No data was found

คุกคามชัด ๆ เปิดคำฟ้องอัยการคดี “ตะวัน-แฟรงค์” บีบแตรขบวนเสด็จ

กดติดตาม TOP NEWS

เปิดคำฟ้องอัยการคดี "ตะวัน-แฟรงค์" คุกคามขบวนเสด็จฯ พฤติกรรมชัดบีบแตรนาน 2 นาที พยายามขับแทรกคันอื่น ไล่ตามระยะกระชั้นชิด ก่อนบีบแตรลากยาวอีก 800 ม. ท้าทายดูหมิ่นพระเกียรติยศ

คุกคามชัด ๆ เปิดคำฟ้องอัยการคดี “ตะวัน-แฟรงค์” บีบแตรขบวนเสด็จ – Top News รายงาน

ตะวัน-แฟรงค์

จากกรณี เมื่อวันที่ 1 เมษายน ที่ผ่านมา พนักงานอัยการ สำนักงานอัยการพิเศษฝ่ายคดีอาญา 4 ได้เป็นโจทก์ยื่นฟ้อง ตะวันและแฟรงค์ สองแนวร่วมกลุ่มทะลุวัง คดีคุกคามขบวนของกรมสมเด็จพระเทพฯ เมื่อวันที่ 4 กุมภาพันธ์ ที่ผ่านมา

ล่าสุด ศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยนชน เปิดเผยรายละเอียดคำฟ้องคดีดังกล่าว โดยแยกเป็น 4 กระทง ใน 5 ข้อกล่าวหา ได้แก่ ข้อกล่าวหาตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 116, พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ฯ มาตรา 14 (3), ก่อความเดือดร้อนรำคาญ ตามมาตรา 397, ข้อหาเรื่องการใช้เสียงแตรรถยาวหรือซ้ำเกินควร ตาม พ.ร.บ.จราจรทางบกฯ มาตรา 14, ไม่ปฏิบัติตามคำสั่งเจ้าพนักงาน ตามมาตรา 368 จากกรณีไม่พิมพ์ลายมือในระหว่างรับทราบข้อกล่าวหา เฉพาะแฟรงค์ยังถูกกล่าวหา ในข้อหาดูหมิ่นเจ้าพนักงาน ตามมาตรา 136 อีกหนึ่งข้อหาด้วย

ข่าวที่น่าสนใจ

ทั้งนี้ อัยการบรรยายฟ้อง โดยสรุปพฤติการณ์กระทำความผิดของทั้งสองคนตอนหนึ่งว่า เมื่อวันที่ 4 กุมภาพันธ์ 67 ขณะที่มีการอารักขาขบวนเสด็จของกรมสมเด็จพระเทพฯ อยู่บนทางพิเศษศรีรัช มุ่งหน้าอนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ ที่ทางลงทางด่วนพหลโยธิน 1 ตะวันและแฟรงค์ได้ร่วมกันบีบแตรรถยนต์ตลอดเวลา เสียงดังยาว 1 – 2 นาที และขับรถยนต์แทรกคันอื่นๆ ที่หยุดรอขบวนเสด็จ เพื่อขับแทรกเข้าไปในเส้นทางของขบวนเสด็จ ที่กำลังเคลื่อนผ่านบริเวณทางต่างระดับมักกะสัน ที่รถยนต์ของผู้ต้องหาทั้งสองคนอยู่

ต่อมาเมื่อขบวนเสด็จผ่านไปแล้ว จำเลยทั้งสองคน ได้ขับรถไล่ติดตามขบวนเสด็จไปในระยะกระชั้นชิด และบีบแตรลากยาวโดยไม่มีเหตุอันควร ตลอดจนถึงบริเวณทางลงของทางด่วนพหลโยธิน 1 เป็นระยะประมาณ 800 เมตร ซึ่งเจ้าหน้าที่อารักขา ได้สกัดกั้นจำเลยทั้งสองคนไว้ได้

นอกจากนี้ ในขณะเกิดเหตุ ส.ต.อ.นพรัตน์ อินทิแสน ซึ่งเป็นเจ้าหน้าที่อารักขาขบวนเสด็จ ได้เข้าสกัดกั้นรถยนต์ของจำเลยทั้งสอง ให้หยุดการกระทำ โดยแฟรงค์ได้ดูถูกเจ้าหน้าที่คนดังกล่าว ด้วยถ้อยคำหยาบคาย และทำให้เจ้าหน้าที่คนดังกล่าวรู้สึกอับอาย และถูกลดคุณค่า ในขณะที่กำลังปฏิบัติตามหน้าที่ อันเป็นการดูหมิ่นเจ้าพนักงาน

