ท่ามกลางความตึงเครียดของผู้นำยูเครนและสหรัฐ หลังเซเลนสกีเริ่มไม่พอใจการตัดสินใจหลายอย่างของไบเดน ทางสหรัฐก็พยายามเอาใจยูเครน ด้วยการเตรียมลงนามข้อตกลงความมั่นคงก่อนการประชุมสุดยอดสันติภาพ พร้อมเปิดโรงงานผลิตอาวุธให้ยูเครน
ไฟแนนเชียลไทมส์ สื่อของอังกฤษ รายงานโดยอ้างถึงเจ้าหน้าที่สหรัฐที่ไม่เปิดเผยชื่อว่า ไม่กี่วันก่อนการประชุมสุดยอดสันติภาพจะเริ่มขึ้นในวันที่ 15-16 มิถุนายน ที่สวิตเซอร์แลนด์ ประธานาธิบดีโวโลดิมีร์ เซเลนสกี ของยูเครน และประธานาธิบดีโจ ไบเดนของสหรัฐ จะมีการลงนามข้อตกลงความมั่นคงทวิภาคี โดยจะเป็นการลงนามช่วงนอกรอบการประชุมผู้นำ G-7 ที่จะมีขึ้นที่อิตาลี ในวันที่ 13-15 มิถุนายน
อย่างไรก็ดี ทางไฟแนนเชียลไทมส์ได้ตั้งข้อสังเกตว่า การลงนามที่กำลังจะมีขึ้นนี้ ได้มีการเจรจากันมาเป็นเวลาหลายสัปดาห์ ท่ามกลางความตึงเครียดที่เพิ่มขึ้นระหว่างยูเครนและสหรัฐ โดยเจ้าหน้าที่ระดับสูงของรัฐบาลยูเครน ได้เปิดเผยกับทางไฟแนนเชียลไทมส์ เกี่ยวกับความสัมพันธ์ของสหรัฐและยูเครนว่า ทั้ง 2 ประเทศมีความห่างไกลกันกว่าที่เคยเป็นกันอยู่ นับตั้งแต่สงครามเริ่มต้นขึ้น ซึ่งมันตึงเครียดมาก
สำหรับความไม่พอใจของเซเลนสกีกับไบเดน ได้มีการเปิดเผยชัดเจนมากขึ้น ในการแถลงข่าวของเซเลนสกีช่วงสัปดาห์นี้ โดยเซเลนสกีตำหนิไบเดนว่า ไบเดนมีความตั้งใจที่จะเข้าร่วมงานระดมทุนของพรรคเดโมแครตในแคลิฟอร์เนีย แทนที่จะเป็นการประชุมสุดยอดสันติภาพในสวิตเซอร์แลนด์ นี่ไม่ใช่การตัดสินใจที่แข็งแกร่งเลย ตนคิดว่าการประชุมสุดยอดสันติภาพจำเป็นต้องมีประธานาธิบดีไบเดน เพราะหากไม่มี ไบเดน ก็เหมือนกับเป็นการปรบมือให้ปูติน ทั้งนี้ ทางเจ้าหน้าที่ยูเครนหลายคนได้ระบุว่า ความข้องใจของยูเครน ที่สหรัฐขาดการสนับสนุนในการประชุมสุดยอดสันติภาพที่กำลังจะเกิดขึ้นนี้ ยังถือเป็นเพียงแค่เรื่องหนึ่งในหลายๆเรื่องเท่านั้น
เพราะนอกจากเรื่องนี้ ทางเจ้าหน้าที่ยูเครนทั้งในอดีตและปัจจุบัน รวมถึงนักการทูตของกลุ่มประเทศ G7 ที่อยู่ในยูเครนกว่า 10 คน ได้บอกกับทางไฟแนนเชียลไทมส์ว่า ประเด็นที่ถกเถียงกันของทั้ง 2 ประเทศ มีอยู่หลายประการ ไม่ว่าจะเป็นความล่าช้าของสภาคองเกรส ในการอนุมัติความช่วยเหลือทางทหารของสหรัฐ ที่นานถึง 6 เดือน, การขาดความคืบหน้าอย่างมีนัยสำคัญ เกี่ยวกับการเป็นสมาชิกนาโตของยูเครน, และการที่รัฐบาลไบเดนสั่งห้ามยูเครน ใช้อาวุธสหรัฐโจมตีเข้าไปในดินแดนรัสเซีย ทั้งนี้ สมาชิกหลายคนในรัฐบาลของเซเลนสกีก็เปิดเผยด้วยว่า พวกเขาเริ่มกังวลเกี่ยวกับวิธีที่เซเลนสกีใช้ในการสื่อสารกับสหรัฐแล้ว โดยมีคนตั้งข้อสังเกตว่า เซเลนสกีดูจะมีความหงุดหงิดกับไบเดนเป็นอย่างมาก
อย่างไรก็ดี แม้ผู้นำทั้ง 2 จะมีความตึงเครียดกันอยู่ แต่ในเรื่องความช่วยเหลือทางทหาร สหรัฐยังคงเดินหน้าอย่างต่อเนื่อง เพราะแม้จะยังไม่อนุญาตให้ยูเครน ใช้อาวุธของสหรัฐโจมตีเข้าไปในดินแดนรัสเซีย แต่ทางสหรัฐก็ได้เปิดโรงงานผลิตกระสุนแห่งใหม่ เพื่อรองรับความต้องการอาวุธของยูเครน โดยมุ่งเน้นที่การผลิตกระสุนปืนใหญ่ 155 มม. พร้อมตั้งเป้าหมายที่จะผลิตให้ได้มากถึง 1 แสนนัดต่อเดือน ภายในสิ้นปี 2025
โรงงานแห่งนี้ใช้งบประมาณในการสร้างประมาณ 5 ร้อยล้านดอลล่าร์สหรัฐ ตั้งอยู่ใน รัฐเท็กซัส เป็นโรงงานผลิตอาวุธหลักแห่งแรกของกระทรวงกลาโหมสหรัฐ ที่สร้างขึ้นมานับตั้งแต่เริ่มความขัดแย้งในยูเครน เมื่อเดือนกุมภาพันธ์ 2022 โรงงานแห่งนี้สร้างขึ้นใหม่ทั้งหมดภายในเวลาเพียง 10 เดือน และจะสร้างงานใหม่ได้ 350 ตำแหน่ง โดยได้รับความช่วยเหลือจากผู้ผลิตอาวุธสัญชาติตุรกี
ก่อนหน้านี้ สหรัฐใช้โรงงานกระสุนกองทัพสแครนตัน ในรัฐเพนซิลวาเนีย ที่เคยผลิตกระสุนให้กับสงครามเกาหลี มาเร่งผลิตกระสุนให้ยูเครน และในปัจจุบันโรงงานผลิตกระสุนปืนอีกแห่ง ก็กำลังถูกสร้างขึ้นในเมืองแคมเดน รัฐอาร์คันซอ นอกจากนี้ เพนตากอนก็วางแผนที่จะเปิดสายการผลิตกระสุนแห่งต่อไป ที่โรงงานทหารในรัฐไอโอวา และเปิดโรงงานอีกที่ในบางส่วนของเมืองพาร์สันส์ รัฐแคนซัสด้วยเช่นกัน
#บก.ข่าวทีวี
