ข่าวที่น่าสนใจ
แม้ต่อมา ทนายความทักษิณ พลิกเกมสู้คดี ขอความเป็นธรรมต่ออัยการว่า มีการข่มขู่เจ้าหน้าที่ระหว่างสอบสวนดำเนินคดี112 เซียนกฎหมายและคอการเมืองต่างฟันธงล่วงหน้าว่า อัยการสูงสุด น่าจะให้ความเป็นธรรมตามข้ออ้างหรือยืนยันนำจำเลยฟ้องศาล ในวันที่ 18 มิถุนายนนี้ ส่วน “ทักษิณ” จะได้ประกันตัวหรือไม่ ต้องไปลุ้นกันหน้าบัลลังก์!?
เพราะมีความเป็นไปได้ยากว่า อัยการสูงสุด เมื่อสั่งฟ้องไปแล้วจะกลับลำ เหมือนเขียนด้วยมือแล้วจะลบด้วยเท้าได้อย่างไร จึงไม่แปลก “ตระกูล วินิจนัยภาค” อดีตอัยการสูงสุดที่ถูกพาดพิง ออกมาย้ำตะปูตอกฝาโลงคดี 112 ของ “ทักษิณ” ว่า คำสั่งชี้ขาดให้ฟ้องคดีของอธิบดีกรมอัยการเป็นอันถึงที่สุด พนักงานอัยการต้องฟ้องไปตามนั้น เขย่าขวัญ ผบ.สูงสุด “เพื่อไทย” จะกล้ามาศาลในวันที่ 18 มิถุนายนนี้หรือไม่
เช่นเดียวกับคดี “เศรษฐา ทวีสิน” นายกรัฐมนตรี ที่พลาดท่าไปเซ็นแต่งตั้ง “พิชิต ชื่นบาน” อดีตรัฐมนตรีมีตำหนิ หวานหมู “40สว.” ชงเรื่องให้ “ศาลรัฐธรรมนูญ” ถอดถอนเพราะฝ่าฝืนมาตรฐานจริยธรรมตามรัฐธรรมนูญหรือไม่ ? วงในแย้มพรายข้อต่อสู้ว่า ทีมทนายความ “นายกฯเศรษฐา” ที่มี “อาจารย์วิษณุ เครืองาม” เซียนเหยียบเมฆกฎหมายไทย นั่งหัวโต๊ะ อาจพลิกเกมกลับมาได้เปรียบด้วยการโต้แย้งว่า “40สว.” ไม่มีอำนาจตามกฎหมาย เป็นแค่เพียง “สว.”รักษาการณ์ เพราะขณะนี้กำลังคัดเลือก สว.ชุดใหม่
แต่หากข้อต่อสู้ของทีมทนายความ “นายกฯเศรษฐา” แป้ก! ขนาดยืมมือปรามาจารย์ “วิษณุ” ยังเอาไม่อยู่! หาก “ศาลรัฐธรรมนูญ” ทุบเปรี้ยงพิจารณาให้ “นายกฯเศรษฐา” พ้นจากตำแหน่งนายกรัฐมนตรี งานเข้า! ผบ.สูงสุด “เพื่อไทย” ต้องกุมขมับ จะไปเอาใครมาเป็นนายกฯสำรองในช่วงนี้ คอการเมืองพากันวิเคราะห์ไปต่าง ๆ นา ๆ ว่า อาจมี 3 ทางไฟท์บังคับ
1.เสี่ยงดัน “อุ๊งอิ๊ง” แพทองธาร ชินวัตร ลูกสาวคนโปรดของ “ทักษิณ” ขึ้นแท่นเป็นนายกฯสำรองในฐานะ 1 ใน 3 แคนดิเดตนายกรัฐมนตรี เพราะ “ชัยเกษม นิติศิริ” หมดสภาพมีปัญหาโรครุมเร้า แต่ “เพื่อไทย” ยังเกาะเกี่ยวกับ พรรคร่วมรัฐบาลเดิมต่อไป
