No data was found

บช.น.ยันระเบิดในม็อบเจ็บ 4 พกมาเอง! รวบ 16 รายป่วนนางเลิ้ง ตั้ง 5 ข้อหา ยึดอาวุธเพียบ!

กดติดตาม TOP NEWS

บช.น.สรุปม็อบ 19 กันยายน จับตัวผู้กระทำผิด 16 ราย เป็นเยาวชน 4 ยึดของกลางที่ใช้เป็นอาวุธหลายรายการ ทรัพย์สินทางราชการ รถ พฐ.ถูกทุบ กล้องวงจรปิด ป้อมจราจร ถูกเผาเสียหาย ส่วนเหตุระเบิดฝั่งตรงข้ามศูนย์สิริกิติ์ บาดเจ็บ 4 เป็นการพกระเบิดมาเอง

วันที่ 20 ก.ย. 64 พล.ต.ต.ปิยะ ต๊ะวิชัย รอง ผบช.น. โฆษก บช.น. เปิดเผยว่า กรณีที่มีการนัดหมายชุมนุมผ่านช่องทางออนไลน์ ในพื้นที่กรุงเทพมหานคร ในวันที่ 20 ก.ย. 2564 จะมีการรวมตัวกันของกลุ่มทะลุแก๊ส ยังไม่ทราบนัดหมายเวลา ที่สามเหลี่ยมดินแดง อาจจะมีการก่อเหตุความวุ่นวาย บช.น.ขอเตือนว่ากรุงเทพมหานครเป็นพื้นที่ที่ประกาศเป็นพื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวด การชุมนุมหรือรวมกลุ่มทำกิจกรรมที่มีลักษณะเสี่ยงต่อการแพร่โรค จะเป็นความผิดตาม พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ, ประกาศหัวหน้าผู้รับผิดชอบในการแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉินฯ ฉบับที่ 10 ลง 31 ส.ค. 64 และ พ.ร.บ.โรคติดต่อฯ อีกส่วนหนึ่ง โดยทาง บช.น.ได้จัดเตรียมกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจเพื่อดูแลความสงบเรียบร้อยของบ้านเมืองไว้แล้ว

พล.ต.ต.ปิยะ กล่าวต่อว่า จากการชุมนุมในวันที่ 19 ก.ย.ที่ผ่านมา มีการรวมตัวของ 2 กลุ่มหลัก คือ กลุ่มนายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ และนายสมบัติ บุญงามอนงค์ จัดกิจกรรม CarMob เวลา 14.00 น. เริ่มรวมตัวที่บริเวณแยกอโศก จากนั้นเวลา 16.00 น. เคลื่อนขบวนออกจากแยกอโศก เวลา 17.00 น. ขบวนถึงอนุสาวรีย์ประชาธิปไตย มีการตั้งเวทีปราศรัย และนำผ้าสีดำมาคลุม ผูกป้ายที่อนุสาวรีย์ประชาธิปไตย ต่อมาเวลา 18.05 น. ประกาศยุติกิจกรรมชุมนุม แต่ในระหว่างนั้นเวลา 15.15 น. ได้มีเสียงระเบิดเกิดขึ้น 2 ครั้ง ที่บริเวณฝั่งตรงข้ามประตูศูนย์สิริกิติ์ฯ ถ.รัชดาภิเษก เป็นเหตุให้มีผู้บาดเจ็บ 4 ราย หกล้มจากระเบิดที่กลุ่มผู้ชุมนุมดังกล่าวพกมาเอง และทำให้ผู้อื่นที่มาด้วยรับบาดเจ็บ จากการตรวจพบเศษระเบิดในกางเกงของคนเจ็บ เบื้องต้นนำส่งรักษาตัวที่ รพ.เทพธารินทร์ และต่อมาได้ส่งตัวไปที่ รพ.ตำรวจ หากมีการนำวัตถุระเบิดต้องถูกดำเนินคดีตามกฎหมาย

 

 

