“ธรรมนัส” รมว.เกษตรฯ สั่งตั้งงบฯ รับซื้อ “ปลาหมอคางดำ” ทำปุ๋ย

"ธรรมนัส" รมว.เกษตรฯ สั่งตั้งงบฯ รับซื้อ "ปลาหมอคางดำ" ทำปุ๋ย

Top news รายงาน 16 ก.ค.67 เวลา 9.48น.ร้อยเอกธรรมนัส พรหมเผ่า รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กล่าวถึงการแพร่ระบาดของปลาหมอคางดำ ว่าตั้งแต่รับตำแหน่ง ได้รับทราบปัญหานี้มาโดยตลอด โดยเฉพาะการขับเคลื่อนในสภาผู้แทนราษฎรในสมัยปี 2565-2566 เพราะเป็นเรื่องสำคัญ เมื่อได้รับหน้าที่รัฐมนตรี ได้สั่งการให้จัดการเรื่องปลาหมอสีคางดำ แต่ขณะนี้เป็นปลาหมอคางดำ ซึ่งเป็นสายพันธุ์พิเศษที่ขยายพันธุ์ได้รวดเร็ว และกินทุกอย่างที่เป็นสัตว์น้ำ ดังนั้นเป็นสัตว์อันตราย และเรื่องนี้กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ได้นำมาเป็นวาระแห่งชาติ ได้สั่งการมาโดยตลอด แต่ที่ผ่านมาพบปัญหา การที่จะศึกษาวิจัยสายพันธุ์ใหม่ที่จะทำให้ปลาหมอคางดำเป็นหมัน ก็ไม่ใช่เรื่องง่าย ต้องคิดหลายขั้นตอน ตนเองจึงสั่งการให้หน่วยงานในสังกัดได้ศึกษาความเป็นไปได้ในการเปลี่ยนโครโมโซม เพื่อให้ปลาหมอตัวผู้ไปผสมพันธุ์แล้วทำให้เป็นหมัน หากโครโมโซมตัวนี้ผสมกันแล้ว จะเกิดสายพันธุ์ใหม่หรือไม่ ต้องคิดให้ละเอียด แต่ประเด็นสำคัญขณะนี้ต้องปฏิบัติการล่า ฆ่าให้หมด

 

ข่าวที่น่าสนใจ

โดยให้การยางแห่งประเทศไทย ตั้งงบประมาณจากเงินกองทุนในการรับซื้อปลาหมอ เพื่อเอาไปทำปุ๋ย และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในกระทรวงเกษตรและสหกรณ์จำเป็นต้องระดมการแก้ไขปัญหาก่อน พร้อมค้นหาว่า ใครเป็นต้นเหตุที่มาของปลาหมอสี -ปลาหมอคางดำ โดยสั่งการให้กรมประมง และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องตรวจสอบมาโดยตลอดอยู่แล้ว ยังไม่มีความชัดเจน ดังนั้นการไปโทษบริษัทใดบริษัทหนึ่งเป็นเรื่องที่สุ่มเสี่ยงต่อการถูกฟ้องร้องได้ แต่จำเป็นต้องทำงานอย่างละเอียด ขณะเดียวกัน กระทรวงพยายามหาข้อมูลจากสภาที่ขับเคลื่อนเรื่องนี้ ว่าใครเป็นคนนำเข้ามาในประเทศไทย ซึ่งจะมีการประสานความร่วมมือกัน เชื่อว่าในเร็วๆ นี้จะได้ข้อมูลและรายละเอียดทั้งหมด ยืนยันว่า การนำเข้าปลาหมอคางดำผิดกฎหมายอยู่แล้ว หากไม่ได้รับอนุญาตห้ามนำเข้า ไม่ว่าจะเป็นพืชไร่ พืชสวน ประมง ปศุสัตว์ ทุกอย่างต้องได้รับอนุญาตจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเท่านั้น ไม่เช่นนั้นจะเป็นการลักลอบเข้ามาโดยผิดกฎหมาย ยอมรับว่า ที่ผ่านมา เรื่องนี้มีการแพร่พันธุ์หนักมาหลายปีแล้ว ซึ่งมีการล่ามาโดยตลอดในทุกจังหวัด มีปฏิบัติการหลายจังหวัด ทั้งสมุทรสงคราม สมุทรปราการ สมุทรสาคร แต่ได้มีการขยายไปยังจังหวัดเพชรบุรี ประจวบคีรีขันธ์ ในลำน้ำสาขาทั้งน้ำจืด น้ำกร่อย น้ำเค็ม ซึ่งปลาชนิดนี้อาศัยอยู่ได้หมด ดังนั้นจึงจำเป็นต้องปฏิบัติการ

