X

เจ้าของผับ เปิดหน้าแฉ จนท.ปกครอง เรียกรับส่วยสถานบันเทิง

เจ้าของผับดัง เมืองย่าโม แฉยับ จนท.ฝ่ายปกครอง เรียกรับส่วยสถานบันเทิง เจ้าตัวอ้างแค่ยืมเงิน เจ้าของผับโต้ทันควันไม่เคยให้ยืม ลั่นเดินหน้าเอาผิดให้ถึงที่สุด พร้อมโชว์หลักฐานการโอนเงิน ขณะผู้ว่าฯ โคราช ร้อน สั่งสอบข้อเท็จจริงด่วน ยัน ผิดว่าไปตามผิด

เมื่อวันที่ 26 เม.ย.67 นายพิชิตชัย อายุ 43ปี ผู้ประกอบการสถานบันเทิงแห่งหนึ่งในเขต อ.เมือง จ.นครราชสีมา นำหลักฐานยื่นหนังสือร้องเรียนต่อผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา ให้ตรวจสอบการปฏิบัติงานของ จนท.ฝ่ายปกครอง หัวหน้าชุดจัดระเบียบสังคม ที่สั่งระงับกลางอากาศการจัดงานคอนเสิร์ตของศิลปินดังไม่ให้ขึ้นเวทีทำการแสดง ภายในร้าน เมื่อช่วง 4 ทุ่ม วันที่ 19 เมษายน ที่ผ่านมา สร้างความเสียหายมูลค่า 3 แสนบาท

เหตุการณ์ครั้งนี้ทำให้เจ้าของร้าน ถูกดำเนินคดีข้อหาไม่มีใบอนุญาตจำหน่ายสุรา และข้อหาปล่อยให้เด็กอายุไม่ถึง 20 ปี จำนวน 3 คน เข้าไปใช้บริการ โดยวันดังกล่าวมีการเผชิญหน้ากันเล็กน้อย แต่ไม่มีเหตุการณ์วุ่นวายบานปลายใดๆ

ขณะที่ นายพิชิตชัย ได้แสดงเอกสารหลักฐานมาแสดง ระบุว่า ทางร้านมีใบอนุญาตประกอบกิจการสถานบันเทิง และใบอนุญาตจำหน่ายสุราอย่างถูกต้อง แต่ยังถูกสั่งปิด และถูกดำเนินคดี ซึ่งทำให้ทางร้านได้รับความเสียหาย จึงมีการออกมาตั้งคำถามว่า ปฏิบัติการดังกล่าว เป็นการปฏิบัติหน้าที่ที่ถูกต้อง หรือชอบด้วยกฎหมายหรือไม่

นอกจากนี้ นายพิชิตชัย ยังมีหลักฐานเจ้าหน้าที่เรียกรับผลประโยชน์จากทางร้าน ทั้งขอสนับสนุนเงินและเครื่องดื่ม ทางร้านจำยอมโอนเงินให้ไปหลายครั้ง ตั้งแต่ช่วงเดือนตุลาคม 2565 จนถึงตุลาคม 2566 มีการโอนเข้าบัญชีของหัวหน้าชุดเอง ครั้งละ 3,000บาท 5,000บาท 10,000บาท และ15,000บาท เป็นเงินรวมมากกว่า 30,000 บาท มีหลักฐานการโอนเงินชัดเจน โดยมีข้อความแชทในไลน์ระบุ “ขออนุเคราะห์สนับสนุนงบเลี้ยงทีมงานป้องกันที่เขาใหญ่ ปากช่อง ด้วยครับ” พร้อมส่งเลขบัญชี และมีหลักฐานสลิปการโอนเงินด้วย จึงอยากให้ทางจังหวัดตั้งคณะกรรมการสอบข้อเท็จจริง และขอให้ย้ายหัวหน้าชุดผู้ถูกกล่าวหาไปปฏิบัติหน้าที่ที่อื่นในระหว่างการสอบสวน

ขณะที่ นายนิสิต วงศ์หทัย ป้องกันจังหวัดนครราชสีมา หัวหน้าชุดฝ่ายปกครอง ซึ่งเป็นผู้ถูกกล่าวหา ได้ออกมาปฏิเสธอย่างทันควร ยืนยันว่า เป็นการปฏิบัติหน้าที่ตามกฎหมาย ส่วนกรณีกล่าวหาว่าเรียกรับผลประโยชน์ ขอปฏิเสธว่าไม่เป็นความจริง ไม่มีการเรียกรับเงินแต่อย่างใด เป็นการยืมเงินจากคนที่รู้จักกัน เหมือนพี่น้องกัน น่าจะเคยยืมเงินแค่ครั้งสองครั้ง การกล่าวหาแบบนี้น่าจะมีมูลเหตุมาจากความขุ่นข้องหมองใจ เพราะว่าร้านเคยทำผิดกฎหมาย และเคยถูกสั่งปิดมาแล้ว

ต่อมา นายพิชิตชัย เจ้าของร้าน ได้ออกมาตอบโต้ว่า ไม่เคยให้หัวหน้าชุดฝ่ายปกครองยืมเงินแต่อย่างใด ไม่เคยพูดคุยเรื่องการยืมเงิน ยืนยัน จะเดินหน้าร้องเรียนต่อกระทรวงมหาดไทย สำนักนายกรัฐมนตรี และหน่วยงานอื่นที่เกี่ยวข้อง เพื่อดำเนินการเอาผิดเจ้าหน้าที่รัฐให้ถึงที่สุด ที่ออกมาแฉเรื่องนี้ เพราะอยากให้สะท้อนให้เห็นเจ้าหน้าที่รัฐใช้อำนาจจนลืมความเดือดร้อนของประชาชน

ขณะเดียวกัน นายชัยวัฒน์ ชื่นโกสุม ผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา ออกมระบุว่า เรื่องที่เกิดขึ้นทางจังหวัดได้รับเรื่องร้องเรียนแล้ว และสั่งการให้ปลัดจังหวัดซึ่งเป็นหน่วยงานผู้บังคับบัญชาชั้นต้นโดยตรงสอบสวนข้อเท็จจริงอย่างเร่งด่วน สิ่งใดที่ขัดต่อกฎหมายก็ต้องดำเนินการ ผิดว่าไปตามผิด โดยเฉพาะเรื่องการรับส่วย รับสินบน ต้องตรวจสอบข้อเท็จจริง หากทำถูกต้องตามกฎหมาย ก็ต้องให้ความเป็นธรรม หากใครทำผิด ก็ต้องได้รับโทษทั้งทางวินัยและอาญา ซึ่งคาดว่า จะใช้เวลาในการสอบไม่นานน่าจะสรุปผลได้ ไม่น่ามีอะไรสลับซับซ้อน

สุดท้ายแล้วเรื่องนี้จะจบลงอย่างไร สถานบันเทิงทำผิดจริงหรือไม่ มีการจ่ายส่วยจริงหรือเปล่า หรือจะเป็นการโอนเงินยืมอย่างที่ จนท.กล่าวอ้าง ผลการตั้งกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริงจะเป็นประชาชนอย่างเราต้องจับตาดูกันต่อไป

#ผับ #สถานบันเทิง #โคราช #ส่วย #เรียกรับส่วย #จ่ายส่วย #แฉ #บก.ข่าวทีวี

คลิปเด่นประจำวัน

เราใช้ คุ้กกี้ เพื่อให้ทุกคนได้ประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น