พล.ต.ต.ปิยะ กล่าวต่อีกดว่า ส่วนกลุ่มต่อมาคือ กลุ่มต่อต้านรัฐบาลเผด็จการ และกลุ่มทะลุแก๊ส นัดหมายเวลา 17.30 น. ที่สามเหลี่ยมดินแดง เนื่องจากมีกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจรักษาความสงบเรียบร้อยบริเวณแยกดินแดง ตั้งแต่เวลา 16.00 น. กลุ่มจึงถอยมารวมที่บริเวณอนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ และต่อมาเวลา 19.00 น. บางส่วนได้ชักชวนกันไปรวมตัวที่แยกนางเลิ้ง มีการรวมตัวก่อความวุ่นวาย ขว้างปาประทัด พลุไฟ ระเบิดต่างๆ ใส่บริเวณเชิงสะพานชมัยฯ เป็นระยะๆ จากนั้นมีการจุดไฟเผาป้อมการจราจรแยกนางเลิ้ง และทุบทำลายป้อมจราจรแยกยมราชเสียหาย ต่อมาเวลา 19.30 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจที่ปฏิบัติหน้าที่รักษาความสงบเรียบร้อยอยู่หน้าทำเนียบรัฐบาล ได้ประกาศเตือนให้กลุ่มผู้ชุมนุมยุติการกระทำเนื่องจากเป็นความผิด และให้ออกจากพื้นที่ดังกล่าว แต่กลุ่มไม่ยอมเชื่อฟังยังคงก่อความวุ่นวายเป็นระยะๆ มีการจุดไฟเผาพระบรมฉายาลักษณ์บนสะพานลอย และเอกสารในรถยนต์ของกองพิสูจน์หลักฐาน บริเวณแยกนางเลิ้ง เป็นเหตุให้มีทรัพย์สินสาธารณประโยชน์ทั้งของทางราชการและเอกชนได้รับความเสียหายจำนวนหลายส่วน

 

เพื่อไม่ให้เหตุการณ์ลุกลามบานปลาย เวลา 19.45 ถึง 22.00 น. เจ้าหน้าที่จึงได้เข้าบังคับใช้กฎหมายเพื่อรักษาความสงบเรียบร้อยของบ้านเมือง ทั้งนี้ได้จับกุมตัวผู้กระทำผิดดังกล่าวจำนวน 16 ราย เป็นเยาวชน 4 ราย พร้อมยึดของกลางเป็นวัสดุทำด้วยท่อลักษณะคล้ายอาวุธปืน, หนังสติ๊ก, ประทัดลูกบอล, ลูกแก้ว และอื่นๆ อีกจำนวนหนึ่ง ส่งพนักงานสอบสวนดำเนินคดีข้อหา มั่วสุมกันตั้งแต่สิบคนขึ้นไปก่อความวุ่นวายในบ้านเมืองฯ (ป.อาญา ม.215), เมื่อเจ้าพนักงานสั่งให้ผู้ที่มั่วสุมเลิกแล้วไม่เลิกฯ (ม.216), ต่อสู้ขัดขวางเจ้าพนักงานซึ่งปฏิบัติการตามหน้าที่ (ม.138), ร่วมกันวางเพลิงเผาทรัพย์ฯ (ม.217) และ ฝ่าฝืน พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ, ออกนอกเคหสถานในเวลาห้าม (21.00-04.00 น. ของวันรุ่งขึ้น) และความผิดอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องเป็นรายๆ ไป ซึ่งกรณีอาวุธปืนของกลางดังกล่าว

 

 

หากผลการตรวจพิสูจน์ยืนยันว่าเป็นอาวุธปืนตาม พ.ร.บ.อาวุธปืนฯ ก็จะดำเนินการแจ้งข้อกล่าวหาดำเนินคดีเพิ่มเติมต่อไป ส่วนการดำเนินคดีกับกลุ่มผู้ชุมนุม ตั้งแต่เดือน ก.ค. 2564 ที่ผ่านมาจนถึงปัจจุบันรวมทั้งสิ้น 219 คดี มีผู้ต้องหาทั้งหมด 797 คน ติดตามจับกุมตัวได้แล้ว 552 คน โดยทาง บช.น.จะดำเนินการสืบสวนรวบรวมพยานหลักฐานทุกชนิด เพื่อติดตามจับกุมผู้กระทำความผิด โดยเฉพาะผู้ที่ใช้ความรุนแรง และก่อให้เกิดความไม่สงบเรียบร้อยในบ้านเมืองมาดำเนินคดีตามกฎหมายทุกราย ซึ่งหากเยาวชนได้กระทำความผิด ผู้ปกครองอาจจะมีความผิดตาม พ.ร.บ.คุ้มครองเด็กฯ ด้วยเช่นกัน

