ครอบครัวช่างแต่งหน้าชื่อดังชาวเวียดนามที่เป็นหนึ่งในผู้เสียชีวิต 6 ศพในโรงแรมหรูย่านราชประสงค์ของไทยรู้สึกตกใจหลังทราบข่าวจากเพื่อนๆลูก
เว็ปไซต์เวียดนาม เอ็กซ์เพรส อินเทอร์แนชั่นเนิล (Vietnam Express International) รายงานเมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมาว่า (พุธที่ 17 กค.) นางตุยวัย 58 ปีซึ่งเป็นแม่ของนายดิญ ทราน ฟู วัย 37 ปี ช่างแต่งหน้าชื่อดังชาวเวียดนาม และเป็น 1 ใน 6 ผู้เสียชีวิตภายในห้องพักในโรงแรมแกรนด์ ไฮแอท เอราวัณ ได้ให้สัมภาษณ์สื่อท้องถิ่นในวันนี้บอกว่าทุกคนในครอบครัวรู้สึกช็อคอย่างมากหลังจากได้รับข่าวร้ายเมื่อคืนที่ผ่านมาจากเพื่อนๆและเพื่อนร่วมงานของลูกชาย
แม่ของดิญเผยความรู้สึกว่า หลังจากที่ได้อ่านข่าวและรายละเอียดที่ตำรวจไทยโพสต์ผ่านออนไลน์ เธอและพ่อของดิญตกใจมากและแทบยอมรับไม่ได้เลยที่ลูกชายต้องมาเสียชีวิตที่ประเทศไทย นางตุยเล่าว่าดิญได้บอกพ่อแม่ว่าเขาจะเดินทางไปทำงานที่เมืองไทย 3 วันแต่ไม่ได้บอกรายละเอียดว่าไปกับใครบ้าง จากนั้นดิญก็เดินทางออกจากบ้านที่ดานังในวันศุกร์และบอกว่าจะกลับวันอาทิตย์ แต่พอถึงเที่ยงวันอาทิตย์ พ่อของดิญโทรไปหาลูกชายเพื่อยืนยันเวลากลับบ้าน เพื่อที่จะรอรับลูกชาย แต่ดิญบอกว่างานยังไม่เสร็จและเปลี่ยนวันกลับไปเป็นวันรุ่งขึ้นคือวันจันทร์แทน จากนั้นก็ไม่ได้ติดต่อกลับมาอีก จนกระทั่งได้รับข่าวร้ายจากเพื่อนลูกชาย//ดิญ ใชัชื่อบัญชีเฟสบุ้คว่าฟู เกีย เกีย ทำงานเป็นช่างแต่งหน้ามานานเกือบ 20 ปี เคยแต่งหน้าให้กับเซเลบมากมาย รวมทั้งร่วมงานกับบริษัทประกวดนางงามหลายเวที//หลังเกิดเหตุเมื่อค่ำวานนี้ นายฟาม เวียด ฮง เอกอัครราชทูตเวียดนามประจำประเทศไทยได้เดินทางไปยังโรงแรมเอราวัณ โดยกล่าวว่าสถานทูตเวียดนามจะประสานงานกับเจ้าหน้าที่ไทยเพื่อรับทราบคืบหน้าการสืบสวนสอบสวน และจะทำทุกอย่างตามความจำเป็นเพื่อปกป้องพลเมืองเวียดนาม
ล่าสุดวันนี้ 17 กรกฎาคม 2567 ตำรวจตั้งโต๊ะแถลงคลายปม 6 ศพ เปิดไทม์ไลน์นักท่องเที่ยวชาวเวียดนาม เชื่อว่าหนึ่งในนั้นเป็นผู้ลงมือวางยาสารไซยาไนด์ในกระติกน้ำร้อน //พล.ต.ต.นพศิลป์ พูลสวัสดิ์ รองผบช.น.และ หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง แถลงความคืบหน้ากรณีพบศพชาวต่างชาติ 6 ราย เสียชีวิตในโรงแรมย่านราชประสงค์ โดย พล.ต.ต.