ลุงเป็นหนี้ 20 ล้าน ดีใจ หลังขึ้นโรงพักท่าตะเกียบ นายอำเภอผู้นำท้องถิ่นร่วมหาแนวทางสามารถตรวจสอบนำ ลุงเข้า ธกส.เบิกเงินผู้สูงอายุเดือนละ 600 ลุงยิ้มบอกผู้สื่อข่าวว่าจะขอนำเงินที่รอคอยมา 4 ปีไปนอนกอด1 คืนก่อนจะนำไปซื้อข้าวหุงกิน

ขณะที่นายอำนวย เกษตรสินธุ์นุกูล นายอำเภอท่าตะเกียบ ได้ตั้งข้อสังเกตเชิงสงสัยว่า ลุงบุญยืน เป็นชาวบ้านธรรมดา จริงๆ หน่วยงานก่อนจะอายัดบัญชี น่าจะมีการตรวจสอบเส้นทางการเงิน และยิ่งเมื่อทราบว่านายทุนมาหลอกให้ลุงเปิดบัญชีจนเกิดเป็นคดีระหว่างกรมสรรพกร กับลุงบุญยืน วงเงินกว่า20 ล้านบาท ทำให้รัฐฯ ได้รับความเสียหาย ควรจะไปตรวจสอบติดตามนายทุนหรือไม่ ซึ่งทาง พ.ต.อ.ชัยวัฒน์ โลหะเวช ผู้กำกับสถานีตำรวจภูธรท่าตะเกียบ ก็รับเรื่อง ตามคำบอกเล่าที่พูดมาจากลุงบุญยืนว่า เมื่อเกือบ20ปี ถูกนางแข ที่มีอายุน้อยกว่าตนประมาณ 3 ปี เป็นคนภาคเหนือหลอกให้เป็นบัญชีที่ อ.นายาอาม จ.จันทบุรี และเคยไปเซ็นเบิกเงินให้นางแขยอดสูงสุดคือครั้งละ 5 ล้าน ตนก็ได้ค่าไปเซ็นเบิกในฐานนะเจ้าของบัญชีได้เงินครั้งละ 200-300 บาทเท่านั้น

หลังจากประชุมได้ข้อสรุปที่โรงพักท่าตะเกียบ ธกส.จะปลดล็อคตั้งเบิกเงินเบี้ยผู้สูงอายุให้ ส่วนทางคดีท่านนายอำเภอท่าตะเกียบ ก็บอกว่าต้องเป็นไปตามกฎหมาย โดยทางปลัดฝ่ายความมั่นคงท่าตะเกียบจะเป็นธุระในเรื่องประสานขั้นตอนขึ้นพบศาลนัดแรก จากนั้นนายอำนวย เกษตรสินธุ์นุกูล นายอำเภอท่าตะเกียบ ก็พาลุงบุญยืน จูมลี เดินทางเข้า ธกส.ท่าตะเกียบ เพื่อเบิกเงินตามสิทธิ มีรองผู้จัดการ ธกส.ท่าตะเกียบ มาดูแลตามขั้นตอน ลุงบุญยืน ยิ้มเปิดใจกับผู้สื่อข่าวว่า ดีใจมากรอคอยเงินผู้สูงอายุมาถึง 4 ปี คืนนี้หลังจากเบิกเป็นเงินจำนวน 4000 จากยอดสะสมจริง 2 หมื่นกว่าบาท ตนจะนำไปนอนกอด 1 คืน และจะไปซื้อเตาแก๊ส เพราะลำบากเหลือเกินที่ต้องก่อไฟเตาถ่านหุงข้าว