No data was found

คว่ำแก้รัฐธรรมนูญบัตรเลือกตั้ง 2 ใบ พรรคเล็กลุ้นวัดใจพล.อ.ประยุทธ์ ยื่นศาลรธน.ปิดทางโทนี่

กดติดตาม TOP NEWS

พรรคเล็กถอดใจไปต่อไม่ไหว รวมเสียงส.ส.ไม่ถึง48 หาแนวร่วมยาก ขอร้องส.ว.ก็ไม่คืบหลังส่งสัญญาณไม่ใช่เรื่องสภาสูง หนทางคว่ำบัตรเลือกตั้ง 2 ใบตีบตัน ลุ้นวัดใจพล.อ.ประยุทธ์ กล้าหักพลังประชารัฐผิดใจพรรคร่วมรัฐบาล ใช้ ม. 148 ยื่นเรื่องให้ศาลรัฐธรรมนูญพิจารณา แก้ไขเลือกตั้งใช้บัตร 2 ใบขัดรัฐธรรมนูญหรือไม่

เรื่องของบัตรเลือกตั้งและวิธีการเลือกตั้งยังวุ่นไม่เลิก แม้ล่าสุดประเด็นแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญ วาระ 3 เรื่องระบบเลือกตั้ง จะผ่านความเห็นชอบของรัฐสภาไปแล้วแบบฉลุย ด้วยคะแนนเสียงจากส.ส.และส.ว. รวม 472 เสียง จากทั้งหมด 730 เสียงของทั้ง 2 สภา เป็นอันว่าการเลือกตั้งรอบหน้าการเข้าคูหากาบัตรเลือกตั้งจะกลับไปใช้วิธีการเหมือนการเลือกตั้งตามรัฐธรรมนูญพ.ศ.2540 คือ 500 เขต แบ่งเป็น ระบบเขต 400 คน ระบบบัญชีรายชื่อ 100 คน ใช้บัตรเลือกตั้ง 2 ใบ ส่วนวิธีการคิดคำนวณส.ส.แบบบัญรายชื่อจะไปหารือกันอีกครั้งตอนพิจารณากฎหมายลูก

ความจริงเรื่องนี้น่าจะจบไปแล้ว แต่ในระบอบประชาธิปไตยในรัฐธรรมนูญ 2560 ม.256 (9) ยังเปิดช่องให้คนที่เห็นต่างให้พรรคเล็กให้ส.ส.และส.ว.ที่เห็นแย้งเห็นต่างกับเรื่องนี้ สามารถยื่นเรื่องให้ประมุขในฝ่ายของตัวเองส่งเรื่องให้ศารัฐธรรมนูญวินิจฉัยว่าขัดรัฐธรรมนูญหรือไม่ได้ โดยระบุบทบัญญัติไว้ว่า ” ก่อนนายกฯ นําความกราบบังคมทูลเพื่อทรงลงพระปรมาภิไธยตาม(7)ส.ส.หรือส.ว.หรือสมาชิกทั้งสองสภารวมกันมีจํานวนไม่น้อยกว่า 1 ใน 10 ของสมาชิกทั้งหมดเท่าที่มีอยู่ของแต่ละสภาหรือของทั้งสองสภารวมกันแล้วแต่กรณีมีสิทธิเข้าชื่อกันเสนอความเห็นต่อประธานแห่งสภาที่ตนเป็นสมาชิกหรือประธานรัฐสภาแล้วแต่กรณีว่าร่างรัฐธรรมนูญตาม (7) ขัดต่อม.255 หรือมีลักษณะตาม (8) และให้ประธานแห่งสภาที่ได้รับเรื่องดังกล่าวส่งความเห็นไปยังศาลรัฐธรรมนูญและให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยให้แล้วเสร็จภายใน 30 วันนับแต่วันที่ได้รับเรื่องในระหว่างการพิจารณาวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญนายกฯจะนําร่างรัฐธรรมนูญแก้ไขเพิ่มเติมดังกล่าวขึ้นทูลเกล้าทูลกระหม่อมถวายเพื่อพระมหากษัตริย์ทรงลงพระปรมาภิไธยมิได้

