รัฐมนตรีอิสราเอลขู่ลาออกและจะล้มรัฐบาล หากยอมรับในโรดแม็พแก้ปัญหาอิสราเอลและฮามาส ที่ไบเดนนำเสนอ ทำผู้นำฝ่ายค้านออกมาซัดทันทีว่าเป็นรัฐบาลที่เลวร้ายที่สุด เท่าที่อิสราเอลเคยมี ขณะที่ประชาชนอิสราเอล รีบออกมารวมตัวกันหนุนนข้อเสนอไบเดนทันที
หลังจากเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา ที่ประธานาธิบดีโจ ไบเดน แห่งสหรัฐ นำเสนอถึงแผน 3 ระยะ เพื่อยุติความขัดแย้งในฉนวนกาซา โดยระยะที่ 1 คือการใช้เวลา 6 สัปดาห์ กับการหยุดยิงโดยสมบูรณ์, การถอนกำลังอิสราเอลออกจากพื้นที่ทุกแห่งในฉนวนกาซา, การปล่อยตัวประกันจำนวนหนึ่ง เพื่อแลกกับการปล่อยตัวนักโทษชาวปาเลสไตน์หลายร้อยคน ส่วนระยะที่ 2 ก็คือทางฮามาสกับอิสราเอล จะเจรจาเงื่อนไขการยุติความเป็นศัตรูอย่างถาวร ซึ่งระยะนี้ได้ถือเป็นพัฒนาการครั้งใหม่ จากข้อเสนอครั้งก่อน และอาจจะใช้เวลานานกว่า 6 สัปดาห์จากระยะที่ 1 ขณะที่ในระยะที่ 3 นั้นคือ แผนการฟื้นฟูฉนวนกาซาจะเริ่มขึ้น ขณะที่ศพตัวประกันที่ถูกสังหาร จะถูกส่งกลับไปยังครอบครัวของพวกเขาต่อไป
จากนั้น ทางสมาชิกขวาจัดที่โดดเด่นที่สุดของรัฐบาลอิสราเอล 2 คน ได้แก่นายเบซาเลล สโมทริช รัฐมนตรีคลัง และนายอิตามาร์ เบน กวีร์ รัฐมนตรีความมั่นคงแห่งชาติ ได้ออกมาแสดงความเห็นอย่างชัดเจนว่า พวกเขาปฏิเสธเกี่ยวกับการหยุดยิงทันที โดยทั้ง 2 ได้โพสต์ลง X ในทำนองเดียวกันที่ระบุว่า หากข้อเสนอนี้ถูกนำมาใช้ พวกเขาก็จะถอดพรรคของพวกเขาออกจากแนวร่วมรัฐบาล ทั้งนี้ เบน กวีร์ยังได้ระบุว่า นี่ถือเป็นข้อตกลงที่ประมาท ซึ่งถือเป็นชัยชนะของการก่อการร้าย และเป็นภัยคุกคามต่อความมั่นคงต่อรัฐอิสราเอล ขณะที่สโมทริชก็ระบุว่า เราขอเรียกร้องให้ทำสงครามต่อไป จนกว่ากลุ่มฮามาสจะถูกทำลาย และตัวประกันทั้งหมดกลับมา ทั้งนี้ หากพรรคของรัฐมนตรีทั้ง 2 ออกจากรัฐบาลจริง ก็จะทำให้นายกรัฐมนตรีเบนจามิน เนทันยาฮู ของอิสราเอล สูญเสียเสียงข้างมากในรัฐสภาทันที
ด้านนายยาอีร์ ลาปิด ผู้นำฝ่ายค้านของอิสราเอล ก็ได้ออกมาแสดงตัวว่าจะสนับสนุนเนทันยาฮู ในการยอมรับข้อเสนอดังกล่าว พร้อมประณามความคิดเห็นของรัฐมนตรีทั้ง 2 โดยลาปิดระบุว่า ภัยคุกคามของรัฐมนตรีทั้ง 2 คือ การละเลยความมั่นคงของชาติ ตัวประกัน และผู้อยู่อาศัยทั้งทางตอนเหนือและทางใต้ นี่เป็นรัฐบาลที่เลวร้ายและประมาทที่สุดในประวัติศาสตร์ของประเทศ สำหรับพวกเขาแล้ว พร้อมที่จะมีสงครามที่นี่ตลอดไป ไม่มีความรับผิดชอบ หรือการจัดการใดๆเลย ถือว่าล้มเหลวโดยสิ้นเชิง
