เมื่อเวลา 08.00 น.วันที่ 2 ก.ย..67 ได้รับแจ้งจากนายไพรัตน์ เชื้อบุญมี ประธานกกลุ่ม วิสาหกิจชุมชนท่องเที่ยวภูค้อ-ภูค้อน้อย ต.นาแห้ว อ.นาแห้ว จ.เลย ว่า จุดชมวิวทะเลหมอกและพระอาทิตย์ขึ้นช่วงปลายฝน-ต้นหนาวที่ อ.นาแห้ว จ.เลย สามารถมองเห็นสายหมอกลอยคลอเคลียภูเขาที่เรียงรายสลับซับซ้อน เหนือผืนป่าเขียวและพืชไร่ของชาวบ้าน ยิ่งช่วงที่แสงอาทิตย์ยามเช้าส่องกระทบลงบนสายหมอกและผืนป่าเขียวบนยอดเขา เป็นภาพที่อบอุ่นและงดงาม ในช่วงนี้
ข่าวที่น่าสนใจ
ภูค้อ เป็นจุดชมทะเลหมอก(หมอกมีชีวิต) คือ เมื่อความชื้นจากแหล่งน้ำ ลำห้วย แม่น้ำเหือง พัดเข้ามา ประกอบกับความชื้นจากป่าธรรมชาติกว่า 85 % เป็นป่า-ภูเขา ยังความชุ่มชื้นสมบูรณ์ด้วยแล้ว จึงเกิดกมอกที่ เรียกกันว่า”หมอกมีชีวิต” ” นั่นคือ หมอกขาวโพลนก่อตัวจากหลังฝนตก ไหลไปตามหุบเขา ภูเขาที่สลับซับซ้อน มองวิวทิวเขามองหมู่บ้านที่ซ่อนอยู่หลังหุบเขา ชมแปลงไม้ดอกบานสะพรั่ง ป่าเขียวขจี ชมแสงสวยยามเย็นก่อนอาทิตย์ตก เงียบหน้าฝน ในช่วงฟ้าหลังฝนและช่วงตอนเช้า ๆ รวมถึงความสวยงามของรุ้งกินน้ำ อีกด้วย
ส่วนการเดินทางขึ้นชมทะเลหมอกและวิวสุดสวยตระการตาที่ภูค้อ นั้น ด้วยรถถึงแบบไม่ต้องเดิน โดยใช้โฟวิล หรือการบริการรถอีแต๊กของกลุ่มท่องเที่ยวทะเลหมอกภูค้อ ใช้เวลาประมาณครึ่งชั่วโมงก็ถึงจุดชมวิว นอกจากนี้ยังให้บริการพื้นที่กางเต็นท์สำหรับสายแคมป์ปิ้ง ก่อกองไฟ จี่ข้าวเหนียวทาไขสุดหอม อร่อย ชา กาแฟ พร้อมสรรพ รับและสูดอากาศที่บริสุทธิ์ สามารถใช้บริการรถอีแต๊นนำเที่ยวเพื่อไปยังจุดชมวิว สามารถเดินทางมาในช่วงเช้า สามารถพักยังที่พักในอำเภอนาแห้วแล้วเดินทางมาที่ภูค้อในช่วงเช้า โดยเวลานัดหมายประมาณตี 5 ด้วยจุดบริการ 2 จุดด้วยกัน จุดชมวิวสูงสุด สามารถมองเห็นวิวได้แบบกว้างไกล จะคิดค่าบริการไปกลับเหมาคันละ 500 บาท นั่งได้ไม่เกิน 5 คน และจุดที่สอง ค่าบริการไป-กลับคันละ 800 บาท นั่งได้ไม่เกิน 5 คน คือ รถอีแต๋นที่เรานั่งไปที่จุดชมวิว เส้นทางมีความออฟโรด เป็นทางดินที่มีพืชไร่และป่าปกคลุมทั้งสองข้างทาง ใช้เวลาประมาณครึ่งชั่วโมงก็มาถึงจุดชมวิวภูค้อ บริเวณจุดชมวิวมีการจัดทำลานระเบียงสงจุด รวมทั้งชิงช้า โต๊ะเก้าอี้นั่ง จากลานระเบียงชมวิว สามารถมองเห็นทั้งสายหมอกและภูเขาได้แบบกว้างไกล.
ข่าว/ภาพ บุญชู ศรีไตรภพ จ.เลย
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