และเพราะเหตุนี้แม้ลงมติรับหลักการแก้ไขรัฐธรรมนูญ เรื่องระบบเลือกตั้งจะจบความในสภาแล้ว แต่นอกสภาพรรคเล็ก ส.ส.และส.ว.ที่เห็นต่างยังสามารถดิ้นสู้ รวมรายชื่อส่งเรื่องให้ศาลรัฐธรรมนูญตีความตีตกเรื่องนี้ได้ ทั้งนี้หากปล่อยให้การแก้ไขรัฐธรรมนูญเดินไปตามเกมส์พรรคใหญ่อย่าง พลังประชารัฐ เพื่อไทย ประชาธิปัตย์ ฯลฯ มีหวังพรรคเล็กสูญพันธุ์ม้วนเสื่อกลับบ้านเก่าแน่นอน ขณะที่พรรคใหญ่ก็คงกินรวบแบ่งเค้กกันสบายในสภา อย่าลืมว่าการเลือกตั้งคราวก่อนเมื่อ 24 มี.ค.2562 ใช้รูปแบบการเลือกตั้งตามรัฐธรรมนูญ 2560 บัตรเลือกตั้งใบเดียว ระบบเขต 350 คน ระบบบัญชีรายชื่อ 150 คน คิดคำนวณส.ส.บัญีราชื่อแบบจัดสรรปันส่วนผสม ใช้การคิดสูตรส.ส.แบบพึงมี ปรากฎผลการเลือกตั้งว่า พรรคใหญ่ได้ส.ส.ระบบเขตน้อยลง ระบบบัญชีรายชื่อแทบไม่ได้เลยหรือได้แต่น้อย อาทิ พลังประชารัฐได้เขต 97 บัญชีรายชื่อ 19 , เพื่อไทยได้เขต 136 บัญชีรายชื่อไม่ได้เลย, ประชาธิปัตย์ได้เขต 33 บัญีรายชื่อ 20 ฯลฯ จะมีพรรคที่ได้ประโยชน์แบบเต็มๆจากการเลือกตั้งบัตรใบเดียว คือ อนาคตใหม่ได้เขต 31 บัญชีรายชื่อ 50 รวมถึงพรรคเล็กพรรคน้อยพรรคปลาซิวปลาสร้อยทางการเมือง โดยเฉพาะพรรคที่ได้ส.ส.ต่ำสิบมีกว่า20 พรรค ได้ส.ส.รวมกันไปกว่า 45 ตัว

เพราะเหตุนี้จึงทำให้ส.ส.พรรคเล็กสู้ขาดใจในเรื่องบัตรเลือกตั้ง เพราะหากกลับไปใช้รูปแบบเดิมเลือกตั้ง 2 ใบ มีหวังทั้งหมดได้กลับบ้านเก่าหมดทางทำมาหากินแน่ เพราะการคิดคำนวณส.ส.บัญชีรายชื่อระบบใหม่นั้น แค่พรรคมีคะแนน 40,000 -50,000 คะแนน แต่ละพรรคก็สามารถได้โควต้าส.ส. 1 คน เพราะใช้สูตรการคิดแบบเอาทุกคะแนนมาคิด ไม่มีคะแนนสูญเปล่าเพราะหยิบคะแนนตกน้ำมาคำนวณหมด หนำซ้ำยังมีเพดานส.ส.ตั้งล็อคพรรคใหญ่ไม่ให้ได้คะแนนสูงเกินจริง ด้วยเหตุนี้จึงทำให้พรรคใหญ่ได้ส.ส.บัญชีรายชื่อน้อย แต่พรรคตัวน้อยกลับไปผู้แทนมาก ด้วยเหตุนี้รอบก่อนจึงมีส.ส.ปัดเศษจากพรรคโนเนมเดินกันให้ว่อนในสภา หลายคนใช้ได้ดีมีคุณภาพ แต่บางคนก็กากปากสุนัขไม่รับประทาน ใช้เวลาหาแต่เรื่องไปวันๆ อย่างไรก็ตามหากใช้สูตรคิดคำนวณส.ส.บัญชีรายชื่อแบบเก่า แต่ละพรรคต้องได้คะแนนเสียงสูงถึง 350,000 – 400,000 คะแนน ถึงจะได้ส.ส. 1 คน เพราะฉะนั้นสำหรับพรรคเล็กน้ำเลี้ยงน้อยมันยากยิ่งกว่าเข็นครกขึ้นภูเขาไม่มีทางจะไปสู้พรรคใหญ่ได้ สุดท้ายพรรคใหญ่ก็กินรวบแบ่งเค้กกันสบาย เก้าอี้ส.ส.45 ตัวที่เคยหลุดมือไปให้พรรคเล็กก็เอามาแบ่งเอามาแชร์กัน

ยังไม่นับรวมประเด็นที่หลายคนกลัวหลายคนกังวล กรณีเลือกตั้ง 2 ใบแล้วเข้าทางทักษิณเพื่อไทยมาแน่ เพราะไม่ว่าเลือกตั้งยุคไหนสมัยใด ขนาดใบเดียวคราวก่อนเขียนกติกาดีเกือบตายอุดช่องโหว่ทุกอย่างหมด แต่ยังแพ้ยังพ่ายพรรคเพื่อไทยของทักษิณ รอบก่อนเขตกลวาดไป 136 เก้าอี้ รอบนี้ถ้าปล่อยผี 2 ใบ ทักษิณเปิดฝาโลงบินกลับไทยเข้ามาฮุบประเทศอีกรอบแน่ คราวนี้ไม่ใช่แค่พล.อ.ประยุทธ์จะลำบาก แต่ทั้งองคาพยพ พรรคการเมือง รัฐบาล แม้แต่สถาบันก็สะเทือนเลื่อนลั่นกันไปหมด

