แม่ “เก็ท โสภณ” ตัดพ้อ เหมือนชีวิตติดคุก วันครอบครัวปีนี้ไม่มีลูกอยู่ด้วย ลั่นพร้อมให้กำลังใจสู้คดี 112

แม่ “เก็ท โสภณ” ตัดพ้อ เหมือนชีวิตติดคุก วันครอบครัวปีนี้ไม่มีลูกอยู่ด้วย ลั่นพร้อมให้กำลังใจสู้คดี 112

แม่ “เก็ท โสภณ” ตัดพ้อ เหมือนชีวิตติดคุก วันครอบครัวปีนี้ไม่มีลูกอยู่ด้วย ลั่นพร้อมให้กำลังใจสู้คดี 112  Top News รายงาน

 

 

เก็ท โสภณ

ข่าวที่น่าสนใจ

14 เม.ย.2567 เพจเฟซบุ๊กศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชน ได้โพสต์ภาพพร้อมข้อความระบุว่า วันครอบครัวปีนี้ ไม่มี ‘ลูก’ อยู่ด้วย  โดยแม่เพชรลดาของ ‘เก็ท – โสภณ’

บ้านของ “เก็ท” โสภณ สุรฤทธิ์ธำรง เป็นครอบครัวใหญ่ที่แสนอบอุ่น มีปู่ ย่า พ่อ แม่ เก็ท น้อง และสัตว์เลี้ยงสี่ขาทั้งสุนัขและแมวนับสิบตัว

 

 

 


ภาพถ่ายที่ทุกคนเห็น เก็ทกำลังรดน้ำขอพรจากพ่อและแม่ในวันสงกรานต์ปีหนึ่ง ซึ่งเป็นปีที่เก็ทเพิ่งจะเรียนจบชั้นมัธยมปลายได้ไม่กี่เดือน แม่เพชรลดาเล่าว่าแทบจะทุกเทศกาลเก็ทจะอยู่ทำกิจกรรมกับครอบครัวก่อนเสมอ โดยเฉพาะวันสงกรานต์ที่ทุกคนในครอบครัวจะได้อยู่ทานข้าวพร้อมหน้ากันทุกปี เก็ทและน้องก็มักจะมารดน้ำขอพรทั้งจากคุณพ่อ คุณแม่ คุณปู่ และคุณย่า ช่วงหนึ่งแม่เอ่ยปากชมลูกตัวเองว่าเป็นเด็กที่น่ารัก ขี้เกรงใจ และรักครอบครัวมาก ๆ

“สงกรานต์กับปีใหม่เป็นเทศกาลที่เราจะอยู่พร้อมหน้ากับทั้งครอบครัว” แม่บอก

 

“สงกรานต์หลายปีมานี้ ส่วนมากแล้วพวกเราจะไปเที่ยวทะเลกัน ทะเลจันทบุรี ระยอง พัทยา บางครั้งก็ไปปีนเขาที่ต่างจังหวัด ไม่ก็ไปบ้านคุณยายที่นครสวรรค์”

 

แม่บอกว่าเก็ทชอบเที่ยวทะเล ไม่ชอบเที่ยวน้ำตก ถ้าไม่ไปทะเลก็จะไปปีนเขา แต่แม่ก็จะขอร้องเก็ทว่าถ้าอยากจะไปปีนเขาให้ไปช่วงปีใหม่ดีกว่า เพราะอากาศไม่ได้ร้อนมากเท่าช่วงเดือนเมษายน

 

“เราชอบไปทะเลกัน แต่ไม่ได้มีใครชอบเล่นน้ำหรอก (หัวเราะ)

 

“ส่วนใหญ่เราไปทานข้าวซะมากกว่า พาหมาไปเที่ยวด้วย
เพราะเก็ทเลี้ยงหมา เขาชอบพาหมาไปเดินทะเล ไปเดินน้ำตก ไปเปลี่ยนบรรยากาศ”

 

ทุกครั้งที่ไปเที่ยว เก็ทและครอบครัวต้องพาสุนัขทั้ง 3 ตัวของบ้านไปด้วยตลอด ตัวแรกชื่อ ‘มิ้ว’ อายุกว่า 18 ปีได้ และเพิ่งจากในช่วง 1 สัปดาห์เศษนี้เอง

 

