No data was found

กทม.รวมพลัง ปิดไฟ 1 ชั่วโมง ลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนได้ถึง 11 ตัน

กดติดตาม TOP NEWS

กทม.รวมพลัง ปิดไฟ 1 ชั่วโมง ลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนได้ถึง 11 ตัน

กทม.รวมพลัง ปิดไฟ 1 ชั่วโมง ลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนได้ถึง 11 ตัน TOPNEWSรายงาน

เมื่อวันที่ 23 มี.ค. 67 นายเอกวรัญญู อัมระปาล ผู้ช่วยเลขานุการผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร และโฆษกกรุงเทพมหานคร เปิดเผยว่า กิจกรรม “ปิดไฟ 1 ชั่วโมง เพื่อลดโลกร้อน ปี 2567 (60+ Earth Hour 2024)” เป็นกิจกรรมที่กรุงเทพมหานคร โดยสำนักสิ่งแวดล้อม สำนักและสำนักงานเขต ร่วมกับภาคีเครือข่ายทั้งภาครัฐ เอกชน รณรงค์และเชิญชวนผู้ประกอบการ ร้านค้า ประชาชน ลดการใช้พลังงานและปิดไฟที่ไม่จำเป็น เช่น ไฟประดับ ไฟอาคาร ป้ายโฆษณา รวมถึงการถอดปลั๊กเครื่องใช้ไฟฟ้าที่ไม่ใช้งาน ลดการใช้เครื่องปรับอากาศในอาคารบ้านเรือน เป็นเวลา 1 ชั่วโมง พร้อมกับเมืองต่าง ๆ กว่า 7,000 เมือง 190 ประเทศทั่วโลก ในวันเสาร์ที่ 23 มีนาคม 2567 ระหว่างเวลา 20.30 – 21.30 น. ซึ่งทุกภาคส่วนได้ให้ความร่วมมือปิดไฟในช่วงดังกล่าว

 

ปิดไฟ 1 ชั่วโมง

 

 

ข่าวที่น่าสนใจ

โดยในปีนี้ 5 Landmark หลักของกรุงเทพมหานคร ได้แก่ วัดพระศรีรัตนศาสดาราม (วัดพระแก้ว) พระบรมมหาราชวัง วัดอรุณราชวรารามราชวรมหาวิหาร เสาชิงช้า สะพานพระราม 8 และวัดสระเกศราชวรมหาวิหาร (ภูเขาทอง) ได้ร่วมปิดไฟเชิงสัญลักษณ์ด้วย ซึ่งจากการคำนวณปริมาณการใช้ไฟฟ้าช่วงเวลาดังกล่าวในพื้นที่กรุงเทพฯ โดยการไฟฟ้านครหลวง พบว่า กิจกรรม #ปิดไฟ 1 ชั่วโมง เพื่อลดโลกร้อน ปี 2567 นี้ ในพื้นที่กรุงเทพมหานคร สามารถลดปริมาณการใช้ไฟฟ้าได้ 24.65 เมกะวัตต์ เมื่อเปรียบเทียบกับการใช้ไฟฟ้าในพื้นที่กรุงเทพมหานคร เมื่อวันเสาร์ที่ 16 มีนาคม 2567 ระหว่างเวลา 20.30 – 21.30 น. ลดความต้องการการใช้ไฟฟ้าลงได้ 24.65 เมกะวัตต์ ลดปริมาณการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ได้ 11 ตันคาร์บอนไดออกไซด์เทียบเท่า เทียบได้กับการดูดซับก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ของต้นไม้ 1,100 ต้น ใน 1 ปี (ต้นไม้ยืนต้น 1 ต้น สามารถดูดซับก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ได้ประมาณ 10 กิโลกรัมต่อปี) และสามารถลดค่าไฟฟ้าลงได้ 130,182 บาท

 

 

กรุงเทพมหานครได้ให้ความสำคัญต่อปัญหาภาวะโลกร้อนซึ่งส่งผลกระทบไปทั่วโลก จึงได้รณรงค์เพื่อสร้างจิตสำนึกให้ประชาชนและทุกภาคส่วนเห็นความสำคัญและมีส่วนร่วมในการแก้ไขปัญหาดังกล่าวมาอย่างต่อเนื่อง หนึ่งในกิจกรรมที่ดำเนินการคือกิจกรรมปิดไฟ 1 ชั่วโมง เพื่อลดโลกร้อน โดยร่วมกับภาคีเครือข่ายภาครัฐ เอกชน รณรงค์ในกิจกรรมดังกล่าวมาตั้งแต่ปี 2551 ผลจากการจัดกิจกรรม “ปิดไฟ 1 ชั่วโมง เพื่อลดโลกร้อน (60+ Earth Hour) เมื่อปี 2566 ในพื้นที่กรุงเทพฯ สามารถลดปริมาณการใช้ไฟฟ้าได้ 36 เมกะวัตต์ และลดปริมาณการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ลงได้ 5.2 ตัน หรือเทียบกับเที่ยวบินกรุงเทพฯ-เชียงใหม่ จำนวน 43 เที่ยวบิน หรือการใช้รถยนต์ดีเซลเท่ากับ 31,200 กิโลเมตร หรือเทียบกับการปิดไฟครัวเรือน 23,400 ครัวเรือน และจากการจัดกิจกรรมอย่างต่อเนื่อง ตั้งแต่ปี 2551 – 2566 สามารถลดปริมาณการใช้ไฟฟ้าได้ 22,512 เมกะวัตต์ ลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ ตัวการปัญหาโลกร้อนได้ 12,260.6 ตัน คิดเป็นมูลค่า 81.14 ล้านบาท

