“แม่ปุ๊กกี้” เดือดสุดเจ็บใจ อยู่ข้าง “ต้นอ้อ” มาตลอด ลั่นแรงใครอยากแบก แบกไปให้สุดนะ

"แม่ปุ๊กกี้" เดือดสุดเจ็บใจ อยู่ข้าง "ต้นอ้อ" มาตลอด ลั่นแรงใครอยากแบก แบกไปให้สุดนะ

แม่ปุ๊กกี้” เดือดสุดเจ็บใจ อยู่ข้าง “ต้นอ้อ” มาตลอด ลั่นแรงใครอยากแบก แบกไปให้สุดนะ

วันที่ 9 ก.ค. 67 รายการ TOP TALK เรื่องนี้ต้องเคลียร์ ทางช่อง Top News ได้นำเสนอตอน “ต้นอ้อ เป็นหนึ่ง อย่าเงียบ จะเคลียร์กี่โมง” โกงเงิน ขายวุฒิการศึกษา ขายตำแหน่ง ดำเนินรายการโดย อุบลรัตน์ เถาว์น้อย ซึ่ง “แม่ปุ๊กกี้” อดีตผู้ร่วมก่อตั้งมูลนิธิเป็นหนึ่ง ออกมาเปิดเผยถึงเรื่องราวของ “ต้นอ้อ” น.ส.ชลิดา พะละมาตย์ หรือที่สังคมรู้จักกันผ่านบทบาทของประธานมูลนิธิเป็นหนึ่งนั้น ว่า จริงๆวางแผนที่จะออกมาจากมูลนิธิมาแล้วตั้งแต่เดือน มิ.ย. ซึ่งที่เราเห็นเราเห็นความไม่ดีของเขาค่อนข้างเยอะ 1.คดีโกงแชร์ ซึ่งจะอดีตหรือปัจจุบันมันก็เกิดคดีโกงแชร์ ฉ้อโกงอยู่แล้ว เราก็ต้องป้องกันเรื่องการเงินอยู่แล้ว โดยเรารู้อยู่แล้วแล้วเราเป็นคนช่วยเขาเอง คือวันนั้นไม่มีใครอยู่ข้างๆเขาเลย มีแต่เราคนเดียวที่อยู่ข้างเขา โดยรู้จากพี่สนธิออกตามข่าว และมีคนไปแจ้งความกองปราบ แล้วตัวเขาเอง เขาก็บอกว่าเขามีปัญหาเรื่องการล้มแชร์ แต่ไม่ได้บอกว่ามีการแจ้งความเขา หรือมีคนดำเนินคดีเขา เราก็ยังให้โอกาส แต่ก่อนหน้าที่จะเข้าไปคบกับเขาตนก็ต้องสืบเขาอยู่แล้ว ว่าเขามีพฤติกรรมอะไรบ้าง

ต้นอ้อ

ข่าวที่น่าสนใจ

แม่ปุ๊กกี้ กล่าวอีกว่า ที่รู้จักต้นอ้อได้เพราะได้นำเคสศัลยกรรมส่งให้เขา และเขาได้นำไปออกโหนกระแส ก็เลยทำให้เขามีชื่อเสียง เมื่อเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา ขณะนั้นยังไม่ได้จัดตั้งมูลนิธิเป็นหนึ่ง ซึ่งตนเป็นคนหาทุนเข้ามาจดตั้ง โดยการที่พาเขาไปหาพ่อบุญธรรม แล้วก็ขอเงินจากคุณพ่อมาจดตั้ง คุณพ่อให้เพราะเรา ไม่ได้ให้เพราะต้นอ้อ เพราะเขาดูแล้วท่าทางหลุกหลิก เขาบอกเขาไม่โอเค แต่ถ้าลูกอยากทำเขาให้ ทั้งนี้ยังบอกอีกว่า ตนไม่ได้คิดเป็นมูลค่าเงิน เพราะว่าเราให้เขาไปด้วยจิตเสน่หาหมด เราเป็นคนเดียวที่เราอยู่ข้างเขาในวันที่เขาไม่มีใคร หลังจากที่เขาโดนเรื่องโกงแชร์ และทุกคนสังคมโจมตีว่าเขาเลว แต่ตนคือเพื่อนเขาอยู่ข้างเขา ทั้งๆที่รู้ว่าเพื่อนเลว

