ซู มี เทอร์รี อดีตนักวิเคราะห์ในสำนักงานข่าวกรองสหรัฐ หรือ CIA และอดีตเจ้าหน้าที่สภาความมั่นคงแห่งชาติสหรัฐ ถูกทางการสหรัฐยื่นฟ้อง ฐานทำงานเป็นสายลับให้รัฐบาลเกาหลีใต้โดยไม่ได้ขึ้นทะเบียน เพื่อแลกกับของสมนาคุณสุดหรู
คำฟ้องที่ยื่นต่อศาลกลางแมนฮัตตัน ระบุว่า ซู มี เทอร์รี เปิดเผยข้อมูลที่ห้ามเผยแพร่ของรัฐบาลสหรัฐฯ ให้กับเจ้าหน้าที่ข่าวกรองเกาหลีใต้ และอำนวยความสะดวกให้เจ้าหน้าที่รัฐบาลเกาหลีใต้ เข้าถึงเจ้าหน้าที่สหรัฐ เจ้าหน้าที่ข่าวกรองเกาหลีใต้ตอบแทนด้วยกระเป๋าแบรนด์หรู หลุย วิตตอง และ โบเตก้า เวเนต้า เสื้อโค้ทดอลเช่ แอนด์ แกบาน่า ดินเนอร์ในร้านอาหารติดดาวมิเชลิน และมอบเงินสนับสนุนอย่างลับ ๆ กว่า 3 หมื่น 7 พันดอลลาร์ ให้กับโครงการนโยบายสาธารณะว่าด้วยประเด็นเกาหลี ที่เธอดำเนินการอยู่
เทอร์รีเริ่มงานสายลับ เมื่อปี 2556 สองปีหลังออกจากงานภาครัฐ และทำเรื่อยมาตลอด 10 ปี ปัจจุบัน เธอเป็นนักวิชาการอาวุโสที่สภาวิเทศสัมพันธ์ ได้ชื่อว่าเป็นผู้เชี่ยวชาญแถวหน้าด้านเอเชียตะวันออกและคาบสมุทรเกาหลี มักออกรายการให้สัมภาษณ์ทางทีวี วิทยุ พอดแคสต์ และเคยเข้าให้ข้อมูลต่อคณะทำงานในสภาคองเกรสหลายครั้ง เทอร์รียังไม่แสดงความเห็นใด ๆ แต่ทนายของเธอระบุในแถลงการณ์ ว่าเป็นข้อกล่าวหาที่ไม่มีมูล บิดเบือนการทำงานในฐานะนักวิชาการ นักวิเคราะห์ข่าวที่ขึ้นชื่อเรื่องความเป็นอิสระ และผู้ที่ทำงานให้กับสหรัฐมานานหลายปี
เทอร์รีเกิดในกรุงโซล ก่อนไปเติบโตที่รัฐเวอร์จิเนีย เธอเป็นนักวิเคราะห์อาวุโสของซีไอเอ ช่วงปี 2544-2551 และเป็นผู้อำนวยการฝ่ายเกาหลี ญี่ปุ่นและโอเชียเนีย ที่สภาความมั่นคงแห่งชาติช่วงปี 2551-2562 ในสมัยประธานาธิบดีจอร์จ ดับเบิลยู บุช จากรีพับลิกัน และบารัก โอบามา ผู้นำสหรัฐจากพรรคเดโมแครต ปัจจุบัน พำนักในนิวยอร์ก