นพศิลป์ ได้ชี้แจงรายละเอียดการเดินทางเข้าประเทศไทยของผู้เสียชีวิตทั้ง 6 รายโดยละเอียด พบว่า มีการเดินทางเข้ามาครั้งแรกตั้งแต่วันที่ 12 กรกฎาคม เดินทางมาจากโฮจิมินห์ จากนั้นบุคคลที่เหลือได้ทยอยเดินทางเข้ามาและแยกย้ายกันเข้าห้องพัก โดยทุกคนเป็นผู้เช็คอินด้วยตนเองไม่มีบุคคลภายนอกเข้าไปในและยืนยันว่ามีผู้เข้าพักทั้งหมด 6 คน ทั้งนี้ จากการสอบถามพนักงานในโรงแรมยืนยันว่า ในวันที่ 15 กรกฎาคม ผู้เข้าพักในห้อง 502 ได้สั่งอาหารจำนวนหนึ่ง คือ ข้าวผัด 5 จาน ต้มยำกุ้ง 4 จาน ผัดผักรวมสี่ ผัดผักบุ้งหนึ่งจาน และชา 2 กระติกพร้อมแก้วน้ำชาหกใบ หลังตากนั้นได้สั่ง อาหารเพิ่มรอบที่สองคือ ข้าวผัดเพิ่มเติมอีกหนึ่งจาน และกำชับให้นำมาส่งที่ห้องในเวลา 14.00 น. โดยพนักงานโรงแรมได้นำอาหารชุดแรกเข้าไปส่งที่ห้องในเวลา 13.51 น. โดยนำอาหารใส่ในถัง พร้อมด้วยชุดชาแก้วน้ำร้อน วางไว้บนโต๊ะภายในห้อง และพบผู้หญิงคนหนึ่ง (หมายเลข 5) อยู่ภายในห้องเพียงคนเดียวเป็นผู้รับอาหาร ซึ่งพนักงานได้เสนอจะชงชาให้แต่ผู้หญิงคนดังกล่าวปฏิเสธ แจ้งว่าจะทำเอง พนักงานจึงได้ออกจากห้อง ล่วงเวลาที่อยู่ในห้องทั้งหมดประมาณ 6 นาที
ยืนยันว่า หลังจากเวลา 13.57 น. ในห้องที่เกิดเหตุมีผู้หญิง (หมายเลข 5) อยู่เพียงคนเดียว หลังจากนั้นผู้เสียชีวิตอื่นๆได้ทยอยนำกระเป๋ามาไว้ที่ห้องดังกล่าวเพื่อเตรียมเช็คเอาท์ และได้เข้าไปในห้องในเวลาประมาณ 14:17 น. หลังจากนั้น ภาพจากกล้องวงจรปิดไม่พบว่ามีผู้ใดเดินออกมาจากห้องอีก ซึ่งผลการตรวจสอบสาร เบื้องต้นพบว่าในถ้วยชาทั้ง 6 ใบมีสารไซยาไนด์ จึงเชื่อว่า 1 ใน6 ของผู้เสียชีวิตเป็นผู้ลงมือก่อเหตุ โดยใช้สารดังกล่าวแต่จะนำเข้ามาหรือซื้อในประเทศไทยนั้นอยู่ระหว่างการตรวจสอบ ขณะนี้ทางนิติเวชอยู่ระหว่างรอผลชันสูตรพลิกศพอย่าละเอียด รวมถึงผลการพิสูจน์หลักฐานในที่เกิดเหตุ และลายนิ้วมือดีเอ็นเอคาดว่าจะทราบผลในช่วงบ่ายวันนี้ ได้ประสานสถานทูตสหรัฐอเมริกาและสถานทูตเวียดนาม และฝ่ายความมั่นคงของเวียดนามตรวจสอบข้อมูลของผู้เสียชีวิตทั้งหกรายแล้ว ทั้งนี้ จากการสอบถามข้อมูลจากญาติทราบว่า ในกลุ่มผู้เสียชีวิตมีผู้ที่เป็นสามีภรรยาประกอบธุรกิจรับเหมาก่อสร้างถนนในประเทศเวียดนามซึ่งได้ ร่วมลงทุน สร้างโรงพยาบาลในประเทศญี่ปุ่น คิดเป็นเงินไทยมูลค่าประมาณ 10 ล้านบาท ตามที่ผู้หญิงหมายเลข 5 ได้ชักชวน แต่ไม่มีความคืบหน้า ซึ่งที่ผ่านมามีการทวงถามอยู่ตลอด ก่อนหน้านี้จึงได้มีการนัดหมายให้ไปเคลียร์กันที่ประเทศญี่ปุ่นแต่ติดขัดเรื่องการขอวีซ่าจึงเปลี่ยนมาเป็นประเทศไทย วันนี้จะสอบปากคำญาติ 3-4 คนเพิ่มเติม ด้าน พล.ต.ต.นพศิลป์ ยืนยันว่า เหตุที่เกิดขึ้นเป็นเรื่องส่วนบุคคล ของผู้เสียชีวิตทั้ง 6 รายไม่เกี่ยวข้องกับองค์กรอาชญากรรมหรือแก๊งต่างๆที่เลือกมาก่อเหตุในประเทศไทยและขอยืนยันว่าสำนักงานตำรวจแห่งชาติพร้อมดูแลความปลอดภัยชีวิตและทรัพย์สินของนักท่องเที่ยวในไทย
#บกข่าวทีวี #6ศพ #ดับรวม #โรงแรมหรู #ราชประสงค์ #ยาพิษ