logo

ชาวสวนผลไม้ในจังหวัดจันทบุรีเดือดร้อนหนักต้องซื้อน้ำเพื่อประคองผลผลิตและต้นทุเรียนให้รอดพ้นฤดูแล้งบางสวนต้องเสียเงินจ่ายสูงถึง 5 แสนต่อปี

นี่คือภาพบริเวณ สะพานคลองโตนด ตำบลทุ่งเบญจา อำเภอท่าใหม่ จะมีรถบรรทุกน้ำขนาดใหญ่ (10 ล้อ) บรรทุกถังน้ำขนาดความจุ ประมาณ 18,000 ลิตร มาดูดน้ำจากสถานที่แห่งนี้วันนึงจำนวนกว่า 40 คัน ดูดคันละประมาณ 5-6 เที่ยวต่อคัน และมีรถบริเวณนี้ทั้งหมด 45 คัน มีหัวหน้าทีมเป็นชาวจังหวัดชลบุรี รถทั้งหมดที่อยู่บริเวณบริเวณนี้เดินทางมาจากจังหวัดชลบุรีทั้งหมด โดยจะคิดค่าขนส่งน้ำเที่ยวละประมาณ 1,500 จนถึง 2,000 บาท แล้วแต่ระยะทางใกล้ไกล ซึ่งรถบรรทุกน้ำแต่ละคันจะต้องเสียค่าใช้จ่าย ในการดูดน้ำ 200 บาทต่อ 1 เที่ยวต่อคัน
โดยจุดมุ่งหมายที่จะต้องเดินทางไปส่งในแต่ละวันช่วงนี้จะต้องเดินทางไปในพื้นที่ หมู่7 และ หมู่ 14 ตำบลทุ่งเบญจา อำเภอท่าใหม่ และบริเวณใกล้เคียงในโซนช่วงวัดเขาสุกิม

สำหรับเกษตรกรที่ประสบปัญหาภัยแล้งในช่วงนี้ยอมรับว่า ปีนี้หนักกว่าทุกครั้งที่ผ่านมา เนื่องจากสถานการณ์ที่ผ่านมามีบางปีไม่ต้องเสียเงินซื้อน้ำ โดยแต่ละสวนก็จะท่องประคองต้นทุเรียนของตนเองให้อยู่ได้ เนื่องจากจะต้องเก็บเกี่ยวผลผลิต ถ้าหากปล่อยให้ต้นขาดน้ำทุเรียนก็จะตาย และสลัดลูกทิ้ง ทำให้เกิดปัญหาใหญ่

ชาวสวน 1 นางสาวรติรัตน์ ใจกล้ารวีกิตติ์ อายุ 45 ปี หมู่14 ต.ทุ่งเบญจา อ.ท่าใหม่
ให้ข้อมูลว่า ตนเองได้รับความเดือดร้อนมาก โดยทำการซื้อน้ำมาแล้วปีนี้ เป็นปีที่4 ส่วนปีนี้ถือว่าหนักพอสมควร สำหรับปีนี้ได้ซื้อน้ำเข้าสวนแล้วทั้งหมด 3 วันละ 3 – 5 เที่ยว โดยจะแบ่งกับส่วนข้างเคียง ส่วนข้างเคียงซื้อเข้าวันละ 10 เที่ยว สำหรับในการซื้อน้ำแต่ละครั้งตนเองหมดเงินไม่ต่ำกว่า 1 แสน บาท

