นาทีชีวิต ชายวัย 62 ปี โหมงานหนักขับรถข้ามจังหวัดไปทำงาน เหนื่อยล้า เกิดอาการวูบชนสนั่นร้านขายรถจักรยานยนต์ กวาดเรียบ 9 คัน เสียหายกว่า 5 แสนบาท
ภาพจากกล้องวงจรปิดจากร้านบีบีจีมอเตอร์ร้านขายรถจักรยานยนต์ จับภาพนาทีรถเก๋งเสียหลักพุ่งเข้ามาชนรถจักรยานยนต์ในร้านขณะที่พนักงาน และลูกค้า รวม 4 คน กำลังส่งรถให้ลูกค้า และกำลังเช็ครถ โดยรถเก๋งคันเกิดเหตุพุ่งเข้ามาอย่างแรงเฉียด น.ส.อโณทัย นาคสวัสดิ์ 36 ปี พนักงานร้าน ไปนิดเดียว ขณะที่ นายสุภัทร กลางสกุล พนักงานร้านซึ่งกำลังเช็ครถอยู่ต้องกระโดดหนี แต่ไม่ทันแรงชนทำให้รถจักรยานยนต์มากระแทกนายสุภัทร ได้รับบาดเจ็บ โดยเหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้น เมื่อช่วงเย็นของวันที่ 22 เม.ย.ที่ผ่านมา บริเวณริมถนนบายพาสขาเข้ากรุงเทพ ต.ลาดใหญ่ อ.เมือง จ.สมุทรสงคราม
เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองสมุทรสงคราม เข้าตรวจสอบเหตุ โดยร้านดังกล่าว เป็นร้านขายรถจักรยานยนต์มือสอง พบรถเก๋งสีบร์อน ยี่ห้อโตโยต้า โคโรน่า ทะเบียน กค-700 สมุทรสาคร พุ่งชนเข้าไปในร้าน สภาพด้านหน้าพังยับเยิน มีนายสหัส สิทธิรุ่ง อายุ 62 ปี ชาวต.บางกุ้ง อ.บางคนที จ.สมุทรสงคราม ได้รับบาดเจ็บสาหัส ถูกนำตัวส่งโรงพยาบาลสมเด็จพระพุทธเลิศหล้า
นอกจากนี้ยังมีรถยนต์ได้รับความเสียหายอีก 1 คัน คือรถปิกอัพสีเทา ยี่ห้อมิสซูบิตชิ ทะเบียน บฉ-6072 สมุทรสงคราม และรถจักรยานยนต์ที่ตั้งขายหน้าร้านได้รับความเสียหายอีกรวม 7 คัน และมีผู้บาดเจ็บเล็กน้อยอีก 2 คน คือ นายสุภัทร กลางสกุล อายุ 46 ปี เป็นพนักงานร้านบีบีจีมอเตอร์ / และ นายพรชัย คำศิริ อายุ 63 ปี ถูกนำตัวส่ง รพ.สมเด็จพระพุทธเลิศหล้า
นายสุภัทร เล่านาทีเฉียดตายว่า ขณะที่กำลังตรวจสอบรถให้ไฟแนนท์ถ่ายรูป จู่ๆได้ยินเสียงเอี๊ยดดังสนั่น จึงรีบถอยหลังจะหลบ แต่ไม่พ้น แรงชนทำให้รถจักรยานยนต์กระเด็นมากระแทกใส่ตน ทำให้ได้รับบาดเจ็บบริเวณต้นขา วินาทีนั้นตกใจมากทำอะไรไม่ถูก หากไม่วิ่งหนีก็คงโดนอัดก๊อปปี้กับเสาเหล็กป้ายเสียชีวิตไปแล้ว
น.ส.อโณทัย พนักงานอีกคน เล่าว่า ขณะที่ตนกำลังเข็นรถมาส่งลูกค้าบริเวณห้าร้าน จู่ๆ ก็มีรถคันก่อเหตุเฉียดตนไปนิดเดียว ตนตกใจมาก เพราะไม่ทันมอง หากชนเข้ามาบริเวณที่ตนยืนอยู่คงเสียชีวิตไปแล้ว
จากการสอบสวนเบื้องต้นทราบว่า นายสหัส ขับรถเก๋งคันเกิดเหตุออกจากบ้านพักที่ ต.บางกุ้ง อ.บางคนที จ.สมุทรสงคราม มุ่งหน้าไปทำงานที่ จ.สมุทรสาคร มาถึงที่เกิดเหตุเกิดวูบ เสียหลักจนเกิดอุบัติเหตุดังกล่าว เจ้าหน้าที่จึงให้นายสหัสเป่าเครื่องวัดปริมาณแอลกอฮอล์พบว่าเป็นศูนย์
เบื้องต้นสันนิษฐานว่า นายสหัส อาจจะเหนื่อยล้าจากการทำงาน ประกอบกับอายุมากถึง 62 ปี จนทำให้เกิดอาการวูบก็เป็นได้ ซึ่งเจ้าหน้าที่จะสอบสวนหาสาเหตุที่แท้จริงต่อไป ส่วนค่าเสียหายทั้งหมดกว่า 5 แสนบาท โชคดีนายสหัสทำประกันรถยนต์ไว้ ซึ่งจะติดต่อบริษัทประกันภัยมารับผิดชอบค่าเสียหายต่อไป
