logo
X

ร้อง ตร.สอบ ‘โน้ส อุดม’ ทอล์กพอเพียง

“สนธิญา” ร้องผู้บัญชาการตำรวจนครบาล ตรวจสอบเนื้อหาเดี่ยวไมโครโฟน “โน้ส อุดม” ปมพูด “พอเพียง” จี้ตอบชัดพูดพัน “เศรษฐกิจพอเพียง” หรือไม่ หากไม่ใช่เรื่องจบ ชี้มุกตลกเป็นตรรกะอุบาทว์ ด้อยค่าคนอื่นเรียกเสียงฮา ตัวเองได้เงิน วิงวอนเลิกซะ

เมื่อเวลา 10.30 น. วานนี้ (7 พ.ค.67) นายสนธิญา สวัสดี อดีตที่ปรึกษาประธานคณะกรรมาธิการการกฎหมาย การยุติธรรมและสิทธิมนุษยชน สภาผู้แทนราษฎร เดินทางมายื่นหนังสือต่อผู้บัญชาตำรวจนครบาล โดยมี พ.ต.อ.ทิพากร แก้วเปล่ง ผู้กำกับการ ฝ่ายอำนวยการ 3 กองบัญชาตำรวจนครบาล เป็นผู้รับหนังสือ เพื่อให้ตรวจสอบข้อเท็จจริง กรณีการจัดรายการ “เดี่ยวสเปเชี้ยลซูเปอร์ซอฟต์เพาเวอร์ที่ Netflix ที่มีผู้ติดตาม 91 ล้านคน” โดยเฉพาะการพูดถึงเรื่อง “ความพอเพียง” ที่กำลังกลายเป็นกระแสดรามาอยู่ในขณะนี้

โดยขอให้ตรวจสอบว่านายอุดม มีเจตนาพูดพาดพิงไปถึงโครงการพระราชดำริ “เศรษฐกิจพอเพียง” หรือไม่ หากยืนยันว่าไม่ได้พาดพิง ก็คงจบ หากมีการพาดพิง ต้องยอมรับเนื่องจากไม่ได้ชี้แจงรายละเอียดเศรษฐกิจพอเพียงได้อย่างถูกต้อง ชัดเจน แล้วนำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ และประเด็นการนำข้อมูลที่ไม่ถูกต้อง ก็จะเป็นความผิด

นายสนธิญา กล่าวว่า ในวันนี้ตนเองได้นำ “หลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง” ของมูลนิธิปิดทองหลังพระ มาให้ตำรวจประกอบการพิจารณา และวินิจฉัยว่าการพูดเกี่ยวกับเศรษฐกิจพอเพียงนั้น ไม่ตรงกับความเป็นจริง และเป็นเรื่องละเอียดอ่อน ทั้งนี้ขอเรียกร้องไปยังนายอุดม ขอให้เลิกแซะ กร่อน หรือไปด้อยค่าบุคคลใดบุคคลหนึ่งบนเวที แล้วนำไปลงในระบบออนไลน์ ซึ่งผู้ชมสนุกสนานแต่บุคคลอื่นเสียหาย หรือทำให้เกิดความไม่สบายใจขึ้น ขอให้นำเรื่องที่เป็นประโยชน์ไปแสดงให้ประชาชนในการจัดรายการเดี่ยว แทนการพูดด้อยค่าคนอื่น ให้เกิดกระแส

นอกจากนี้ นายสนธิญา ยังตั้งข้อสังเกตว่า นายอุดม ไม่เคยออกมาพูดถึงการเคลื่อนไหวของแกนนำคณะก้าวหน้า หรือพรรคเก้าไกล ซึ่งสิ่งเหล่านี้เป็นการพิสูจน์ว่าการกระทำของนายอุดม ทำเพื่อประโยชน์ของคนไทยทั้งประเทศ หรือทำเพื่อคนกลุ่มหนึ่งกลุ่มใด หรือผลประโยชน์ของตัวเองเป็นที่ตั้ง แต่ทำให้บุคคลอื่นเสียหาย หรือเข้าใจในเรื่องเศรษฐกิจพอเพียงคลาดเคลื่อน ซึ่งมีเรื่องเป็นหมื่นเป็นแสนล้านเรื่องที่สามารถพูดได้บนเวทีโดยไม่จำเป็นต้องไปแตะต้องเศรษฐกิจพอเพียง หรือบุคคลหนึ่งบุคคลใดจะกระทำการใด เพราะเป็นสิทธิ และเสรีภาพที่สามารถกระทำได้ แต่ในกรณีที่มีการไปด่า หรือด้อยค่าแล้วอาจจะมีการพาดพิงถึงเรื่องที่มีความอ่อนไหว จึงเห็นว่าเป็นสิ่งที่นายอุดมจะต้องตอบสังคมให้ชัดเจน หากนายอุดมชัดเจน ตนเองก็ชัดเจน และเรียกร้องในฐานะที่เป็นลูกผู้ชายด้วยกัน

