X

ผู้นำจีน-รัสเซีย คุยย้ำสัมพันธ์ หลังทรัมป์เพิ่งรับตำแหน่ง

ผู้นำจีน-รัสเซีย คุยย้ำสัมพันธ์ หลังทรัมป์เพิ่งรับตำแหน่ง

สี จิ้นผิงและปูติน ผู้นำจีนและรัสเซีย คุยย้ำสัมพันธ์ที่มีต่อกัน พร้อมหารือการสร้างสัมพันธ์กับสหรัฐในยุคของทรัมป์รวมถึงประเด็นยูเครนและไต้หวันด้วย

ประธานาธิบดีสี จิ้นผิงของจีน และประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูตินของรัสเซีย ต่อสายพูดคุยกันผ่านวิดิโอคอลนานกว่า 1 ชั่วโมง 35 นาที หลังจากที่ประธานาธิบดีโดนัล ทรัมป์ ของสหรัฐ เพิ่งเข้ารับตำแหน่ง โดยผู้นำทั้ง 2 ได้เสนอให้กระชับความสัมพันธ์เชิงยุทธศาสตร์ให้ลึกซึ้งยิ่งขึ้น ระหว่างทั้ง 2 ประเทศ ซึ่งเป็นสิ่งที่ฝ่ายตะวันตกกังวล ทั้งนี้ จีนและรัสเซียได้เคยประกาศความร่วมมือแบบไร้ขีดจำกัดมาแล้ว ตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์ 2022 พร้อมกับที่ต่างฝ่ายก็เรียกอีกฝ่ายว่า พันธมิตร และในการพูดคุยกันครั้งนี้ ทั้ง 2 ต่างเรียกกันและกันว่า เพื่อนรัก

สำหรับการสนทนากันนั้น สีและปูตินเน้นย้ำถึงข้อดีของความร่วมมือระหว่างกัน เพราะมีความเชื่อมโยงกันด้วยความเคารพ และมีเป้าหมายร่วมกัน นอกจากนี้ สียังกล่าวเสริมด้วยว่า จีนหวังที่จะยกระดับความสัมพันธ์กับรัสเซียขึ้นอีกระดับในปี 2025 โดยจะยืนหยัดร่วมกันในการต่อสู้กับความไม่แน่นอนภายนอก ที่ขึ้นอยู่กับการรักษาเสถียรภาพ และความยืดหยุ่นในการรับมือกับความตึงเครียด

สำหรับสีและปูตินนั้น ต่างก็มีมุมมองโลกที่กว้าง โดยมองว่าชาติตะวันตก กำลังเสื่อมโทรมและกำลังถดถอย ในขณะที่จีนกำลังท้าทายอำนาจสูงสุดของสหรัฐในหลายๆด้าน ซึ่งปูตินก็ได้กล่าวด้วยว่า เรามีความสนับสนุนร่วมกันในการสร้างระเบียบโลกที่มีหลายขั้ว ที่ยุติธรรมยิ่งขึ้น และเรากำลังดำเนินการเพื่อผลประโยชน์ในการประกันความมั่นคงที่แยกจากกันไม่ได้ ในพื้นที่ยูเรเซีย และในโลกโดยรวม

ด้านยูริ อูชาคอฟ ผู้ช่วยด้านนโยบายต่างประเทศของรัสเซีย ก็ได้กล่าวกับผู้สื่อข่าวว่า การสนทนาทางวิดีโอระหว่างปูตินและสี จิ้นผิง ได้รับการวางแผนไว้ก่อนที่ทรัมป์ จะเข้ารับตำแหน่ง ซึ่งในการพูดคุยกันนั้น ผู้นำทั้ง 2 ต่างแสดงความเต็มใจที่จะสร้างความสัมพันธ์กับสหรัฐ บนพื้นฐานของผลประโยชน์ร่วมกัน และเคารพซึ่งกันและกัน หากทีมของทรัมป์แสดงความสนใจในเรื่องนี้จริงๆ นอกจากนี้ รัสเซียก็พร้อมที่จะเจรจากับรัฐบาลสหรัฐชุดใหม่ เกี่ยวกับความขัดแย้งในยูเครนด้วย

อูชารอฟกล่าวต่อว่า สำหรับในเรื่องการสร้างสันติภาพนั้น รัสเซียต้องการสันติภาพแบบระยะยาวกับยูเครน ไม่ใช่การหยุดยิงระยะสั้น แต่ข้อตกลงใดๆ ก็ตาม จะต้องคำนึงถึงผลประโยชน์ของรัสเซียด้วย ซึ่งตอนนี้ก็ยังไม่มีข้อเสนอที่ชัดเจน สำหรับการโทรศัพท์หารือกับทรัมป์ ส่วนในเรื่องไต้หวันนั้น รัสเซียก็ได้ยืนยันถึงจุดยืนที่มั่นคง ในการสนับสนุนหลักการจีนเดียว

ทั้งนี้ สหรัฐนั้นได้ถือว่าจีน เป็นคู่แข่งที่ใหญ่ที่สุด และรัสเซีย เป็นภัยคุกคามต่อชาติรัฐที่ใหญ่ที่สุด ซึ่งทรัมป์ก็ได้กล่าวในการปราศรัยหลังรับตำแหน่งว่า จะเข้มงวดกับจีนและพูดคุยกับปูตินเกี่ยวกับการยุติสงครามในยูเครน ซึ่งปูตินควรทำข้อตกลงเพื่อยุติสงครามได้แล้ว เนื่องจากความขัดแย้งกำลังทำลายล้างรัสเซีย

#บก.ข่าวทีวี

เราใช้ คุ้กกี้ เพื่อให้ทุกคนได้ประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น