ทั้งหลายทั้งมวลจึงทำให้พรรคเล็กต้องออกมาดิ้นเรื่องนี้แบบสุดฤทธิ์ หนึ่งในหัวหอกพรรคเล็กที่ออกมาเคลื่อนไหวเรื่องนี้คือ นพ.ระวี มาศฉมาดล ส.ส.บัญชีรายชื่อ ในฐานะหัวหน้าพรรคพลังธรรมใหม่ แต่เจ้าตัวก็ยังไม่แน่ใจว่าจะได้เสียงส.ส. กับ ส.ว. ครบตามที่รัฐธรรมนูญระบุไว้หรือไม่ ” ขณะนี้อยู่ระหว่างการรวบรวมรายชื่อส.ส. โดยใช้วิธีล่าชื่อเฉพาะส.ส.เท่านั้น ทำให้ใช้เพียงเสียงส.ส.1 ใน10 หรือแค่ 48 คนเท่านั้น สามารถรวบรวมชื่อไปได้มากกว่าครึ่งแล้ว แต่ยังไม่ครบ 48 คน เสียงที่ได้ขณะนี้เป็นของพรรคเล็ก พรรคเศรษฐกิจใหม่ พรรครวมพลังประชาชาติไทย แต่ยังไม่มีเสียงของพรรคภูมิใจไทยและพรรคก้าวไกลกำลังอยู่ระหว่างทาบทาม หากไม่มีเสียงทั้ง 2 พรรคจะได้เสียงไม่ถึง48 เสียง อย่างไรก็ตามถ้าภายในสัปดาห์นี้ยังได้เสียงไม่ครบ คงต้องหันไปพึ่งส.ว.เป็นผู้รวบรวมชื่อยื่นตีความต่อศาลรัฐธรรมนูญ เพราะเสียงส.ว.1ใน10 จะใช้แค่26เสียง มีการพูดคุยประสานงานกันอยู่ แต่ส.ว.ยังไม่รับปากจะยื่นตีความให้หรือไม่”

แนวโน้มตอนนี้ดูเหมือนเสียงส.ส.จากพรรคเล็กยังไงก็ไม่พอไม่ถึง 48 เสียงตามเงื่อนไขรัฐธรรมนูญ ยิ่งหากภูมิใจไทยไม่ขยับก้าวไกลไม่เอาด้วย ช่องทางส.ส.ก็คงจะจบปิดตายไปได้เลย เพราะช่วงหลังทั้ง 2 พรรคก็อยากไปลุ้นวัดดวงบัตร 2 ใบเหมือนกัน เพราะฉะนั้นโอกาสของพรรคเล็กตอนนี้ก็ไปลุ้นที่ส.ว.ว่าจะยื่นมือมาช่วยไหม แต่ล่าสุดฟังจากเสียงที่ทนายวันชัย สอนศิริ แกนนำสภาสูงออกมาพูดสะท้อนโอกาสของพรรคเล็กได้ชัดว่าน่าจะจบเห่ ” การแก้รัฐธรรมนูญเป็นเรื่องของพรรคการเมือง ซึ่งไม่เกี่ยวกับส.ว. เพราะไม่มีส่วนได้เสีย จึงไม่มีเหตุผลที่จะไปร่วมเข้าชื่อยื่นตีความ โดยความเห็นส่วนตัวเห็นว่าหากจะทำให้เกิดความชัดเจนก็เป็นเรื่องดี และชี้ว่าโดยหลักพรรคการเมือง นักการเมือง เป็นผู้มีส่วนทั้งได้และเสีย โดยบางพรรคได้ประโยชน์ ขณะเดียวกันบางพรรคก็เสียประโยชน์ ซึ่งพรรคไหนที่เห็นว่าเสียประโยชน์ก็อาจจะต้องดิ้นรน ส่วนพรรคที่ได้ประโยชน์ก็จะอยู่เฉยๆ หรือบางพรรคยังไม่แน่ใจครึ่งๆ ก็ไปพิจารณากฎหมายประกอบรัฐธรรมนูญเกี่ยวข้องหรือกฎหมายลูกว่าด้วยการเลือกตั้ง เพราะกฎหมายลูกอาจจะเป็นปัญหาอย่างหนึ่ง”

