“พิพัฒน์” ส่งกสร.ถก “กิจการร่วมค้า UJV” เคลียร์จบค้างค่าจ้าง 567 ล้าน

"พิพัฒน์" ส่งกสร.ถก "กิจการร่วมค้า UJV" เคลียร์จบค้างค่าจ้าง 567 ล้าน

พิพัฒน์” ส่งกสร.ถก “กิจการร่วมค้า UJV” เคลียร์จบค้างค่าจ้าง 567 ล้าน

เมื่อวันที่ 30 ก.ค. 67 นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน สั่งการอธิบดีกรมสวัสดิการและคุ้มครอง (กสร.) ลงพื้นที่ จ.ชลบุรี เร่งเจรจากรณีการค้างจ่ายค่าจ้างลูกจ้างในกลุ่มกิจการร่วมค้า UJV ผู้รับเหมาช่วงจาก บมจ.ไทยออยล์ โดยมี นายมนัส โกศล และนายธนัสถา คำมาวงษ์ คณะที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจากพรรคก้าวไกล เข้าร่วมสังเกตการณ์ เผยข่าวดี ผลเจรจาสำเร็จ บมจ. ไทยออยล์ เตรียมนำเงิน 567 ล้านบาท จ่ายให้ลูกจ้างภายในเดือนสิงหาคมนี้

 

นายพิพัฒน์ เปิดเผยว่า จากกรณีที่ลูกจ้างซับคอนแทรกของ บมจ.ไทยออยล์ จ.ชลบุรี ชุมนุมประท้วงเนื่องจากไม่พอใจที่นายจ้างจ่ายค่าจ้างไม่ตรงตามกำหนด ว่า ทันทีที่เกิดเหตุการณ์พนักงานประนอมข้อพิพาทแรงงานของสำนักงานสวัสดิการและคุ้มครองแรงงานจังหวัดชลบุรี ได้ลงพื้นที่เพื่อติดตามสถานการณ์และเจรจากับลูกจ้างนายจ้างตั้งแต่วันที่ 24 กรกฎาคม 2567 ที่ผ่านมา และได้มีลูกจ้างบางส่วนได้มายื่นแบบคำร้อง (คร.7) ณ สำนักงานสวัสดิการและคุ้มครองแรงงานจังหวัดชลบุรี

พิพัฒน์ ส่งกสร.ถก กิจการร่วมค้า UJV

ข่าวที่น่าสนใจ

อย่างไรก็ตาม สถานการณ์ดังกล่าวก็ยังไม่คลี่คลายและยังไม่เป็นที่พอใจของลูกจ้าง ซึ่งยังมีการชุมนุมประท้วงอย่างต่อเนื่องและอาจทวีความรุนแรงเพิ่มขึ้น ดังนั้น วันนี้ผมจึงได้สั่งการให้ อธิบดีกรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงาน พร้อมด้วยผู้บริหารและเจ้าหน้าที่จากส่วนกลางของกรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงาน ลงพื้นที่จังหวัดชลบุรี เพื่อหารือร่วมกับบมจ. ไทยออยล์ และตัวแทนลูกจ้างโดยทันที เพื่อเร่งหาทางออกร่วมกันและหาข้อสรุปให้ได้โดยเร็วที่สุด เพื่อเป็นการคลายความเดือดร้อนของลูกจ้าง

 

ด้าน นางโสภา เกียรตินิรชา อธิบดี กสร. กล่าวต่อไปว่า ทันทีที่ได้รับข้อสั่งการจากรัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน ตนเองพร้อมด้วยผู้บริหารกรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงาน และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง ได้ลงพื้นที่ในทันทีเพื่อหารือร่วมกับ บมจ.ไทยออยล์ และตัวแทนลูกจ้าง และร่วมกันกำหนดแนวทางการช่วยเหลือลูกจ้างในกลุ่มกิจการร่วมค้า UJV ผู้รับเหมาช่วงจาก บมจ.ไทยออยล์

 

ซึ่งจากการเจรจาโดยใช้เวลากว่า 9 ชั่วโมงนั้น ได้ข้อสรุปซึ่งเป็นที่น่าพอใจ โดย บมจ. ไทยออยล์ ยินยอมที่จะนำเงินงวดงานต่อไป (งวดงาน M85) ซึ่ง UJV ตกลงจะวางใบแจ้งหนี้ ตามงวดงานดังกล่าวต่อ บมจ. ไทยออยล์ ภายในวันที่ 20 สิงหาคม 2567 และ UJV ขอให้บมจ. ไทยออยล์ จ่ายเงินมูลค่าประมาณ 567 ล้านบาท ให้นายจ้างตามมาตรา 5 แห่ง พ.ร.บ. คุ้มครองแรงงาน พ.ศ. 2541 เพื่อให้นายจ้างผู้รับเหมาช่วงแต่ละรายนำเงินดังกล่าวไปชำระแก่ลูกจ้างของตน ภายในสิ้นเดือนสิงหาคม 2567 อย่างไรก็ตาม กรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงาน ได้กำชับเจ้าหน้าที่ให้ติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิดเพื่อให้ลูกจ้างได้รับค่าจ้างอย่างครบถ้วนตามที่ตกลงกันไว้

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ข่าวล่าสุด

‘พิชัย’ เผยเริ่มประสาน ‘ผู้แทนการค้าสหรัฐฯ’ ตั้งแต่ปลายปี 67 เตรียมเปิดเจรจาปมภาษี เชิงเทคนิคเร็วที่สุด
วันหยุดสายมูยังแห่ไปเจิมมือที่วัดเขาไม้แดงกันอย่างแน่นขนัดเพราะมาที่เดียวจบครบทุกอย่าง
ตำรวจสหรัฐไล่ล่าคนร้ายบุกยิงสองนักการเมืองดับคาบ้าน
อิหร่านรัวขีปนาวุธถล่มอิสราเอลหลังเตหะรานถูกโจมตี
เนทันยาฮูขู่โจมตีเป้าหมายทุกแห่งของรัฐบาลอิหร่าน
ผู้ว่าพนมเปญเตรียมบัสพร้อมอพยพชาวกัมพูชาที่แนวพรมแดน
"นายกฯ" ยันยึดประโยชน์ชาติแก้ปัญหาไทย-กัมพูชา ย้ำไม่มีแนวคิดผลักดันแรงงานกลับ ถ้าปท.ไหนทำต้องรับผิดชอบเอง
"อดีตบิ๊กข่าวกรอง" ตกใจข่าวไลน์หน.ทีมJBCไทยหลุด ยอมรับแผนที่กัมพูชา 1 ต่อ 2 แสน ชี้ถ้าจริงไทยแพ้แน่นอน
ตราด กัมพูชา ยอมให้รถบรรทุกผลไม้ผ่านด่านแล้ว
เทศบาลปอยเปต โร่ชี้แจงปม "ตึก 6 ชั้นถล่ม" เป็นข่าวปลอม แค่คนงานรื้อถอนประมาท

ดู LIVE รายการ

X

เราใช้ คุ้กกี้ เพื่อให้ทุกคนได้ประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น