ยูเครนเผย รถถังของสหรัฐที่ส่งมาให้ ใช้ป้องกันได้ไม่ดี แถมยังตกเป็นเป้าของรัสเซียได้ง่ายๆ ขณะที่สื่อออนไลน์สหรัฐชี้ ความขัดแย้งในยูเครน คือการเปิดโปงอย่างดี ถึงข้อบกพร่องของอาวุธสหรัฐ
ทหารนายหนึ่งที่ไม่เปิดเผยชื่อ จากกองพลน้อยยานยนต์ที่ 47 ของยูเครน ซึ่งประจำการอยู่ที่ดอนบาส ได้เปิดเผยกับนักข่าวของ CNN สื่อของสหรัฐ ซึ่งเป็นนักข่าวชาวตะวันตกกลุ่มแรก ที่เข้าไปสังเกตการณ์รถถังเอบรามส์ในสนามรบยูเครนว่า เกราะของรถถังเอบรามส์นั้น ไม่เพียงพอ มันไม่ได้ปกป้องทหารเลย จริงๆ แล้ว ทุกวันนี้คือสงครามโดรน ที่ตอนนี้เมื่อนำรถถังออกไป รัสเซียก็จะพยายามโจมตีรถถังเสมอ หากไม่มีการป้องกันใดๆมากกว่านี้ เหล่าทหารก็ไม่สามารถอยู่รอดได้ในสนามรบ
สำหรับกองพลน้อยยานยนต์ที่ 47 นั้น ถือเป็นหน่วยเดียวของยูเครน ที่ปฏิบัติการกับรถถังที่ผลิตในสหรัฐ และขณะนี้กองพลน้อยก็กำลังดำเนินการแก้ไขภาคสนามให้กับรถถังเอบรามส์อยู่ นอกจากนี้ เหล่าทหารก็คร่ำครวญว่า เราไม่มีการบินและปืนใหญ่ เรามีแต่รถถังเท่านั้น และนั่นคือปัญหา อาวุธตะวันตกที่ถูกส่งไปยังยูเครนนั้น ช้าเกินกว่าจะมาถึงและมีจำนวนน้อยเกินไป เรากำลังเสียเวลา มันคือความตายสำหรับเรา
ทั้งนี้ ประธานาธิบดีโจ ไบเดน แห่งสหรัฐ ได้ประกาศส่งมอบรถถังเอบรามส์จำนวน 31 คันไปยังยูเครน เมื่อเดือนมกราคม 2023 ซึ่งการประกาศจัดส่งครั้งนั้น มีรายงานว่า สหรัฐทำไปเพื่อกดดันเยอรมนี ให้ส่งรถถังเล็พเพิร์ดไปยูเครนให้มากกว่าที่ส่งไปแล้ว อย่างไรก็ดี กว่ารถถังเอบรามส์จะไปถึงยูเครน ก็สายเกินไปสำหรับการรุกในช่วงฤดูร้อนของปีที่แล้ว ซึ่งรถถังเอบรามส์ก็ได้มีโอกาสเข้าสู่สนามรบยูเครน ในเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา แต่จากนั้น รถถังก็ได้ตกเป็นเป้าหมายชั้นดีของรัสเซีย ที่ในบันทึกสถิติจนถึงวันนี้ กองกำลังรัสเซียได้ถล่มรถถังเอบรามส์ไปแล้วถึง 8 ครั้ง นอกจากนี้ ในส่วนของการรายงานของ CNN ครั้งนี้นั้น ก็ดูเหมือนจะขัดแย้งกับแถลงการณ์ของกระทรวงกลาโหมสหรัฐเมื่อเดือนที่แล้วที่ว่า รถถังเอบรามส์ ถูกถอนออกจากสนามรบ ด้วยเหตุผลที่ระบุเพียงว่า เนื่องจากภัยคุกคามจากโดรนของรัสเซีย
ขณะเดียวกัน นายแอนดรูว์ ค็อกเบิร์น นักข่าวของเว็บไซต์ข่าว Responsible Statecraft ของสหรัฐ ได้ออกบทความระบุว่า ความขัดแย้งระหว่างรัสเซียและยูเครน ได้เปิดโปงข้อบกพร่องที่ลึกซึ้งและซ่อนเร้น ของระบบป้องกันของสหรัฐอย่างไร้ความปรานี ความขัดแย้งได้ฉีกม่านความเหนือกว่าด้านอาวุธของสหรัฐลง ทั้งนี้ ค็อกเบิร์นได้ยกตัวอย่างถึงรถถังเอบรามส์ ซึ่งมักจะพังและเผชิญการโจมตีจากโดรนของรัสเซีย รวมถึงปืนครก M777 ที่ได้รับการพิสูจน์แล้วว่า มีความซับซ้อนต่อการทำการรบที่ยั่งยืน
ค็อกเบิร์นระบุต่อไปว่า แม้ว่ายุทโธปกรณ์ดังกล่าว จะได้รับการยกย่องในสื่อข่าวของสหรัฐและยูเครน แต่ยุทโธปกรณ์ดังกล่าวก็ถูกกำจัดอย่างรวดเร็วโดยกองกำลังรัสเซีย และบางส่วนก็ถูกนำไปยังการจัดแสดงอาวุธของนาโต ในรัสเซียด้วย ซึ่งขณะที่กองทหารรัสเซียรุกคืบอย่างต่อเนื่อง แต่ความขัดแย้งในยูเครน ได้กลายเป็นหายนะสำหรับกลไกป้องกันประเทศของสหรัฐ ที่เห็นได้ชัดเจนในความขัดแย้งในยูเครน
ในช่วง 2 ปีที่ผ่านมา สหรัฐและพันธมิตรได้จัดหารถถัง รถหุ้มเกราะ ปืนใหญ่ โดรน และอุปกรณ์อื่นๆ มูลค่ากว่า 2 แสนล้านดอลลาร์ให้กับยูเครน พร้อมยืนยันว่าสิ่งนี้ไม่ได้ทำให้พวกเขา กลายเป็นภาคีในความขัดแย้ง ขณะที่รัสเซียก็ระบุอยู่หลายครั้งว่า การส่งอาวุธเข้าสู่ยูเครน จะไม่ลดทอนความมุ่งมั่นของรัสเซีย หรือเปลี่ยนแนวทางปฏิบัติการทางทหารพิเศษในยูเครน ทั้งนี้ เมื่อต้นเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา นายพลเซอร์เกย์ ชอยกู รัฐมนตรีกลาโหมรัสเซียในขณะนั้น ได้ให้ข้อมูลว่า ความสูญเสียของยูเครนจนถึงปี 2024 มีผู้เสียชีวิตแล้วมากกว่า 111,000 คน และสูญเสียอาวุธยุทโธปกรณ์ไปมากถึง 21,000 หน่วย
#บกข่าวทีวี