ตัวที่สองชื่อ ‘คัพเค้ก’ ตัวที่สามชื่อ ‘จีโน่’ สองตัวนี้ครอบครัวเก็ทรับเลี้ยงจากคนที่เจอกันในม็อบ เพราะเจ้าของเดิมเลี้ยงต่อไม่ไหว และก่อนเก็ทจะเข้าเรือนจำไม่กี่วันเขารับเลี้ยงสุนัขอีกตัวหนึ่งชื่อว่า ‘โอเลี้ยง’

 

แม่เล่าย้อนความถึงสงกรานต์ปีก่อนให้ฟังว่า “ปีที่แล้วไปทะเลจังหวัดจันทบุรี ส่วนปีนี้ตอนแรกเราวางแผนกันไว้ว่าจะไปเที่ยวจันทบุรีอีก แล้วก็จะเหมาเรือนั่งไปกับหมาอีกเหมือนเดิม ไปเที่ยวป่าโกงกาง เพราะเขาให้เอาหมาเข้าไปได้”

 

แต่ทริปหยุดยาวปีนี้ต้องถูกพับเก็บไปก่อนอย่างจำใจ และถึงปีนี้จะไม่ได้ไปทะเลด้วยกันแล้ว แต่แม่กับพ่อก็บอกว่าจะคอยอยู่กับเก็ทไม่ห่างเหมือนเดิม โดยแม่ตั้งใจจะไปร่วมกิจกรรม ‘ยืน หยุด ขัง’ ที่ด้านหน้าเรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ ตลอดช่วงวันหยุดยาวสงกรานต์นี้

 

ก่อนเรือนจำจะปิดทำการในช่วงวันหยุดยาว เรือนจำได้เปิดให้ญาติสั่งซื้อเมนูอาหารพิเศษที่มีเปิดขายเฉพาะช่วงเทศกาลสำคัญเท่านั้น โดยต้องสั่งล่วงหน้านานถึง 1-2 สัปดาห์ และผู้ต้องขังจะได้รับในวันที่ระบุไว้ในช่วงเทศกาลสงกรานต์

 

แม่เพชรลดาเองก็สั่งจองเมนูพิเศษล่วงหน้าไว้ให้กับเก็ทและเพื่อน ๆ แล้วเช่นกัน เป็นเมนูเนื้อแดดเดียว ปลากะพงทอดน้ำปลา เป็ดย่าง กุ้งเผา แม่แอบบ่นให้ฟังว่าราคาแต่ละเมนูค่อนข้างแพงใช้ได้ทีเดียว อย่างกุ้งเผาขายออเดอร์ละ 300 บาท โดยไม่ได้บอกว่ามีปริมาณเท่าไหร่ หรืออย่างเป็ดย่างก็ราคาสูงถึง 490 บาท ซึ่งเรือนจำก็ไม่ได้ระบุน้ำหนักหรือปริมาณในใบสั่งซื้อล่วงหน้าเช่นกัน

 

จนถึงตอนนี้นานเกือบ 8 เดือนแล้วที่เก็ทต้องอยู่ในเรือนจำ ด้วยคดีมาตรา 112 ตั้งแต่วันที่ 24 ส.ค. 2566

 

8 เดือนที่ผ่านมาเป็นยังไงบ้าง?

 

“คุณพ่อกับคุณแม่ก็เหมือน ‘ติดคุก’ อยู่กับเก็ทเลยจ้ะ
เหมือนว่าบ้านเราตอนนี้กลายเป็น ‘เรือนจำ’ ด้วยอีกที่หนึ่ง”

 

หลังจากเก็ทหวนเข้าเรือนจำอีกครั้งเป็นหนที่ 2 นอกจากการทำงานในช่วงกลางวันและนอนหลับในช่วงกลางคืนแล้ว กิจวัตรประจำวันอีกอย่างหนึ่งที่สำคัญของพ่อกับแม่ คือ การเดินทางไปที่เรือนจำเพื่อหยิบ ‘บัตรคิว’ ตั้งแต่เช้ามืดและเข้าเยี่ยมเก็ทในช่วงเช้า อย่างน้อยสัปดาห์ละ 2 วัน

 

“เราแบ่งคิวเยี่ยมเก็ทกันว่า จันทร์กับพุธจะเป็นพ่อกับแม่ ส่วนอังคาร พฤหัส ศุกร์ จะเป็นของเพื่อน ๆ เก็ท ถ้าวันไหนเป็นเวรครอบครัว แม่ก็จะต้องไปรับคิวที่เรือนจำตั้งแต่ตี 2 ตี 3 แล้วพอตอนตี 5 ก็จะต้องหย่อนบัตรคิว

