“อาจารย์อุ๋ย” เตือนปชป.เสี่ยงขัดข้อบังคับพรรค ดันทุรังร่วมรัฐบาลเพื่อไทย

"อาจารย์อุ๋ย" เตือนปชป.เสี่ยงขัดข้อบังคับพรรค ดันทุรังร่วมรัฐบาลเพื่อไทย

อาจารย์อุ๋ย” เตือนปชป.เสี่ยงขัดข้อบังคับพรรค ดันทุรังร่วมรัฐบาลเพื่อไทย

จากกรณีที่พรรคเพื่อไทยได้เทียบเชิญพรรคประชาธิปัตย์อย่างเป็นทางการเพื่อเข้าร่วมรัฐบาล นั้น นายประพฤติ ฉัตรประภาชัย หรืออาจารย์อุ๋ย นักวิชาการด้านกฎหมายและอดีตผู้สมัคร สส. กรุงเทพมหานคร เขตบางกะปิ พรรคประชาธิปัตย์ ได้แสดงความเห็นผ่านเฟซบุ๊กว่า

“จากกรณีที่พรรคเพื่อไทยได้เทียบเชิญพรรคประชาธิปัตย์อย่างเป็นทางการเพื่อเข้าร่วมรัฐบาล สุดท้ายแล้วต้องรอมติจากกรรมการบริหารของพรรคประชาธิปัตย์ ว่าจะตอบรับคำเชิญหรือไม่ ในฐานะนักกฎหมายและสมาชิกพรรค ผมมีประเด็นว่าหากทางกรรมการบริหารมีมติเข้าร่วมรัฐบาลกับพรรคเพื่อไทย น่าจะเป็นมติที่ขัดกับข้อบังคับพรรคประชาธิปัตย์เสียเอง ด้วยเหตุผลดังนี้

อาจารย์อุ๋ย

ข่าวที่น่าสนใจ

1. ข้อบังคับพรรคประชาธิปัตย์ พ.ศ. 2567 หมวด 7 ว่าด้วยมาตรฐานทางจริยธรรมของกรรมการบริหารพรรคและสมาชิก ข้อ 26 กำหนดว่า กรรมการบริหารพรรคและสมาชิกต้องมีอุดมการณ์ในการทํางานด้วยความรับผิดชอบ ซื่อสัตย์สุจริต และเสียสละ โดยยึดถือและปกป้องผลประโยชน์ของประเทศชาติและประชาชนเป็นสําคัญ ไม่วางตนอยู่ภายใต้อิทธิพลทางการเงิน ผลประโยชน์หรือข้อต่อรองใดๆ เพื่อบุคคลหรือองค์กรใด

2. นายกแพทองธารมีประเด็นถูกร้องเรียนจริยธรรมเรื่องที่เคยถือหุ้นอัลไพน์ ธรณีสงฆ์ และเรื่องข้อสอบเอ็นทรานส์

3. คุณทักษิณซึ่งแสดงออกชัดเจนว่าเป็นเจ้าของพรรคเพื่อไทย มีประเด็นเรื่องปกปิดอาการป่วย ไม่ยอมเข้าเรือนจำ แต่งชุดขาวโดยไม่มีสิทธิ์ เป็นผู้ต้องหาคดี 112 และ ถูกร้องเรียนเรื่องการครอบงําพรรคการเมืองซึ่งตนไม่ได้เป็นสมาชิกอันเป็นความผิดตาม พรป. พรรคการเมือง

4. คําวินิจฉัยศาล รธน วินิจฉัยว่า การที่นายกเศรษฐา แต่งตั้งคุณพิชิต ที่ไม่ซื่อสัตย์สุจริตเป็นที่ประจักษ์ ไปเป็นรัฐมนตรี จึงถือว่าคุณเศรษฐาก็เป็นคนที่ “ไม่ซื่อสัตย์สุจริตเป็นที่ประจักษ์” ไปด้วย โดยคำวินิจฉัยนี้ มีผลผูกพันทุกองค์กร

5. ดังนั้น หากกรรมการบริหารของพรรคประชาธิปัตย์ มีมติให้พรรคเข้าร่วมกับรัฐบาลที่นําโดยบุคคลที่มีข้อสงสัยเรื่อง ความซื่อสัตย์สุจริต จะถือว่า กกบห ได้ดําเนินกิจกรรมพรรคด้วยอุดมการณ์ “ซื่อสัตย์สุจริต” ตามข้อ 26 ของข้อบังคับหรือไม่ ?

 

 

6. ข้อบังคับพรรคประชาธิปัตย์ ข้อ 27 วรรคท้าย ยังกำหนดอีกว่า ให้นํามาตรฐานทางจริยธรรมที่ใช้บังคับแก่สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรมาบังคับใช้กับกรรมการบริหารพรรคโดยอนุโลม ซึ่งกำหนดห้ามคบหาสมาคมกับคู่กรณี ผู้ประพฤติผิดกฎหมาย ผู้มีอิทธิพล หรือผู้มีความประพฤติ หรือผู้มีชื่อเสียงในทางเสื่อมเสีย อันอาจกระทบกระเทือนต่อความเชื่อถือศรัทธาของประชาชนในการปฏิบัติหน้าที่ อีกด้วย ดังนั้น การร่วมรัฐบาลที่นำโดยบุคคลซึ่งมีข้อสงสัยเรื่องความซื่อสัตย์สุจริต จะถือว่าขัดกับหลักข้อนี้หรือไม่

ผมจึงขอฝากให้กรรมการบริหารพรรคทุกท่าน นำไปพิจารณาให้ถ้วนถี่ ก่อนมีมติใด ๆ ด้วยความปรารถนาดี

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ข่าวล่าสุด

50 หมู่บ้านคลองสาม ปทุมธานี อ่วม!! ระดับน้ำยังไม่ลดเร่งสูบระบายออกรังสิต
(50 ปีสัมพันธ์ไทย-จีน) ทีมนักบินอวกาศ 'เสินโจว-21' เข้าสู่สถานีอวกาศจีนแล้ว
ผู้ว่าฯเมืองคอน ปิด “ลิกอร์เกมส์” มอบธงเจ้าภาพต่อให้ “ชุมทางทุ่งสงเกมส์”
ม.นเรศวร เป็นเจ้าภาพจัดการประชุมสามัญ ที่ประชุมอธิการบดีแห่งประเทศไทย
อดีตตำรวจมือปราบน้ำมันเถื่อน ร้อง สว.หลังรอความเป็นธรรมมา 26 ปี จากคำพิพากษาศาลฏีกา
สืบสานประเพณีทอดกฐินทางน้ำหนึ่งเดียวในลำลูกกา ปทุมธานี

ดู LIVE รายการ

เราใช้ คุ้กกี้ เพื่อให้ทุกคนได้ประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น​