2.ส้มหล่น “อนุทิน ชาญวีรกูล” หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย ในฐานะพรรคที่มีคะแนนเป็นลำดับถัดมา ซึ่งทางเลือกนี้ตีบตันมาก ผบ.สูงสุด “เพื่อไทย” คงไม่อยากให้อำนาจ ฝ่ายบริหารหลุดมือ
หรือ 3. ผลัก “พลังประชารัฐ” และ “รวมไทยสร้างชาติ” ออกไป แล้วดึง “ก้าวไกล” เข้ามาเสียบแทน ยิ่งมีข่าว ผบ.สูงสุด “เพื่อไทย” ทิ้งบอมบ์ใส่ “คนบ้านป่า” นั้นคือ “ลุงป้อม” พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ เหน็บแนม “ลุงป้อม” ว่าเป็นคนบ้านป่า สร้างความวุ่นวายทางการเมือง เพราะมีคอนเนคชั่นกับ “40สว.” ตัวการเลื่อยขาเก้าอี้ “นายกฯเศรษฐา”
ทั้งยังบึ้มชุดใหญ่ใส่คณะรักษาความสงบแห่งชาติ หรือ “คสช.” ที่มี “บิ๊กตู่” พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา หัวหน้าคณะ คสช. ที่กุมอำนาจรัฐในขณะนั้น ว่าถูกยัดข้อหาคดี 112 จึงงัดวาทกรรม “ต้นไม้มีพิษ ย่อมให้ผลไม้ที่มีพิษ” ถล่มรัฐประหาร ปี 2557 เป็นคำพูดเดียวกันที่เคยถล่ม รัฐประหาร ปี 2549 ยุค “บิ๊กบัง” พลเอก สนธิ บุญยรัตกลิน โค่นอำนาจรัฐบาลยุค”ทักษิณ” ในตอนนั้น
ตอกย้ำชัด “นายใหญ่เพื่อไทย” ฉุนกึก 2 ป. ป. ประวิตร เก็บตัวเงียบอยู่ “บ้านป่ารอยต่อ” สวมบทเตมีย์ใบ้ ไม่ตอบโต้ “ทักษิณ” กับ ป.ประยุทธ์ อดีตแคนดิเดตนายกรัฐมนตรี “รวมไทยสร้างชาติ” ปัจจุบันวางมือทางการเมืองไปเป็นองคมนตรี แต่ยังมีอิทธิฤทธิ์ทางการเมืองอยู่
การเคลื่อนไหวของ ผบ.เพื่อไทย แฝงนัยการเมืองใดกันแน่ ทำให้คอการเมืองตีความไปกันใหญ่ ว่าเป็นการประกาศท้ารบ 2 ป.ไม่พอใจที่โดนคดี 112 เสี่ยงขาแหย่คุก และ ขู่เพื่อส่งสัญญาณ พร้อมตีจากรัฐบาลสลายขั้ว หาก“นายกฯเศรษฐา” ต้องกระเด็นตกเก้าอี้
ดังนั้นการเมืองหลังวันที่ 18 มิถุนายน จึงอลม่านเข้าขั้นวิกฤต ถึงว่าทำให้ตลาดหุ้นร่วงต่ำสุดในรอบหลายปี เขย่าขวัญนักลงทุนจากปัญหาอุปสรรคในการสรรหานายกรัฐมนตรีคนใหม่แทน “นายกฯเศรษฐา” ใครจะเป็นนายกรัฐมนตรีคนต่อไป และ โฉมหน้ารัฐบาลใหม่ จะยังคงหน้าเดิม “รัฐบาลสลายขั้ว” หรือ “รัฐบาลสลับขั้ว” ที่มี “ก้าวไกล” เข้ามาร่วมแจม หักดีลสลับขั้วเปลี่ยนรัฐบาล ต้องไปถาม นายใหญ่เพื่อไทย ใจกล้าแค่ไหน!?
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