ทำไปทำมาตอนนี้พรรคเล็กคงเหลือลุ้นแค่ช่องเดียวก็คือการวัดใจพล.อ.ประยุทธ์ กลับลำเรื่องบัตร 2 ใบแล้วยืนเรื่องให้ศาลรัฐธรรมนูญตีความ ตาม ม.148 (2) ที่ระบุว่า หากนายกรัฐมนตรีเห็นว่าร่างพระราชบัญญัติดังกล่าวมีข้อความขัดหรือแย้งต่อรัฐธรรมนูญหรือตราขึ้นโดยไม่ถูกต้องตามบทบัญญัติแห่งรัฐธรรมนูญให้ส่งความเห็นเช่นว่านั้นไปยังศาลรัฐธรรมนูญเพื่อวินิจฉัยและแจ้งให้ประธานสภาผู้แทนราษฎรและประธานวุฒิสภาทราบโดยไม่ชักช้า ในระหว่างการพิจารณาวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญนายกฯจะนําร่างพระราชบัญญัติดังกล่าวขึ้นทูลเกล้าทูลกระหม่อมถวายเพื่อพระมหากษัตริย์ทรงลงพระปรมาภิไธยมิได้ถ้าศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยว่าร่างพระราชบัญญัตินั้นมีข้อความขัดหรือแย้งต่อรัฐธรรมนูญหรือตราขึ้นโดยไม่ถูกต้องตามบทบัญญัติแห่งรัฐธรรมนูญและข้อความดังกล่าวเป็นสาระสําคัญให้ร่างพระราชบัญญัตินั้นเป็นอันตกไป

เหลือเวลาอีกไม่กี่วันจะครบกำหนด 15 วัน ที่นายกฯจะนำร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญขึ้นทูลเกล้าฯ ต้องจับตาและรอลุ้นดูว่าพล.อ.ประยุทธ์จะมองเรื่องนี้อย่างไรเห็นเรื่องนี้แบบไหน จะปล่อยไหลแล้วยื่นทูลเกล้าฯหลัง 15 วัน อนาคตก็ค่อยไปลุ้นหาทางหยุดเพื่อไทยปิดช่องทางไม่ให้ทักษิณกลับมาฮุบประเทศ หรือจะตัดสินใจขวางด้วยการยื่นเรื่องนี้ให้ศาลรัฐธรรมนูญพิจารณาคว่ำบัตร 2 ใบ แต่ก็ต้องหักกับส.ส.ในพลังประชารัฐผิดใจกับพรรคร่วมรัฐบาล ฟังดูเหมือนง่ายแต่ตัดสินใจยากชะมัด
///////////////////

ข่าวที่น่าสนใจ

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ข่าวล่าสุด

รัฐบาลชวนเที่ยวงานฉลองกรุงเทพฯ “ใต้ร่มพระบารมี 242 ปี กรุงรัตนโกสินทร์” 19-25 เมษายนนี้
พม.เปิดยื่นรับสิทธิครอบครัวอุปถัมภ์ 1,107 ราย เน้นให้สิทธิอุปถัมภ์ ผู้สูงอายุยากจนก่อน
"ผบก.น.2" ยันไม่ 2 มาตรฐาน ดำเนินคดี 2 บิ๊กตร.อย่างเท่าเทียม เผยเตรียมนัด "ทนายตั้ม" ให้ข้อมูลอีกครั้ง
บยสส. 3 เปิดเวที “สื่อสารอย่างไรให้เท่าเทียม สิทธิของ LGBTQIAN+ กับการเปิดรับของสังคม” หวังร่วมสร้างความเข้าใจในสังคมไทย เพื่อเปิดรับความหลากหลายอย่างเท่าเทียม
เดือด "เมียนมา" โต้กลับฝ่ายต่อต้าน ส่งฮ.โจมตีทางอากาศ ชาวบ้านหนีตายเพียบ
"วันชัย" สวนหมอดู ทักดวง "ทักษิณ" ก.ย.นี้โดนรัฐประหาร ลั่นใครจะทำเขามากับอาญาสวรรค์
"ดร.อานนท์" ประชดเจ็บ! อยากให้ "ก้าวไกล-ธนาธร"พัง! ลองให้เป็นรัฐบาลรับรองไปไม่รอด
แม่ร้อง "ปวีณา" ช่วยนำศพลูกสาวกลับไทย หลังสถานทูตเพิ่งแจ้งข่าว ดับปริศนา นานกว่า 1 ปี
"ทนายอนันต์ชัย" ลั่น พระพุทธเจ้าไม่ได้สอน "เชื่อมจิต"
"ปชป." จี้รัฐบาลต้องกล้าตัดสินใจอย่าซื้อเวลา ทำประชามติกี่ครั้ง แก้รธน.จำเป็นต้องทำเพื่อสร้าง "ปชต." ที่สมบูรณ์

ดู LIVE รายการ

X

เราใช้ คุ้กกี้ เพื่อให้ทุกคนได้ประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น