AFP รายงานโดยอ้างแถลงการณ์ของกระทรวงต่างประเทศเมียนมาที่ตีพิมพ์ในหนังสือพิมพ์โกลเบิล นิว ไลท์ ออฟ เมียนมา (Global New Light of Myanmar) ในวันนี้ (อังคารที่ 9 เมย.) โดยโจมตีสหประชาชาติว่ากล่าวหาเมียนมาฝ่ายเดียวว่าละเมิดสิทธิมนุษยชน จากกรณีที่คณะมนตรีสิทธิมนุษยชนของยูเอ็นรับรองมติเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมากล่าวหาว่ามีการละเมิดสิทธิมนุษยชนอย่างเป็นระบบอย่างน่าตกใจในเมียนมา พร้อมกับวิพากษ์วิจารณ์รัฐบาลทหารเมียนมาว่ามีความพยายามขัดขวางการช่วยเหลือด้านมนุษยธรรม ทำให้วิกฤตด้านมนุษยธรรมในเมียนมายิ่งเลวร้ายลงไปอีก พร้อมเผยข้อมูลว่าขณะนี้มีผุ้พลัดถิ่นในเมียนมาแล้วมากกว่า 2.5 ล้านคน
ทั้งนี้แถลงการณ์ของกระทรวงต่างประเทศเมียนมาออกมาตอบโต้ว่าเป็นข้อกล่าวหาข้างเดียว นอกจากนี้ยูเอ็นก็ไม่มีหลักฐานการละเมิดสิทธิมนุษยชนของกองทัพเมียนมา ดังนั้นเมียนมาจึงขอปฏิเสธมติดังกล่าว
แถลงการณ์ของเมียนมายังระบุต่อว่ายูเอ็นไม่มีการติดต่อสื่อสารหรือแจ้งมายังรัฐบาลเมียนมาอย่างเป็นทางการกรณีที่นายอันโตนิโอ กูเตเรส เลขาธิการยูเอ็นได้ประกาศแต่งตั้งนางจูลี่ บิชอป อดีตรัฐมนตรีต่างประเทศออสเตรเลียเป็นผู้แทนพิเศษยูเอ็นประจำเมียนมาคนใหม่เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว เพื่อมาแทนนางโนลีน เฮย์เซอร์ นักสังคมวิทยาชาวสิงคโปร์ที่พ้นตำแหน่งไปตั้งแต่กลางปีที่แล้ว
AFP รายงานว่ารัฐบาลทหารเมียนมาไม่พอใจยูเอ็นและอาเซียนที่พยายามบีบบังคับให้รัฐบาลทหารเจรจากับฝ่ายตรงข้ามที่นำโดยนางอองซาน ซูจี โดยเมื่อ 2 ปีที่แล้วเฮย์เซอร์เดินทางพบหารือกับรัฐบาลทหาร แต่ถูกปฏิเสธไม่ให้พบกับซูจี ทำให้เฮเซอร์ประกาศว่าจะไม่กลับมาเมียนมาอีกจนกว่าจะได้รับอนุญาตให้พบกับซูจี