“สุทิน” เผยโควตานร.นายสิบปี 67 เพิ่ม 50-60 เปอร์เซ็นต์ มั่นใจพลทหารชุดใหม่จะปลอดภัย

"สุทิน" เผยโควตานร.นายสิบปี 67 เพิ่ม 50-60 เปอร์เซ็นต์ มั่นใจพลทหารชุดใหม่จะปลอดภัย

Top news รายงาน วันที่ 24พ.ค.67 เวลา 11.00 น.ที่กรมต่อสู้อากาศยาน รักษาพระองค์ หน่วยบัญชาการอากาศโยธิน นายสุทิน คลังแสง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม เปิดเผยหลังตรวจเยี่ยมการฝึกทหารใหม่ ในส่วนกองทัพอากาศ ว่า วันนี้ตนอยากมาดู หลังจากที่คิดว่าจะต้องปรับเกณฑ์ทหารรูปแบบใหม่ เปลี่ยนจากการฝึกมาเป็นพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ ซึ่งวันนี้ต้องการมาดูว่ามีกระบวนการพัฒนาทรัพยากรมนุษย์อย่างที่ตนอยากเห็นหรือไม่ ซึ่งตนเห็นการเปลี่ยนแปลงพลทหารเด็ก ไม่น่าเชื่อว่าเข้ามาอยู่เพียง 2 สัปดาห์เปลี่ยนจากพลเรือนเป็นทหารได้เร็วมาก ตนดูทั้งวินัย ความพร้อม และร่างกาย และแอคชั่น เหมือนเป็นทหารมานาน

 

ข่าวที่น่าสนใจ

นายสุทิน กล่าวว่า ถือเป็นความภูมิใจที่ได้เห็นทหารเกณฑ์เหล่านี้เปลี่ยนจากจากพลเรือนมาเป็นทหารอย่างที่กองทัพต้องการได้ ส่วนประการที่ 2 ได้เห็นว่าครูฝึกมีประสิทธิภาพ รวมทั้งเห็นกระบวนการฝึกที่จัดไว้ให้พลทหารอย่างดี หลังจากนี้เหลือด้านอื่น ๆ ที่จะต้องไปดู อาทิ ด้านความเป็นอยู่ กระบวนการพัฒนา ความรู้ และจิตสำนึก ซึ่งตนอยากให้ผู้ปกครองมาเห็นลูกหลานว่า 2-3 เดือนที่ผ่านมา จากอยู่แถวหน้าเวทีหมอลำ “ซึ่งยังก๊องแก๊งอยู่” หากมาเห็นลูกในตอนนี้ จะภูมิใจลูก และตนในฐานะที่เป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ก็รู้สึกภูมิใจที่จะได้เห็นทรัพยากรมนุษย์ที่ดีกลับไปสู่สังคม

 

 

ส่วนจะมีการส่งเสริมให้เป็นทหารกองประจำการหรือไม่ นายสุทิน กล่าวว่า ส่งเสริมอยู่แล้ว 1.เรื่องโควตา สิทธิ์ที่จะให้พลทหารเป็นนายสิบ แต่เดิมโควต้ามีน้อยนิดเดียว ปี 2567 นี้ขึ้นมา 50-60 เปอร์เซ็นต์ และตนได้รับฟังแนวคิดจากทางกองทัพว่าอาจจะเพิ่มเป็น 100% ก็ได้ หากพลทหารมีคุณภาพ ก็สามารถส่งต่อให้เป็นนักเรียนนายสิบ ตนเชื่อว่า น่าจะได้นายสิบที่ดี เพื่อประหยัดงบประมาณในการฝึก และนำไปส่งเสริมพลทหารเด็กให้มีความก้าวหน้าและได้กำลังที่มีคุณภาพ เพื่อให้เกิดแรงจูงใจ ทำให้ชายไทยเข้ามาสมัครเป็นทหารเกณฑ์ เพราะว่าจะทำให้เด็กรุ่นใหม่ได้เห็นความจริงจากกองทัพว่าได้ดูแลทหารเกณฑ์ในรุ่นนี้เป็นอย่างดีจากเดิมที่มีเฉพาะเรื่องของการประชาสัมพันธ์เป็นส่วนใหญ่ หลังจากนี้ก็จะเห็นภาพจริงมากขึ้น

 

นายสุทิน กล่าวว่า ที่สำคัญ วันนี้ ตนมากำชับกับผู้บังคับบัญชาว่า 1.เรื่องชีวิตความเป็นอยู่ต้องดี และมีคุณภาพเรื่องการอยู่ การกิน การนอน หรือ “กินอิ่มนอนอุ่น” หากทำได้ เชื่อว่าจะมีผลต่อการสมัครของพลทหารใหม่ในปี 68 ตนพอใจกับกองทัพอากาศ และหลายเรื่อง เป็นมาตรการเดียวกันกับกองทัพบก และกองทัพเรือ เช่น การดูแลสุขภาพเด็ก และมีกระบวนการให้ฝึกปฐมพยาบาลด้วย ซึ่งเชื่อมั่นได้ว่าพลทหารชุดใหม่จะปลอดภัย

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ข่าวล่าสุด

"จตุพร" เรียกร้องรัฐบาล รับผิดชอบปมชายแดนไทย-กัมพูชา หลังสูญเสียทหาร-ปชช. "พิชิต" แท็กทีม จี้ "นายกฯอิ๊งค์" พิจารณาตัว คุย "ฮุน เซน" คลิปเสียงหลุด
"ผอ.พยาบาลรามาฯ" โพสต์ประกาศ พร้อมรับลูกนายทหารสละชีพ เรียนพยาบาลโควตาพิเศษ ไม่ต้องสอบเข้า
"ผู้ว่าฯร.ฟ.ท." ยันตรวจสอบชัดเจน ปมเขากระโดง รออธิบดีกรมที่ดินคนใหม่เพิกถอนโฉนด
"รมว.ปุ๋ง" รุดให้กำลังใจผู้อพยพ เหตุปะทะชายแดนไทย–กัมพูชา ที่ศูนย์พักพิงโคราช กำชับเจ้าหน้าที่เพิ่มดูแลกลุ่มเปราะบาง พร้อมช่วยฟื้นฟูสภาพจิตใจ
วธ. จัดพิธีปล่อยขบวนรถศาสนิกสัมพันธ์ร่วมใจ ช่วยผู้ประสบอุทกภัย-ผู้ได้รับผลกระทบ เหตุความไม่สงบชายแดนไทย-กัมพูชา
"GULF" มอบเงิน 18 ล้าน หนุน รพ.จุฬาฯ จัดหาเทคโนโลยีส่องกล้องทำลายเนื้องอกตับอ่อนไร้แผล ให้สำเร็จเป็นแห่งแรกในอาเซียน

ดู LIVE รายการ

เราใช้ คุ้กกี้ เพื่อให้ทุกคนได้ประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น​