นิการากัวร้อง ICJ หยุดยอรมนีค้าอาวุธให้อิสราเอล

นิการากัวส่งคำร้องต่อศาลโลก ให้สั่งระงับเยอรมนี จากการขายอาวุธให้อิสราเอล โดยเยอรมนี ถือเป็นประเทศส่งออกอาวุธที่สำคัญรองจากสหรัฐ แต่เรียกร้องได้ง่ายกว่า เพราะเยอรมนีให้ขอบเขตกับศาลโลกเต็มที่

ที่ศาลยุติธรรมระหว่างประเทศ (หรือ ICJ) แห่งกรุงเฮก ประเทศเนเธอร์แลนด์ นายคาร์ลอส โฮเซ อาร์เกลโล โกเมซ เอกอัครราชทูตนิการากัวประจำเนเธอร์แลนด์ ได้กล่าวเปิดคดีภายในศาล โดยระบุต่อหน้าคณะผู้พิพากษา 16 คนว่า เยอรมนีกำลังละเมิดอนุสัญญาการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ปี 1948 อย่างชัดเจน ด้วยการจัดส่งอาวุธให้อิสราเอล แม้ว่าทางศาลจะเตือนมาตั้งแต่เมื่อเดือนมกราคมแล้วว่า มีความเป็นไปได้ ที่จะมีการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์เกิดขึ้นในฉนวนกาซา แต่เยอรมนีก็ยังอำนวยความสะดวกในการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ต่อไป โดยสำหรับปีที่แล้วนั้น เยอรมนีส่งออกอาวุธไปให้อิสราเอล เป็นมูลค่า 326.5 ล้านยูโร เพิ่มขึ้น 10 เท่าจากปี 2022

ทั้งนี้ นิการากัวได้ร้องขอให้ทางศาลทำลายวงจรการสนับสนุนจากเยอรมนี ด้วยการออกคำสั่งฉุกเฉินชั่วคราวว่า เยอรมนีจะต้องระงับความช่วยเหลือทางทหารแก่อิสราเอลทันที และรับรองว่า สิ่งที่มีอยู่แล้วในอิสราเอล จะไม่ถูกนำไปใช้อย่างผิดกฎหมาย นอกจากนี้ ยังเรียกร้องให้ศาลสั่งให้เยอรมนี กลับคำตัดสินเกี่ยวกับการระงับการให้ทุนสนับสนุนหน่วยงานช่วยเหลือผู้ลี้ภัยปาเลสไตน์แห่งสหประชาชาติ (หรือ UNRWA) ด้วย

ขณะที่ด้านของเยอรมนีนั้น นางทาเนีย ฟอน อุสลาร์-ไกลเคิน ที่ปรึกษากฎหมายกระทรวงการต่างประเทศของเยอรมนี ได้กล่าวกับผู้สื่อข่าวว่า นิการากัวกำลังมีอคติอย่างร้ายแรง เยอรมนีไม่เคยละเมิดอนุสัญญาการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์หรือกฎหมายมนุษยธรรมระหว่างประเทศ ทั้งทางตรงและทางอ้อม ทั้งนี้ เยอรมนีจะแสดงถึงเรื่องทั้งหมดต่อหน้าศาลในครั้งต่อไป

สำหรับการที่นิการากัวยื่นเรียกร้องถึงเยอรมนีนั้น ทางหนังสือพิมพ์นิวยอร์กไทมส์ของสหรัฐได้เปิดเผยว่า เป็นเพราะเยอรมนี ซึ่งเป็นผู้ค้าอาวุธรายใหญ่อันดับ 2 ของอิสราเอล รองจากสหรัฐ สามารถถูกดำเนินคดีได้ง่ายกว่าสหรัฐ เพราะเยอรมนีได้ให้อำนาจเต็มแก่ศาลยุติธรรมระหว่างประเทศ ซึ่งเป็นศาลสูงสุดของสหประชาชาติ แต่สหรัฐปฏิเสธเขตอำนาจศาล ยกเว้นในกรณีที่สหรัฐ ให้ความยินยอมเท่านั้น

ทั้งนี้ การเรียกร้องของนิการากัวนั้น ถือเป็นคดีที่ 3 ของศาล ที่เกี่ยวข้องกับความขัดแย้งระหว่างอิสราเอลและปาเลสไตน์ สำหรับในปีนี้ โดยครั้งแรกนั้นคือแอฟริกาใต้ ที่ขอมาตรการฉุกเฉินจากศาลด้วยการระบุว่า อิสราเอลมีความเสี่ยงที่จะก่อเหตุฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ ซึ่งเป็นคำยืนยันที่ศาลเห็นว่าเป็นไปได้ แต่อิสราเอลปฏิเสธอย่างแข็งขัน แต่ในที่สุด ศาลก็ได้สั่งให้อิสราเอลรับรองว่า ทหารของตนจะไม่ละเมิดอนุสัญญาการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ ขณะที่ในครั้งต่อมาคือช่วงต้นเดือนกุมภาพันธ์ ทางสมัชชาใหญ่แห่งสหประชาชาติก็ได้ร้องขอเกี่ยวกับความถูกต้องตามกฎหมาย ของการยึดครองดินแดนปาเลสไตน์ของอิสราเอล ซึ่งทางสหรัฐก็ได้เรียกร้องกลับว่า อย่าสั่งอิสราเอลออกจากดินแดนปาเลสไตน์ หากไม่มีหลักประกันด้านความปลอดภัยสำหรับอิสราเอล

ข่าวที่น่าสนใจ

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ข่าวล่าสุด

เป้าหมายไม่เหลือซาก เปิดเบื้องหลัง 2 เด้ง "F-16 กริพเพน" บินทิ้งไข่กาสิโน กรุงสำโรง-โอว์เสม็ด "เขมร" ใช้เป็นศูนย์สแกมเมอร์ จัดตั้งฐานรบใหญ่
หมอวรงค์" ซัดแรง "เท้ง ณัฐพงษ์" มีปากแล้วอยากพูด โชว์ภูมิแขวะทหารลุยรบทวงคืนแผ่นดินเข้าทางฮุนเซน แซะ "อนุทิน" ลั่นรบไม่มีเจรจา
"พระวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าเฉลิมศึกยุคล" ทรงเปิดงาน “ดวงแก้วแห่งพระมงกุฎเกล้า” เนื่องในอภิลักขิตสมัย 100 ปี วันประสูติ สมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ เจ้าฟ้าเพชรรัตนราชสุดา สิริโสภาพัณณวดี กรมพระนครปฐมบรมขัตติยานี มหาธีรราชธิดา
ทัวร์ลงเดือด! "เลขาปาล์ม" แจงปมซื้อน้ำยาฆ่าเชื้อ 100 ล้าน ยืนยันตัวเลขจริงแค่ 21 ล้าน อยู่ในแผนฟื้นฟู ไม่ได้จัดซื้อ
"ซาบีดา" เปิดงาน "เดินแบบผ้าไทย คารวาลัย พระแม่ของแผ่นดิน" งานประเพณีสุดยิ่งใหญ่ "32 ปี ฮีตฮอย ไทอำนาจ" 2568
จีนเรียกร้อง 'กัมพูชา-ไทย' ยับยั้งชั่งใจ

ดู LIVE รายการ

เราใช้ คุ้กกี้ เพื่อให้ทุกคนได้ประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น​