เมื่อถามว่า ยื่นเรื่องแล้วกังวลหรือไม่ หากถูกนายอุดม ฟ้องกลับ กรณีอาจทำให้เกิดความเสียหาย นายสนธิญา กล่าวว่า ตนเองมายื่นเพียงให้ตรวจสอบข้อเท็จจริงเท่านั้น และมีหลายคนออกมาต่อว่านายอุดม แม้จะมีบางคนเห็นด้วยก็เป็นเรื่องปกติของการปกครองในระบอบประชาธิปไตย และนายอุดมก็เป็นบุคคลสาธารณะ อีกทั้งนำเข้าสู่ระบบออนไลน์ ดังนั้น เป็นเรื่องของระบบสาธารณะที่จะต้องทวงถามกันได้ ส่วนจะฟ้องก็ฟ้องไป ซึ่งตนเองเคยทำในกรณีดารา Call Out ได้ยื่นฟ้องตนเอง แต่อัยการสูงสุดสั่งไม่ฟ้อง และตนเองจะฟ้องกลับ หากตนเองไม่ผิด

นายสนธิญา ยังกล่าวติดตลกว่า “อย่าลืมนะครับ ผมมีหมายจับเกือบทุกอาทิตย์ ซึ่งผมก็ไม่ได้กลัว เพราะผมทำในเรื่องที่ถูกต้อง และอย่างอาทิตย์ที่แล้ว ศาลท่านก็ยกเลิกหมายจับผม” ดังนั้นการทำงานเหล่านี้ผมทำงานเพื่อสังคม และตรวจสอบผมได้ตลอดเวลา ผมจึงไม่ได้กลัว และคุณจะฟ้องก็ฟ้องมา แต่ผมเอาเรื่องจริงมาทวงถาม ว่าที่คุณพูดหมายรวมถึงนโยบายหลักใหญ่ของประเทศที่ประชาชนเข้าใจไปว่าคุณพูดรวมไปถึงตรงนั้นด้วย หากคุณตอบว่าไม่ใช่ ก็จะเป็นข้อดีของคุณโน้ส ทุกอย่างก็จบ แต่ถ้าคุณตอบว่าใช่ รวมถึงเศรษฐกิจพอเพียง ก็จะเป็นเรื่องใหญ่ก็เท่านั้นเอง คุณตอบว่าใช่ หรือไม่ใช่ ถ้าคุณตอบว่า ไม่ใช่ผมเองก็ไม่ระรานคุณ ถ้าคุณตอบว่าใช่ ผมก็ร้องตำรวจให้ดำเนินการตามกระบวนการต่อไป

ด้าน พ.ต.อ.ทิพากร ภายหลังรับหนังสือว่าจะส่งเรื่องนี้ให้เจ้าหน้าที่เกี่ยวข้องไปตีความ และตรวจสอบเนื้อหาว่ามีส่วนใดเสียหาย หรือผิดพลาดบ้าง หลังจากนี้ ก็จะส่งความคืบหน้ากลับไปให้ทราบ

สำหรับนายสนธิญา เคยยื่นหนังสือให้ตรวจสอบเนื้อหาการเดี่ยวไมโครโฟน 13 ที่มีการพูดพาดพิงพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ในขณะนั้น หลายประเด็นเมื่อปี 2565 ซึ่งหลังจากพลเอกประยุทธ์ ได้พ้นจากตำแหน่งนายกรัฐมนตรี และดำรงตำแหน่งองคมนตรีแล้ว นายสนธิญา ได้ถอนเรื่องดังกล่าวออกไป

#โน้สอุดม #สนธิญา #นักร้องมาแล้ว #เดี่ยวสเปเชี้ยลซูเปอร์ซอฟต์เพาเวอร์ที่ #Netflix #เดี่ยวไมโครโฟน #ความพอเพียง #ท็อปนิวส์ #TopNews

อัปเดตคลิปข่าว

เราใช้ คุ้กกี้ เพื่อให้ทุกคนได้ประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น