ข่าวที่น่าสนใจ

ชาวสวน 2 ทางด้านนายมานะ ชนะสิทธิ์
ก็ให้ข้อมูลสอดคล้องเช่นกัน แต่ฝากข้อความถึงผู้บริหารจังหวัดด้วยว่า
ตนเองอยากให้ผู้ว่าฯประกาศภัยแล้ง และให้หน่วยงานจาก ปภ. และชลประทาน ช่วยนำเครื่องสูบน้ำมาช่วยชาวสวน เนื่องจากเป็นหน่วยงานที่รับผิดชอบเรื่องภัยแล้งแต่ยังไม่เห็นมีหน่วยงานไหนเข้ามาช่วยเหลือประชาชนเลย ขณะนี้ชาวบ้านต้องลงทุนทั้งเครื่องสูบน้ำ ทั้งรถบรรทุกน้ำ เสียค่าใช้จ่ายการซื้อน้ำแต่ละเที่ยวตั้งแต่ 1,500 บาทจนถึง 2,000 บาท แล้วแต่ระยะทางใกล้ไกล บางสวนใช้มากถึงวันละ 20 เที่ยว ชาวบ้านที่ซื้อน้อยสุดก็ต้องมีอย่างน้อยวันละ 2 เที่ยว ชาวบ้านบางส่วนต้องจ่ายมากถึง 5 แสนบาทต่อปีก็มี โดยพื้นที่นี้จะเดือดร้อนสุดก็คือ หมู่7 และหมู่ 14 ตำบลทุ่งเบญจา

เจ้าของรถบรรทุกน้ำ นายนพพร อินทมาพลอย ป๋าหว่อง อายุ 53 (สวมหมวก เสื้อลาย) ชาวจังหวัดชลบุรี
กล่าวว่า รถที่อยู่ในบริเวณนี้ทั้งหมดประมาณ 40 กว่าคัน ทีมงานรถบรรทุกน้ำทั้งหมด ก็เดินทางมาจากจังหวัดชลบุรีเช่นกัน สำหรับตนเองตอนนี้คิดค่าส่งน้ำเที่ยวละ 1,800 บาท แต่จะต้องมาเสียค่าน้ำเที่ยวละ 200 ต่อเที่ยว ยังไม่หักค่าน้ำมัน โดยชาวสวนต้องการใช้น้ำเป็นอย่างมาก ขั้นต่ำต้องใช้สวนละ 5 ถึง 10 เที่ยวต่อวัน โดยตนเองมาทำการวิ่งน้ำที่นี่ได้ประมาณ 1 อาทิตย์แล้ว

 

สมเศียรโชติสนิท ผู้สื่อข่าวประจำจังหวัดจันทบุรี

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ข่าวล่าสุด

สุดยิ่งใหญ่อลังการ ประมวลภาพ “Bangkok Pride Festival 2024” คนไทย-ต่างชาติร่วมแสนเดินขบวนสะบัดธงไพรด์สีรุ้ง
"นายกฯ" พร้อมผลักดันควายไทยเป็น Soft Power สร้างรายได้เกษตรกร​
พ่อ-แม่ เศร้าลูกหนีไปเล่นน้ำตก สุดท้ายจมน้ำเสียชีวิต
ผบช.ภ.1 แถลงรวบ “โฟโต้” มือฆ่าหมกคอนโดฯ สารภาพ ปมขัดแย้งธุรกิจ
"ผู้ช่วยครูสาว" ร้องสายไหมต้องรอด ถูกเจ้าแม่เงินกู้ดอกโหด บุกตบถ่ายคลิปประจาน ผวากลับมาทำร้ายซ้ำ
สุดคึกคัก "นายกฯ" ควง "อุ๊งอิ๊ง” สวมเสื้อสีรุ้ง ร่วมขบวนพาเหรด Pride Festival 2024 ชาว LGBTQIAN+ ต้อนรับแน่น
รวบตัว "หนุ่มรับจ้างทำความสะอาด" ขโมยเงิน นทท.ญี่ปุ่น อ้างเอาไปผ่อนรถเพราะกลัวโดนยึด
สอบสวนกลาง ร่วม FBI ทลายองค์กรอาชญากรรมไซเบอร์ระดับโลก โจมตีระบบองค์การใหญ่ เสียหายกว่า 190 ประเทศ
ข่าวดี "พิพัฒน์" แจ้งรับสมัครคนไทย ทำงานบนเครื่องบิน "คาเธ่ย์ แปซิฟิค" 400 อัตรา สวัสดิการจัดเต็ม
"วราวุธ" สยบข่าว หลังลือหนัก พม. จ่อเลิกจ้างพนักงานราชการ

ดู LIVE รายการ

X

เราใช้ คุ้กกี้ เพื่อให้ทุกคนได้ประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น