 

“ไปถึงเรือนจำตอนตี 2 ตี 3 แล้วไม่ใช่ว่าหยิบบัตรคิวเสร็จจะนอนรอในรถสบายได้เลยนะ ได้บัตรคิวแล้วแม่ก็ต้องไปนั่งรอกับพื้นแสดงตัวเป็นคิวแรกเลย ถ้าไม่อย่างนั้นก็จะโดนแซงคิว”

ที่เรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ เปิดให้ญาติเข้าเยี่ยมผู้ต้องขังได้ 2 ช่วง ช่วงเช้าตั้งแต่ 8 โมงเป็นต้นไป ช่วงที่สองเป็นช่วงบ่าย เหตุที่พ่อกับแม่ของเก็ทต้องไปเยี่ยมในรอบเช้า เพราะหลังเยี่ยมเก็ทเสร็จแล้วในช่วงเกือบ 9 โมงเช้า ทั้งสองก็ต้องรีบกลับไปทำงานต่อให้ทันเวลาเข้างาน ในเวลาประมาณ 09.30 น.

 

“เราไปเรือนจำจนเจ้าหน้าที่จำเราได้ (หัวเราะ)
เขาก็จะแซวว่า ‘เก็ทแม่มานอนกับเก็ทแล้วนะเนี่ย, แม่มารอตั้งแต่ตี 1 พี่มาเข้ากะตี 5 พี่เห็นแม่เก็ทนอนอยู่กับหมา’ วันไหนถึงจะไม่ใช่เวรที่พ่อกับแม่ต้องไปเยี่ยม แต่ถ้าแม่ว่างก็จะแวะไปเรือนจำตลอด ไปแวะดูหน้าน้องเก็ทผ่านกระจกตอนเพื่อนเขาเข้าไปเยี่ยม

“เราก็ลำบากอยู่ เราก็บอกลูกว่าให้เขาสู้เนอะ สู้ไปด้วยกัน”

 

 

 

 

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ข่าวล่าสุด

“ปลัด สธ.” สั่งสกัด "ไข้หวัดนก" ชายแดน ระบาดในกัมพูชา พบผู้ป่วยรายที่ 7 ย้ำปชช.เลี่ยงสัมผัสสัตว์ปีกป่วยตายผิดปกติ
"DSI" คุมตัว 8 ผู้ต้องหา ฝากขังศาลอาญา คดีลอบขนไอซ์ 2.4 ตัน ซุกเรือท่องเที่ยวส่งออกต่างประเทศ
ตร.ไซเบอร์ เตรียมส่งสำนวนคดี “มินนี่” ให้อัยการเดือน ก.ค.นี้
แคร์บิวครองใจ Gen Z! เด็กขอนแก่นแน่นซุ้ม อยากลอง ใช้ดี คุณภาพสมราคา
"สมศักดิ์" ชี้คุมกัญชา ทำตามนโยบายรัฐ ปัดเกมการเมือง หลังภท.พ้นรบ. ลั่นไว้สู้กันในสภา
"ศ.ดร.เกรียงศักดิ์" เสนอ ยุทธศาสตร์ Total Wellness ในการประชุม ICGW 2025 รับมือกับโลกผู้สูงวัย ขับเคลื่อนการพัฒนาสุขสภาพรอบด้าน
"ธนดล" นำทัพกรมส่งเสริมสหกรณ์ กรมตรวจบัญชีสหกรณ์ เข้าฟังผลตรวจสอบตามข้อร้องเรียนของสหกรณ์ออมทรัพย์ครูขอนแก่น จำกัด
เมียนมาประกาศเลือกตั้งธันวาคมนี้
ปปช.ลงพื้นที่ ติดตามคืบหน้าสนามกีฬาภาคตะวันออก หลังสร้างมาราธอนยาวนาน 15 ปี
"กกล.สุรนารี" เปิดจุดผ่านแดน ให้ครอบครัวเด็กแรกเกิดกลับกัมพูชา ตามหลักมนุษยธรรม

ดู LIVE รายการ

X

เราใช้ คุ้กกี้ เพื่อให้ทุกคนได้ประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น