เหตุทั้งหมด อัยการได้มีความเห็นสั่งฟ้องว่า การกระทำของจำเลยทั้งสองคนที่ต่อเนื่องกัน เป็นการสร้างความปั่นป่วน หรือกระด้างกระเดื่อง ถึงขนาดที่ก่อให้เกิดความไม่สงบในบ้านเมือง และเพื่อให้ประชาชนล่วงละเมิดกฎหมาย อันมิใช่การกระทำมุ่งหมายแห่งรัฐธรรมนูญ และมิใช่การติชมโดยสุจริต

และเนื้อหาการโพสต์ของจำเลยที่ 1 หรือตะวัน เป็นการอวดอ้างพฤติกรรมของจำเลยทั้งสอง ที่ขับรถแทรกรถยนต์ของประชาชนที่อยู่บริเวณนั้น เพื่อจะพยายามขับแซงไปข้างหน้า ให้ใกล้กับขบวนเสด็จของกรมสมเด็จพระเทพฯ ทั้งยังมีการบีบแตรส่งเสียงดังแสดงความก้าวร้าว เป็นการต่อต้าน ท้าทายดูหมิ่นพระเกียรติยศ

อีกทั้งยังทำให้ประชาชนที่ติดตามเฟซบุ๊กของตะวัน เข้าใจว่า ขบวนเสด็จสร้างความเดือดร้อนให้ประชาชน ก่อให้เกิดการวิพากษ์วิจารณ์ในกลุ่มโซเชียลมีเดีย อันเป็นการกระทำที่อาจสร้างความปั่นป่วนในหมู่ประชาชน และเป็นภัยอันตรายต่อความปลอดภัยทางสาธารณะ

ด้านเจ๊จุก คลองสาม ทวีตข้อความว่า.. “ที่เคยปั่นกันว่า แค่บีบแตร มาอ่านคำฟ้องของอัยการหน่อยมั้ยคะ ร่วมกันบีบแตรตลอดระยะเวลา 1-2 นาที และขับรถยนต์แทรกคันอื่นๆ ที่หยุดรอขบวนเสด็จ เมื่อขบวนผ่าน ทั้งสองได้ขับรถไล่ติดตามไปในระยะกระชั้นชิด และบีบแตรลากยาวอีก 800 เมตร เจ้าหน้าที่อารักขาจึงมาสกัดไว้ คุกหัวโตแน่นอนค่ะ”

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ข่าวล่าสุด

"สุชาติ" เปิดบ้านชื่นมื่น ชาวชลบุรีแห่ยินดี รับตำแหน่งรมช.พาณิชย์ ลั่นมุ่งมั่นทำงานเพื่อประชาชน สถาบันหลักชาติ
รอง ผอ.ศรชล.จว.สป. เป็นประธานจัดกิจกรรม "วันอาภากร"
ยายวัย 82 โชคดีหวิดดับ หลังมายืนรดน้ำต้นไม้
ผู้กำกับพัทยาจัดพิธีบวงสรวง เสด็จเตี่ย เนื่องในวันอาภากร
สพป.ขอนแก่น สั่งเด้ง "ผอ." ซื้อบริการเด็ก 12 ปี ตั้งคกก.สอบ เข้าข่ายผิดวินิยร้ายแรง
"โฆษกศธ." ย้ำนโยบายลดภาระเปิดเทอม ผ่อนผัน ยกเว้นแต่งชุดนร.ไม่ใช่ยกเลิก
"ทนายด่าง" เตรียมนำทีมครอบครัว ทวงถามรพ.ราชทัณฑ์ ขอเอกสารก่อน "บุ้ง" เสียชีวิต 5 วัน ยังคาใจใส่ท่อผิดจุด
เตรียมพิธีรับมอบ "Golden Boy–สตรีพนมมือ" หวนคืนแผ่นดินไทย 21 พ.ค.นี้
"นักโบราณคดี" ยืนยัน "โกลเด้นบอย" ถูกค้นพบที่ จ.บุรีรัมย์ ถือเป็นหลักฐานใหม่ พลิกหน้าประวัติศาสตร์
คลิปนี้ชัดมาก “แม่น้องไนซ์” พูดเต็มปากเต็มคำ เชื่อมจิตมีในพระไตรปิฎก โซเชียลจับตาส่อผิด พ.ร.บ.คอมพ์

ดู LIVE รายการ

X

เราใช้ คุ้กกี้ เพื่อให้ทุกคนได้ประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น