 

 

ส่วนความเสียหายเมื่อวานนี้ (19 ก.ย.) พล.ต.ต.ปิยะ กล่าวว่า เป็นเอกสารทางราชการตรวจสถานที่เกิดเหตุ การทำให้เกิดความเสียหายอาจจะทำให้มีผลกระทบกับคดีที่สำคัญ ซึ่งอยู่ระหว่างการตรวจสอบ นอกจากรถ พฐ. ถูกทุบทำลาย ตู้ควบคุมจราจรแยกยมราชถูกทำให้เกิดความเสียหาย และยังมีความเสียหายตู้จราจร 10 แห่ง กล้องวงจรปิดหลายจุด อุโมงค์ระบายน้ำดินแดง ตู้เก็บเงินทางด่วนถูกทุบทำลาย รถได้รับความเสียหาย 50 คัน ส่วนเหตุการทำร้ายตำรวจหน้าร้านศรแดง ยังไม่ได้รับรายงาน ต้องขออนุญาตตรวจสอบ

 

 

สำหรับมาตรการหลังจากนี้ กลุ่มทะลุแก๊สขยายพื้นที่มาแยกนางเลิ้งนั้น บช.น.เตรียมกำลังจากสถานีตำรวจต่างๆ พื้นที่วงใน โดยพื้นที่แยกสามเหลี่ยมดินแดงปรับการบังคับใช้กฎหมายให้มีประสิทธิภาพมากขึ้นทุกวัน ส่วนจะมีการพัฒนารูปแบบในการก่อเหตุความวุ่นวายนั้น เป็นไปได้เนื่องจากมีผู้สนับสนุนอยู่ จึงต้องหามาตรการจับกุมผู้อยู่เบื้องหลังดังกล่าว ส่วนจะเป็นกลุ่มการเมืองอยู่เบื้องหลังหรือไม่นั้น ให้ประชาชนเป็นผู้ตัดสิน

 

 

ข่าวที่น่าสนใจ

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ข่าวล่าสุด

"เกณิกา" เผย "กระทรวงดีอี" ไม่นิ่งเฉย เร่งปราบเว็บพนันออนไลน์-แก๊งคอลเซ็นเตอร์
กระบะฝ่าไฟแดง พุ่งเสยรถจอดติดไฟแดง กลางเมืองศรีราชา พังเสียหาย 4 คันรวด
"ผู้การแต้ม" เตือน "บิ๊กโจ๊ก" ระวังทำผิดกม.เพิ่ม ย้ำรักษาการผบ.ตร. สั่งให้ออกจากราชการ ทำถูกกม.ทุกประการ
วงจรปิดจับชัด ลูกน้อง "บิ๊กโจ๊ก" ปลดป้ายหน้าห้องทำงาน พร้อมขนของออกจากสำนักงาน
ร้อนทะลุ 42 องศาฯ "ควาญช้าง" เฝ้าระวัง อาบน้ำให้วันละ 8 ครั้ง กังวลช้างหงุดหงิด คลั่ง
"สันติสุข" ชี้ทำทีวีไม่ง่าย แบกรับต้นทุน ขอบคุณแฟนข่าว เจ้าของสินค้า นำพา Top News ทำหน้าที่สื่อต่อไป
บุกจับ "แก๊งพระ" ลอบล่าสัตว์ป่าภูเขียว พบหลักฐานแน่น ช็อกหนักมีรองเจ้าคณะจังหวัดร่วมด้วย
โฆษกภูมิใจไทย แจง "บี พุฒิพงษ์" ค้านดิจิทัล วอลเล็ต เป็นเรื่องส่วนตัว เผย 1 ปีแล้วไม่เข้าร่วมกิจกรรมพรรค
ศาลพิพากษา ลงโทษปรับหนักผู้ต้องหาคดีหมูเถื่อนคนละ 8.6 ล้านบาท
อุกอาจ หนุ่ม Messenger ติดพนันออนไลน์ กระชากสร้อยต่อหน้ารถสายตรวจ สุดท้ายไม่รอด

ดู LIVE รายการ

X

เราใช้ คุ้กกี้ เพื่อให้ทุกคนได้ประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น