 

ส่วนมีกระแสข่าวว่าหลุดมายังคลองสายไหม กรุงเทพมหานคร นั้น ร้อยเอกธรรมนัส ยอมรับว่าเรื่องนี้น่าเป็นห่วง ดังนั้นต้องมีการป้องกันอย่างเอาจริงเอาจัง ทั้งนี้ข้อมูลทั้งหมดที่ได้มายังไม่ได้ข้อสรุป ขออย่าตีความ และขอหาข้อมูลให้ชัดเจน ปลานี้สามารถนำไปทำปุ๋ย ปลาป่น ปลาร้า เป็นอาหารสัตว์ และรับประทานได้ ซี่งเรื่องนี้ได้มีการทำมาโดยตลอด แต่ปลาชนิดนี้แพร่พันธุ์เร็ว

 

 

 

อย่างไรก็ตามในวันนี้ ร้อยเอกธรรมนัส กล่าวว่า ที่ประชุม ครม.ในวันนี้ มีการเสนอโครงการประกันภัยข้าวนาปีการผลิต 2567 ส่วนที่มีการถอยโครงการปุ๋ยคนละครึ่ง จะมีมาตรกรใดมาแทนนั้น ต้องหามาตรการอื่นเข้ามาแก้ แต่ไม่ใช่โครงการประกันรายได้หรือประกันราคา ส่วนจะเป็นการช่วยเหลือชาวนาไร่ละ 1000 หรือไม่ ร้อยเอกธรรมนัส ย้ำว่า โครงการปุ๋ยคนละครึ่ง กับโครงการการพัฒนาคุณภาพข้าวไร่ละ 1000 เป็นคนละเรื่อง ขออย่าสับสน ซึ่งโครงการไร่ละพัน เกิดขึ้นเมื่อรัฐบาลที่ผ่านมา เนื่องจากราคาข้าวตกต่ำ

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ข่าวล่าสุด

“เอกนัฏ” ทลายรีไซเคิลศูนย์เหรียญปราจีนฯ ลอบประกอบกิจการ ซุกขยะพิษ-วัตถุอันตรายกว่า 8,000 ตัน ชง DSI รับเป็นคดีพิเศษ
ศธ. จุดพลังเยาวชนอาเซียน ดึง AI เปิดค่าย AYC 2025 แก้ปัญหาสิ่งแวดล้อมสู่โลกอนาคตที่ยั่งยืน
"อนุทิน" ลั่นไม่ต้องรอ 48 ชม.แจ้งเพื่อไทยแล้ว ไม่รับเงื่อนไขแลกเก้าอี้ มท.1
"ประเสริฐ" ปัดโดนสำนักงบฯริบเงิน 5.1 หมื่นล้านแก้ภัยแล้ง แจงรัวเจอยื่นร้องป.ป.ช.ทำผิดรธน.มาตรา144
"TOPNEWS" คืนจอทีวีดาวเทียมช่อง 77 ตั้งเป้าสู่ศูนย์กลางสื่อเพื่อประชาชน
"สมชัย" แซวเจ็บเพื่อไทยยื่นคำขาด ภท. เทียบ "ฮุนเซน" ลั่นปิดด่าน สุดท้ายต้องแก้ตัว โทษสื่อลงผิดเอง
"นายกฯ" ถอนหายใจแรง โดนสื่อซัก ปมปรับครม. "อนุทิน" ลั่นพร้อมเป็นฝ่ายค้าน
"ฮุนเซน" พล่านแซะไทย ตั้งทีมฉก.ตอบโต้ข่าว กลัวอะไรแค่โพสต์เฟซบุ๊กพูดความจริงเรื่องในกัมพูชา
(50 ปีสัมพันธ์ไทย-จีน) ไปดู'หวีจากเขาสัตว์' หนึ่งในสามสมบัติเก่าแก่ในฝูโจว
(50 ปีสัมพันธ์ไทย-จีน) พิพิธภัณฑ์ 'กำแพงเมืองจีน'เปิดรับแขกในเหอเป่ย

ดู LIVE รายการ

X

เราใช้ คุ้กกี้ เพื่อให้ทุกคนได้ประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น