นายกรัฐมนตรีสก็อต มอริสัน ผู้นำออสเตรเลียเรียกประชุมคณะรัฐมนตรีและมุขมนตรีรัฐต่างๆทั่วประเทศในวันนี้ เพื่อหารือมาตรการคลายล็อค ให้กับผู้ที่ฉีดวัคซีนแล้ว โดยมอริสันให้คำมั่นว่าจะให้สิทธิเสรีภาพกับกลุ่มผู้ที่ฉีดวัคซีนป้องกันโควิดแล้วมากขึ้น เนื่องจากไม่เป็นภัยคุกคามต่อระบบสาธารณสุข และโรงพยาบาลออสเตรเลีย
นอกจากนี้ ผู้นำออสเตรเลียจะหารือเรื่องการใช้วัคซีนพาสปอร์ต และมาตรการกักตัว เพื่อเตรียมความพร้อมเรื่องการเปิดพรมแดนทั้งของรัฐ และของประเทศ ทั้งประกาศความสำเร็จล่าสุดโดยบอกว่าออสเตรเลียขณะนี้ฉีดวัคซีนอย่างน้อย 1 โดสให้ประชาชน 70.6 % แล้ว เป็นการส่งสัญญานว่ากำลังจะเริ่มคลายล็อค อย่างไรก็ตามออสเตรเลียจะเปิดพรมแดนต่อเมื่อฉีดครบโดสได้ 80 % เท่านั้น
ขณะเดียวกันก็จะเริ่มนำเอาแอปตรวจจับใบหน้ามาทดลองใช้ที่รัฐนิวเซาธ์เวลส์และวิคตอเรีย เพื่อให้ตำรวจสามารถตรวจเช็คประชาชนที่ถูกสั่งให้กักตัว ว่าได้กักตัวที่บ้านจริงหรือไม่ อยางไรก็ตามโครงการนี้ถูกต่อต้านและวิพากษ์วิจารณ์ว่าละเมิดสิทธิความเป็นส่วนตัวของประชาชน
แต่แม้ออสเตรเลียกำลังจะเริ่มคลายล็อค แต่ปรากฎว่าวันนี้จำนวนผู้ติดเชื้อที่รัฐวิคตอเรียยังคงสูงอยู่ที่ 510 คน และเมื่อวานนี้ 514 คนซึ่งเป็นสถิติสูงสุด โดยส่วนใหญ่อยู่ที่นครเมลเบิร์น ออสเตรเลียมีผุ้ติดเชื้อรายใหม่ทั่วประเทศที่ 2 พัน 198 คนในช่วง 24 ชม.ที่ผ่านมา