 

 

 

 

นอกจากนี้ยังได้รับความร่วมมือจากภาคีเครือข่าย 30 หน่วยงาน ร่วมประกาศเจตจำนง กับกรุงเทพมหานครในการดำเนินการลดภาวะโลกร้อน 4 ด้าน ประกอบด้วย 1. ด้านการขนส่งมวลชน 2. ด้านพลังงาน 3. ด้านพื้นที่สีเขียว และ 4. ด้านการจัดการขยะมูลฝอย ผลการดำเนินงานในปี 2565 สามารถลดปริมาณก๊าซเรือนกระจกในด้านต่าง ๆ ประกอบด้วย ด้านขนส่งมวลชน 1,525.6 ตันคาร์บอนไดออกไซด์เทียบเท่า ด้านพลังงาน 24,178 ตันคาร์บอนไดออกไซด์เทียบเท่า ด้านการจัดการมูลฝอย 1,140.9 ตันคาร์บอนไดออกไซด์เทียบเท่า และด้านพื้นที่สีเขียวที่ช่วยในการดูดซับก๊าซ 131.3 ตันคาร์บอนไดออกไซด์เทียบเท่า รวมปริมาณการลดก๊าซเรือนกระจกของ 30 หน่วยงาน 26,975.9 ตันคาร์บอนไดออกไซด์เทียบเท่า

 

 

ทั้งนี้กรุงเทพมหานคร ขอขอบคุณทุกภาคส่วนที่ให้ความร่วมมืออย่างต่อเนื่องมาโดยตลอด ซึ่งกิจกรรมปิดไฟฯ ในวันนี้ เป็นเพียงสัญลักษณ์ที่แสดงถึงความร่วมมือ หากประชาชนทุกคนตระหนักถึงการใช้พลังงานอย่างมีประสิทธิภาพและร่วมอนุรักษ์พลังงาน ด้วยการปฏิบัติให้เป็นวิถีชีวิตประจำวัน เช่น ถอดปลั๊กไฟทุกครั้งหากไม่ใช้งาน ใช้เครื่องใช้ไฟฟ้าเท่าที่จำเป็น ปิดไฟที่ไม่ใช้งานทุกครั้งอย่างต่อเนื่อง รวมถึงการลงมือปฏิบัติในชีวิตประจำวัน เช่น การใช้จักรยาน การปลูกต้นไม้ การลดใช้รถยนต์ เป็นต้น ซึ่งด้วยวิธีง่าย ๆ เหล่านี้ ถ้าทุกคนร่วมมือกัน จะเป็นพลังยิ่งใหญ่ที่ช่วยโลกของเราจากปัญหาโลกร้อนได้อย่างยั่งยืน

 

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ข่าวล่าสุด

อิสราเอล กลุ่มผู้ประท้วงทำลายของบรรเทาทุกข์
เนเธอร์แลนด์ ปิดมหาฯลัย 2 วัน หลังเหตุประท้วงรุนแรง
คูเวตตั้งรบ.ใหม่ หลังประมุขประกาศริบอำนาจ-ยุบสภา
คณะกรรมการสุขภาพแห่งชาติ เตรียมเสนอ 5 มาตรการ เร่งสกัดการแพร่ระบาด "บุหรี่ไฟฟ้า" ในกลุ่มเยาวชน
เนื้อหมู แหล่งโปรตีนยอดนิยม บริโภคปลอดภัยต้องปรุงสุกทุกครั้ง
"วราวุธ" พร้อมขออำนาจศาล เปิดทางพม.ตรวจสุขภาพจิต "น้องไนซ์ " หลังพ่อแม่ขวางคุยลูกชาย
“ภูมิธรรม” โยนคลังจัดการเอง ปมจม.ลาออก “กฤษฎา” ลั่นไม่อยากจินตนาการแล้วนำมาพูด
แฉ Before-After ร้านอาหารดัง 3 นิ้ว ก๊วนทะลุวังยกโขยงช่วยโปรโมท ล่าสุดประกาศปิดตัว
กองทัพต้องเดินด้วยท้อง 2 บิ๊กกระเป๋าหนักยื่นซองขาวตีจาก ขาดน้ำเลี้ยง มุ้งบ้านใหญ่ใจเสีย เขย่า "รทสช." ระส่ำหนัก
ทนายความ อัปเดตอาการล่าสุด "บุ้ง" หลังหัวใจหยุดเต้น ครอบครัวเข้าเยี่ยมรพ.ราชทัณฑ์แล้ว

ดู LIVE รายการ

X

เราใช้ คุ้กกี้ เพื่อให้ทุกคนได้ประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น