logo
X

อังกฤษจะกลับมาเกณฑ์ทหารอีกครั้ง หากซูแน็กชนะเลือกตั้ง

นายกฯอังกฤษให้คำมั่นที่จะกลับมาบังคับใช้ระบบรับใช้ชาติอีกครั้ง ที่รวมถึงการเกณฑ์ทหารด้วย หากพรรคอนุรักษ์นิยมชนะเลือกตั้งในเดือนกรกฎาคม ชี้ เป็นการคืนจิตวิญญาณความรักชาติสู่ประชาชน และป้องกันภัยคุกคามระหว่างประเทศ เช่นจากรัสเซียและจีน

สำนักข่าว BBC รายงานว่า นายกรัฐมนตรีริชี่ ซูแน็ก แห่งสหราชอาณาจักร ให้คำมั่นที่จะกลับมาบังคับใช้ระบบรับใช้ชาติอีกครั้ง หากพรรคอนุรักษ์นิยมยังคงอยู่ในอำนาจรัฐบาล หลังการเลือกตั้งทั่วไป โดยภายใต้โครงการนี้ ซึ่งคาดว่าจะมีค่าใช้จ่ายประมาณ 2.5 พันล้านปอนด์ต่อปี คือการให้เด็กอายุ 18 ปีทุกคน จะต้องเข้าร่วมการเกณฑ์ทหารเป็นเวลา 1 ปี หรือไม่ก็เป็นอาสาสมัครในชุมชนเช่นการช่วยเหลือบริการสุขภาพแห่งชาติ, บริการดับเพลิง,และตำรวจในท้องถิ่น ตลอดจนองค์กรการกุศลสำหรับผู้สูงอายุ ซึ่งจะเฉลี่ยทำงาน 2 วันต่อเดือน โดยจะเป็นการทำงานในวันหยุดเสาร์อาทิตย์

ทั้งนี้ ซูแน็กได้ให้เหตุผลว่า การรับราชการทหารจะช่วยฟื้นฟูจิตวิญญาณของชาติ และมอบโอกาสที่เปลี่ยนแปลงชีวิตให้กับคนรุ่นใหม่ของประเทศ นี่เป็นประเทศที่ยิ่งใหญ่ แต่คนรุ่นใหม่ไม่มีโอกาสหรือประสบการณ์ที่พวกเขาสมควรได้รับ และยังมีกองกำลังที่พยายามแบ่งแยกสังคมของเรา ในโลกที่ไม่แน่นอนนี้ เพิ่มมากขึ้นด้วย ซึ่งตนก็มีแผนที่ชัดเจนในการแก้ไขปัญหานี้และรักษาอนาคตของเรา

ซูแน็กระบุต่อไปว่า ตนจะนำนโยบายรับใช้ชาติรูปแบบใหม่เข้ามา เพื่อสร้างความรู้สึกร่วมกันในหมู่คนรุ่นใหม่ และสร้างความรู้สึกภาคภูมิใจในประเทศของเราขึ้นมาใหม่ด้วย ความเคลื่อนไหวดังกล่าวจะทำให้คนรุ่นใหม่ได้มีโอกาสในการเปลี่ยนแปลงชีวิต เพื่อเรียนรู้ทักษะในโลกแห่งความเป็นจริง ทำสิ่งใหม่ๆ และช่วยเหลือชุมชนรวมถึงประเทศของเรา

สำหรับแผนดังกล่าวนี้ หากพรรคอนุรักษ์นิยมได้รับเลือกอีกครั้ง ในการเลือกตั้งวันที่ 4 กรกฎาคมนี้ ทางพรรคก็จะจัดตั้งคณะกรรมาธิการ โดยนำความเชี่ยวชาญจากทั่วทั้งกองทัพและภาคประชาสังคม มาออกแบบเพื่อสรุปโครงการรับใช้ชาตินี้ และเปิดตัวโครงการนำร่องในเดือนกันยายนปีหน้า หลังจากนั้น ทางพรรคจะพยายามเสนอเป็นพระราชบัญญัตินโยบายรับใช้ชาติฉบับใหม่ เพื่อให้มีมาตรการบังคับใช้ออกมาภายในสิ้นรัฐสภาชุดถัดไป

มีรายงานว่า แผนการรื้นฟื้นนโยบายรับใช้ชาติอีกครั้งนี้ เกิดขึ้นท่ามกลางความกังวลอย่างกว้างขวาง ในแวดวงความมั่นคงเกี่ยวกับความพร้อมทางทหารของอังกฤษ ซึ่งนายแกรนท์ แชปส์ รัฐมนตรีกลาโหมของอังกฤษ ได้เรียกช่วงนี้ว่าเป็นยุคก่อนสงคราม ที่สภาพของทหารในกองทัพอังกฤษนั้น หดตัวลงไปอย่างมาก จากที่มีทหารในปี 2012 ถึง 110,000 นาย แต่ในปี 2023 ได้ลดลงเหลือประมาณ 85,000 นายเท่านั้น ดังนั้น แผนการนี้จึงถูกดำเนินการขึ้นอย่างลับๆ โดยมีเพียงที่ปรึกษาที่ใกล้ชิดที่สุดของซูแน็กเท่านั้น ที่เป็นผู้ทำรายละเอียดออกมาเป็นเอกสารจำนวน 40 หน้า โดยในเอกสารได้ระบุด้วยว่า การขยายกองทัพมีความจำเป็น เมื่อต้องเผชิญกับภัยคุกคามระหว่างประเทศที่เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ที่เกิดจากประเทศต่างๆ เช่น รัสเซียและจีน เป็นต้น

อย่างไรก็ดี เมื่อเรื่องนี้ได้รับการเปิดเผย ไม่กี่ชั่วโมงต่อมา นายเจมส์ เคลเวอร์ลี รัฐมนตรีกระทรวงมหาดไทยก็ออกมายอมรับกับทางสกายนิวส์ว่า ผู้ที่ฝ่าฝืนกฎหมายดังกล่าว จะไม่ถูกตั้งข้อหาทางอาญา และจะไม่มีใครถูกจำคุกในเรื่องนี้ แต่เคลเวอร์ลีก็ยังไม่ได้ให้รายละเอียดใดๆเพิ่มเติมออกมา

ทั้งนี้ ตลอดระยะเวลาของประวัติศาสตร์ 364 ปี กองทัพอังกฤษส่วนใหญ่เป็นกองกำลังอาสาสมัครทั้งหมด แต่ก็มีการนำการเกณฑ์ทหารมาใช้ระหว่างสงครามโลกครั้งที่ 1 และสงครามโลกครั้งที่ 2 แต่นโยบายรับใช้ชาติก็ได้สิ้นสุดลงในปี 1960 และในช่วงไม่กี่ทศวรรษที่ผ่านมา กองทัพอังกฤษก็ได้มีการลดจำนวนทหารลงอย่างมีนัยสำคัญ โดยจำนวนทหารลดลงไปกว่าหนึ่งในสี่ระหว่างช่วงปี 2010 ถึงปี 2024

#บก. ข่าวทีวี

เราใช้ คุ้กกี้ เพื่อให้ทุกคนได้ประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น