จากกรณีที่พระบรมฉายาลักษณ์รัชกาลที่ 10 หลังถูกเผาริมถนนมิตรภาพ บริเวณด้านหน้าทางเข้าโรงพยาบาลศรีนครินทร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น เมื่อกลางดึกที่ผ่านมา (13 กันยายน 2564) โดยมีการรักษาความปลอดภัยของเจ้าหน้าที่ รปภ.มข. อย่างเข้มงวด ทั้งนี้เหตุเพลิงไหม้ครั้งนี้เกิดขึ้นเมื่อเวลา 02.30 น.โดยเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยสามารถควบคุมเพลิงไว้ได้ จากนั้นจึงนำป้ายถูกไฟไหม้ออกจากพื้นที่และเก็บกวาดเศษซากพระบรมฉายาลักษณ์ และมีรายงานข่าวจาก สภ.เมืองขอนแก่นว่า เมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมาผู้กำกับ สภ.เมือง จ.ขอนแก่น ได้เรียกประชุมทีมสืบสวนสอบสวนด่วน เพื่อติดตามผู้เผาป้าย แต่ยังไม่ได้ตัวผู้ก่อเหตุ
พล.ต.ต.เนติพงศ์ ธาตุทำเล รอง ผบช.ภ.4 ในฐานะโฆษก ภ.4 เปิดเผยว่า สืบเนื่องมาจากกรณี เมื่อวันที่ 13 กันยายน 2564 เวลาประมาณ 02.00 น.เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองขอนแก่น ได้รับแจ้งจาก รพ.ศรีนครินทร์ ว่ามีคนร้ายก่อเหตุวางเพลิงเผาซุ้มป้ายเฉลิมพระเกียรติฯ บริเวณหน้า รพ.ศรีนครินทร์ ต.ในเมือง อ.เมืองขอนแก่น จ.ขอนแก่น เป็นเหตุให้ได้รับความเสียหาย เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้ออกไปตรวจสถานที่เกิดเหตุพร้อมเจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐาน ศพฐ.4
พล.ต.ท.ยรรยง เวชโอสถ ผบช.ภ.4 ได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวนสอบสวนของ บก.สส.ภ.4 และ ภ.จว.ขอนแก่น ออกสืบสวนติดตามหาตัวผู้กระทำผิดที่ก่อเหตุให้จงได้ ภายหลังชุดสืบสวนลงพื้นที่ตรวจสอบกล้องวงจรปิดพบว่ามีผู้ร่วมก่อเหตุทั้งหมด 2 คน โดยในช่วงเช้าที่ผ่านมาเจ้าหน้าที่ตำรวจได้นำหมาย ค้นเข้าทำการตรวจค้นห้องพักของผู้ต้องสงสัย จำนวน 2 จุด และจับกุมผู้ก่อเหตุ คือ นายเจมส์ นามสมมุติ ตามหมายจับของศาลจังหวัดขอนแก่นที่ จ.181/2564 และ นายบอส นามสมมุติ ตามหมายจับที่ จ.182/2564 ลงวันที่ 16 กันยายน 2564 ในข้อหา ร่วมกันวางเพลิงเผาทรัพย์ พร้อมกับยึดรถยนต์เก๋ง ยี่ห้อ HONDA รุ่น JAZZ สีขาว คันหมายเลขทะเบียน กร-3740 อุบลราชธานี ที่ใช้เป็นยานพาหนะในการทำผิดเป็นของกลาง จากการ
สอบสวนเบื้องต้นผู้ต้องหาทั้ง 2 คน ให้การปฏิเสธตลอดข้อกล่าวหาสำหรับการดำเนินคดีนี้นั้น ภ.4 และ ภ.จว.ขอนแก่น ได้ให้ความสำคัญเป็นอย่างมาก โดยได้ประชุมเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวน บก.สส..ภ.4 และ ภ.จว.ขอนแก่น ให้ทำการจัดเก็บรวบรวมพยานหลักฐานทุกขั้นตอนโดยละเอียด จนเชื่อว่าทั้ง 2 คน เป็นผู้ก่อเหตุและรวบรวมพยานหลักฐานขออนุมัติออกหมายจับดังกล่าว พร้อมยืนยันว่าตำรวจมีพยานหลักฐานชัดเจน ที่จะดำเนินคดีกับผู้ต้องหา ทั้ง 2 คน และหากพบว่าเข้าข่ายความผิดฐานใดเพิ่มเติมจะได้ดำเนินการตามกฎหมายต่อไป
พล.ต.ต.เนติพงศ์ ธาตุทำเล รอง ผบช.ภ.4 ในฐานะโฆษก ภ.4 ขอแจ้งเตือนว่าการกระทำในลักษณะดังกล่าวเป็นเรื่องร้ายแรง และทำลายความรู้สึกของคนไทย โดยความผิดฐาน วางเพลิงเผาทรัพย์ของผู้อื่น ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 217 มีอัตราโทษจำคุกตั้งแต่หกเดือนถึงเจ็ดปี และปรับตั้งแต่หนึ่งหมื่นบาทถึงหนึ่งแสนสี่หมื่นบาท
ล่าสุดบรรยากาศที่หน้าสถานีตำรวจภูธรจังหวัดขอนแก่น มีการควบคุมตัวผู้ต้องสงสัยเป็นนักศึกษา ม.ข. มายังสถานีตำรวจภูธรขอนแก่นพร้อมกับทนายความ ส่วนด้านนอกมีการนำแผงเหล็กมากั้นที่บริเวณด้านหน้า โดยไม่อนุญาตให้สื่อมวลชน และผู้ที่ไม่เกี่ยวข้อง เข้าไปด้านใน
ด้าน พ.ต.อ.ปรีชา เก่งสาริกิจ ผกก.สภ.เมืองขอนแก่น ให้ข้อมูลว่า ขณะนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจกำลังรวบรวมข้อมูลหลักฐานและสอบสวนอยู่ ซึ่งขณะนี้แจ้งเพียง 1 ข้อหาคือเผาทรัพย์ธรรมดา แต่ยังไม่แจ้งเหตุ 112. สำหรับผู้ต้องหาสามารถก็ยื่นประกันตัวได้ ตามสิทธิ์ของผู้ต้องหา
หากมีความคืบหน้าผู้สื่อข่าวจะรายงานให้ทราบต่อไป