 

แม่ปุ๊กกี้ กล่าวว่า ตัวเขามีอุดมการณ์ของเขา แต่พอเรามาคุยมาทีหลังเขา มารู้ว่าเขาจะเอาเงินจากที่ไหนมา เรารู้ว่าในการที่เขาจะเอาคนเข้าไปในสภาแล้วหาเงินเข้ามามันไม่โอเค ตัวคนที่จะทำงานมูลนิธิจริงๆจะต้องมีอาชีพเป็นหลักแหล่ง จะต้องไม่ใช่คนในครอบครัวมาอยู่ในมูลนิธิ ซึ่งอันนี้คือธุรกิจครอบครัว ซึ่งขณะนั้นก็เริ่มเอ๊ะแล้ว แต่ทำอะไรไม่ได้ เพราะว่าอำนาจการตัดสินใจของท่านประธานยิ่งใหญ่ที่สุด ซึ่งตนกับเขาสนิทกันจนที่แบบรู้ว่าถ้าฉันอยู่ต่อ ฉันเจ็บแน่นอน ซึ่งตนก็เตือนเขาไม่รู้กี่รอบแล้ว เตือนจนคิดว่าตัวเองถ้าอยู่ต่อเราจะซวยไปด้วย และตนไม่สามารถที่จะเอาชื่อเสียงครอบครัว หน้าที่การงาน ด้วยสัมมาอาชีพสุจริต 15 ปี มาแลกกับคนคนเดียวได้เพื่อปกป้องได้ ทุกวันนี้ใครแบก แบกเลยค่ะ แต่รับรองนะคะแบกไปให้สุด เพราะที่ผ่านมาคนที่โดน คบกันมาหลายปี โดนหมดนะคะ ฝากถึงทนายนะคะ แบกให้สุด

 

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ข่าวล่าสุด

"จตุพร" เรียกร้องรัฐบาล รับผิดชอบปมชายแดนไทย-กัมพูชา หลังสูญเสียทหาร-ปชช. "พิชิต" แท็กทีม จี้ "นายกฯอิ๊งค์" พิจารณาตัว คุย "ฮุน เซน" คลิปเสียงหลุด
"ผอ.พยาบาลรามาฯ" โพสต์ประกาศ พร้อมรับลูกนายทหารสละชีพ เรียนพยาบาลโควตาพิเศษ ไม่ต้องสอบเข้า
"ผู้ว่าฯร.ฟ.ท." ยันตรวจสอบชัดเจน ปมเขากระโดง รออธิบดีกรมที่ดินคนใหม่เพิกถอนโฉนด
"รมว.ปุ๋ง" รุดให้กำลังใจผู้อพยพ เหตุปะทะชายแดนไทย–กัมพูชา ที่ศูนย์พักพิงโคราช กำชับเจ้าหน้าที่เพิ่มดูแลกลุ่มเปราะบาง พร้อมช่วยฟื้นฟูสภาพจิตใจ
วธ. จัดพิธีปล่อยขบวนรถศาสนิกสัมพันธ์ร่วมใจ ช่วยผู้ประสบอุทกภัย-ผู้ได้รับผลกระทบ เหตุความไม่สงบชายแดนไทย-กัมพูชา
"GULF" มอบเงิน 18 ล้าน หนุน รพ.จุฬาฯ จัดหาเทคโนโลยีส่องกล้องทำลายเนื้องอกตับอ่อนไร้แผล ให้สำเร็จเป็นแห่งแรกในอาเซียน

ดู LIVE รายการ

เราใช้ คุ้กกี้ เพื่อให้ทุกคนได้ประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น​