ล่าสุดวันนี้ ( 2 ก.ย.) ทีมข่าว TOP NEWS ได้ลงพื้นที่สถานีรถไฟฟ้าหมอชิต เพื่อสอบถามความคิดเห็นของประชาชนผู้ใช้บริการรถไฟฟ้า ถึงการให้บริการ และภาระหนี้ค่าจ้างเดินรถส่วนต่อขยายที่ 1 และส่วนขยายที่ 2 รวมวงเงินกว่า 4 หมื่นล้านบาท จากการที่กทม.ค้างชำระเงินกับบริษัทเอกชน และ ยังมีแนวโน้มที่จะยืดการจ่ายหนี้ออกไป แม้ว่าศาลปกครองสูงสุดจะมีคำสั่งออกมาแล้ว จนเกิดเป็นประเด็นข้อกังวลว่าการปฏิบัติหน้าที่ของผู้บริหารกทม. อาจทำให้เอกชนไม่สามารถแบกรับภาระหนี้ได้ และส่งผลต้องหยุดให้บริการเดินรถไฟฟ้า โดยเฉพาะในจุดส่วนต่อขยาย

โดยนายสมบูรณ์ ทวนทอง ประชาชนผู้ใช้บริการรถไฟฟ้า ระบุว่า “ได้ใช้บริการรถไฟฟ้าสายสีเขียวเป็นประจำ ซึ่งในเรื่องของค่าจ้างเดินรถที่กทม.ค้างเอกชน เมื่อศาลมีคำสั่งก็ควรที่จะต้องจ่ายให้เอกชน เพื่อเอกชนจะได้มีสภาพคล่องในการทำธุรกิจต่อไป และยอมรับว่าหากเอกชนหยุดให้บริการเดินรถ ก็จะส่งผลกระทบต่อการเดินทางอย่างมาก เพราะปัจจุบันใช้บริการรถไฟฟ้าเป็นหลัก เนื่องจากเดินทางสะดวกรวดเร็ว”

ทางด้านนางสาว อรกัญญา ปภาวีร์ ให้ความเห็นว่า หากเอกชนหยุดให้บริการหรือชะลอการเดินรถไฟฟ้า โดยสาเหตุมาจากการที่กทม.ยืดเวลาจ่ายหนี้ ทำให้เอกชนขาดสภาพคล่อง จะส่งกระทบกับการเดินทางของประชาชนผู้ใช้บริการจำนวนมาก เพราะหากจะเปลี่ยนการเดินทางไปใช้บริการรถประจำทาง ก็จะต้องใช้ระยะเวลาที่มากกว่าจากสภาพการจราจรที่แออัด ดังนั้นเมื่อศาลปดครองสูงสุดมีคำสั่งออกมาให้จ่าย กทม.ก็ควรจ่ายเพื่อไม่ให้ประชาชนเดือนร้อน พร้อมขอบคุณเอกชนที่ยังให้บริการจนถึงทุกวันนี้”