สูญเงิน 8.5 ล้าน
"รัฐบาล" ย้ำอย่าตื่นตระหนก 2 พ.ค 68 ทดสอบส่งข้อความแจ้งเตือนภัย 5 พื้นที่
“ทนายทักษิณ” มั่นใจชี้แจงได้ หลังศาลตั้งองค์ไต่สวนปมชั้น 14 ยํ้ายึดหลักข้อเท็จจริง
“ภูมิธรรม” เผยผลหารือ GBC ไทย-กัมพูชา เลี่ยงปะทะปมปราสาทตาเมือนธม ให้กำลัง 2 ฝ่ายถอยกลับจุดเดิม หาข้อตกลงร่วมกัน
ระทึกจริง "อดีตสว.สมชาย" กาง ป.วิอาญา 246 ชี้ชัดอำนาจศาล วินิจฉัยเหตุ สั่งทุเลาจำคุก "ราชทัณฑ์" ให้ "ทักษิณ" นอนชั้น 14 เสี่ยงทำผิด
สธ.สั่งเด้งทันที "ผอ.รพ." เมาแล้วขับชน 2 ช่างภาพ เจ็บสาหัส ยันพร้อมดูแลให้ความเป็นธรรมเต็มที่
สหรัฐขอเจรจาภาษีกับจีนแล้ว

ดู LIVE รายการ

X

เราใช้ คุ้กกี้ เพื่อให้ทุกคนได้ประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น