ขณะเดียวกัน ศาสตราจารย์เจเรมี ซูริ ผู้เชี่ยวชาญด้านประวัติศาสตร์และกิจการสาธารณะแห่งมหาวิทยาลัยเท็กซัส ได้แสดงความเห็นว่า ข้อเสนอนี้มีโอกาสประสบความสำเร็จสูงกว่าข้อเสนอก่อนหน้า เพราะอิสราเอลได้สร้างความเสียหายอย่างมีนัยสำคัญต่อกลุ่มฮามาส และการรับรู้ของสาธารณชนทั่วโลก ก็กำลังหันมาต่อต้านอิสราเอล ซึ่งอาจกระตุ้นให้อิสราเอลต้องการยุติความขัดแย้ง ควบคู่ไปกับอิทธิพลของไบเดน โดยเมื่อประธานาธิบดีแห่งสหรัฐ อยู่เบื้องหลังบางสิ่งบางอย่างแบบจริงๆ เขาก็จะสามารถสร้างแรงจูงใจได้มากมาย
ทั้งนี้ ขณะที่รัฐบาลอิสราเอลกำลังพิจารณาในข้อเสนอดังกล่าวนั้น เหล่าประชาชนอิสราเอลหลายพันคน ได้รีบออกมารวมตัวกัน เพื่อสนับสนุนข้อเสนอของไบเดนทันที โดยประชาชนที่มารวมตัวกัน ได้มีการโบกธงชาติอิสราเอลและสหรัฐ กระจายอยู่ทั่วฝูงชนในจัตุรัสกลาง และพวกเขาได้เรียกร้องไปถึงรัฐบาล ให้ยอมรับข้อตกลงสำหรับการปล่อยตัวประกัน พร้อมระบุว่า ไบเดนใส่ใจตัวประกันของเรามากกว่าเนทันยาฮู แต่เนทันยาฮูใส่ใจแค่ความอยู่รอดทางการเมืองของตัวเองเท่านั้น มีโอกาสสูงมากที่เนทันยาฮูจะทำลายข้อตกลงนี้ เราจึงต้องอาศัยความช่วยเหลือจากต่างประเทศ ทั้งจากไบเดนและผู้นำทั้งหมดของรัฐอาหรับสายกลาง รวมถึงยุโรปด้วย ประชาชนต้องการนำตัวประกันทั้งหมดกลับบ้าน ต้องการหยุดสงคราม และต้องการให้แน่ใจว่า จะมีจุดเริ่มต้นของข้อตกลงที่จะจบลงด้วยการแก้ปัญหาสองรัฐ และข้อตกลงระดับภูมิภาคด้วย
สำหรับแผนดังกล่าวของไบเดนนั้น ได้รับการตอบรับอย่างกว้างขวาง โดยสหประชาชาติและมหาอำนาจระหว่างประเทศอื่นๆ เรียกร้องให้อิสราเอลและฮามาส ยอมรับแผนดังกล่าว ซึ่งฮามาสก็ได้เปิดเผยว่า ทางกลุ่มมองแผนดังกล่าวในเชิงบวก และพร้อมที่จะจัดการอย่างสร้างสรรค์กับข้อเสนอใดๆ ก็ตาม ที่มีพื้นฐานของการหยุดยิงถาวร ขณะที่เนทันยาฮูได้ตอบโต้ทันที ภายใน 1 ชั่วโมง หลังจากที่ไบเดนแถลงออกมา โดยเนทันยาฮูตอบโต้ว่า อิสราเอลจะไม่ยุติสงครามในฉนวนกาซา จนกว่าจะบรรลุเป้าหมายทั้งหมด รวมถึงการทำลายกลุ่มฮามาสด้วย
#บกข่าวทีวี
